MG แจงความสำเร็จ ยอดขายรถอเนกประสงค์ขึ้นแท่นเบอร์หนึ่งในไทย

SAIC Motor CP และ MG Sales Thailand ผู้ผลิตและผู้จำหน่ายรถยนต์ MG ในประเทศไทย แจงความสำเร็จด้วยการครองตำแหน่ง แบรนด์ที่มียอดขายอันดับหนึ่งในกลุ่มรถครอสโอเวอร์ ด้วยยอดขายเดือนมิถุนายน 1,233 คัน โดยมียอดขายสะสม 6 เดือน 7,131 คัน

MG เผยยอดขายในเดือนมิถุนายนและยอดขายสะสม 6 เดือนที่ผ่านมา โดยมียอดขายรถยนต์กลุ่มครอสโอเวอร์ ในเดือนมิถุนายน 1,233 คัน ครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดในกลุ่มรถอเนกประสงค์ไซส์เล็กและไซส์กลาง ทั้ง MG ZS และ MG HS โดยยอดขายระหว่างเดือนมกราคม – มิถุนายน 2563 หรือช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา MG มียอดจำหน่ายสะสมรวม 7,131 คัน ครองตำแหน่งยอดขายสูงสุดในกลุ่มรถครอสโอเวอร์ ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 23% โดยแบ่งเป็นยอดขาย MG ZS จำนวน 4,345 คัน MG HS จำนวน 2,564 คัน MG ZS EV จำนวน 191 คัน และ MG GS จำนวน 31 คัน

MG ZS รุ่นปรับโฉม เป็นรถยอดนิยมที่ทำยอดขายได้ดี มีราคาที่จับต้องได้ประมาณ 689,000 – 799,000 บาท สำหรับ MG HS รถรุ่นนี้ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า โดยมียอดจำหน่ายสะสมระหว่างเดือนตุลาคม 2562 – มิถุนายน 2563 รวม 4,567 คัน ขึ้นเป็นอันดับหนึ่งในกลุ่ม (C-SUV) MG HS มีราคา 919,000 – 1,190,000 บาท เป็นรถที่มีความคุ้มค่า สามารถตอบสนองกับไลฟ์สไตล์ของผู้คนยุคใหม่ ทำให้สามารถกวาดยอดขายสะสมเป็นอันดับหนึ่ง เป็นระยะเวลากว่า 9 เดือนตั้งแต่เดือนตุลาคมเมื่อปีที่ผ่านมา

NEW MG ZS รุ่นปรับโฉม เครื่องยนต์เบนซิน 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ระบบเกียร์อัตโนมัติ CVT 8 สปีด หน้าจอแสดงผลขนาด 7 นิ้ว ดีไซน์ใหม่ (Digital Multi-Function Display) และหน้าจอ touch screen ขนาดใหญ่ 10 นิ้ว หลังคาซันรูปพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ระบบปฏิบัติการ i-SMART พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ Emergency Call ซึ่งจะช่วยให้ผู้ขับขี่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงทีเมื่อถุงลมนิรภัยในรถทำงาน ด้วยการโทรและส่งข้อความระบุพิกัดรถไปยังเบอร์โทรที่ได้มีการตั้งค่าไว้ เพิ่มโอกาสการรับความช่วยเหลือในเวลาฉุกเฉิน รวมทั้งมีระบบความปลอดภัยที่ให้มากกว่าเดิมทั้งกล้องมองภาพรอบทิศทาง 360 องศา (Around View Monitor) และระบบความปลอดภัยอื่นๆ อย่างครบครัน MG ZS ราคา 689,000 – 799,000 บาท

MG HS ครอสโอเวอร์ไซส์กลางติดหรู มาพร้อมกับเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบขนาด 1.5 ลิตร กำลังสูงสุด 162 แรงม้า พร้อมปุ่ม Super Sport โหมดการขับขี่ที่จะดึงกำลังขั้นสุด ติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกสบาย เช่น หน้าจอแสดงผลที่มาตรวัดแบบ Interactive Multi – Function Display ขนาด 7 นิ้ว พร้อมหน้าจอหลักแบบ Smart Touchscreen ขนาด 10 นิ้ว ระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ที่รองรับการสั่งการด้วยเสียงภาษาไทย ไฟห้องโดยสารแบบ Interactive Ambient Light ปรับโทนแสงได้มากถึง 64 เฉดสี หลังคาซันรูฟแบบพาโนรามา (Panoramic Sunroof) ขนาดใหญ่ 1.1 ตารางเมตร ระบบความปลอดภัยมาตรฐาน 25 ระบบ ประกอบไปด้วย ระบบ Synchronized Protection System ที่ช่วยทั้งเรื่องระบบเบรกและช่วยรักษาเสถียรภาพในการขับขี่ 14 ระบบ และระบบ Advanced Driver Assistance System (ADAS) ระบบความปลอดภัยที่ช่วยควบคุมการขับขี่และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ อีก 11 ระบบ

ที่มา :ไทยรัฐ