ซีพีเอฟ สานต่อโครงการ “ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” เฟสสอง ร่วมรักษาสมดุลระบบนิเวศทางทะเล

บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ ซีพีเอฟ เดินหน้าโครงการ”ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน” ระยะที่สอง ปี 2562-2566 จับมือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อนุรักษ์ ฟื้นฟู ระบบนิเวศป่าชายเลนและชายฝั่งทะเล พื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าพันท้ายนรสิงห์ ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังผลสำเร็จของโครงการระยะที่ 1 เกิดความหลากหลายทางชีวภาพ สัตว์น้ำ กุ้ง หอย ปู ปลา ในพื้นที่มีปริมาณเพิ่มขึ้น

คุณวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซีพีเอฟ กล่าวว่า ภายใต้วิสัยทัศน์ของบริษัทฯ สู่การเป็น“ครัวโลก” ซีพีเอฟมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจควบคู่กับให้ความสำคัญในการดูแลทรัพยากรธรรมชาติ ซึ่งเป็นต้นทางของวัตถุดิบในกระบวนการผลิตอาหาร โดยได้ดำเนินโครงการเพื่ออนุรักษ์และฟื้นฟูสิ่งแวดล้อม ภายใต้กลยุทธ์ 3 เสาหลัก คือ อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน ดินน้ำป่าคงอยู่ สามารถเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศไทยมากกว่า 1 หมื่นไร่ ผ่านการดำเนินโครงการซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง 5,971 ไร่ โครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน 2,388 ไร่ และโครงการซีพีเอฟรักษ์นิเวศ ปลูกต้นไม้ในสถานประกอบการทั่วประเทศรวม 1,720 ไร่

“ เป้าหมายของโครงการด้านสิ่งแวดล้อมในระยะต่อไป คือ มีส่วนร่วมลดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ด้วยการกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ของต้นไม้ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ปรับปรุงสภาพป่าชายเลนที่เสื่อมโทรมให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหารของชุมชน และช่วยรักษาสมดุลระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง” คุณวุฒิชัย กล่าว

ทั้งนี้ ปี 2562-2566 เป็นการสานต่อโครงการ ”ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้อง ป่าชายเลน” ระยะที่หนึ่ง ซึ่งบริษัทฯ ร่วมมือกับกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช อนุรักษ์ ปกป้อง และฟื้นฟู ความหลากหลายทางชึวภาพของระบบนิเวศบนบกและทะเล ที่ ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร บนเนื้อที่รวม 266 ไร่ เป็นแปลงปลูกป่าต่อเนื่องจากแปลงที่มีการอนุรักษ์และฟื้นฟูในระยะแรก (ปี 2557-2561) ซึ่งซีพีเอฟร่วมมือกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) และชุมชน ฟื้นฟูป่าชายเลนในพื้นที่ ต.บางหญ้าแพรก ปลูกป่าใหม่ 104 ไร่ ดูแลและอนุรักษ์ป่าเดิม 500 ไร่ โดยในช่วง 5 ปีของโครงการระยะแรกสามารถอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลนไปแล้วรวม 2,388 ไร่ ในพื้นที่ยุทธศาสตร์ 5 จังหวัด คือ ระยอง สมุทรสาคร สงขลา พังงาและชุมพร

คุณวุฒิชัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ความร่วมมือในลักษณะ 3 ประสาน โดยภาครัฐ เอกชน และชุมชน ในโครงการ ซีพีเอฟ ปลูก ปัน ป้องป่าชายเลน ช่วยฟื้นฟูสมดุลระบบนิเวศป่าชายเลน 2,388 ไร่ อาทิ ป่าชายเลนที่ ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร หลังการอนุรักษ์และฟื้นฟูพบว่ามีการตกตะกอนของชั้นดินสูงขึ้น ช่วยแก้ปัญหาเรื่องการกัดเซาะชายฝั่ง ผืนป่าที่กลับมาอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน ปริมาณสัตว์น้ำกลับเข้ามาในพื้นที่มากขึ้น เช่น ปูแสม ปูก้ามดาบ หอยแครง หอยเสียบ หอยกระปุก เป็นต้น รวมทั้งสัตว์ที่หายไปจากพื้นที่เป็นเวลาหลายปี เช่น หอยพิม ชุมชนโดยรอบสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติที่ได้รับการฟื้นฟู

นอกจากสภาพป่าชายเลนที่กลับมาอุดมสมบูรณ์แล้ว ซีพีเอฟยังได้สนับสนุนกิจกรรมที่มีเป้าหมายสร้างความเข้มแข็งของชุมชน โดยมอบเงินสำหรับเป็นกองทุนหมุนเวียนที่ดูแลและบริหารโดยชุมชนเอง สามารถนำไปส่งเสริมด้านอาชีพของชาวบ้านในชุมชนให้มีรายได้ และได้พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศและวิถีชุมชน 2 พื้นที่ คือ เส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ต.บางหญ้าแพรก อ.เมือง จ.สมุทรสาคร และเส้นทางท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ต. ปากน้ำประแส อ.แกลง จ.ระยอง เพื่อให้ชุมชนมีรายได้จากการท่องเที่ยวและนำเงินส่วนหนึ่งเข้ากองทุนฯ ใช้ในการอนุรักษ์และดูแลป่าอย่างยั่งยืน

ที่มา:สยามรัฐ