เทคโนโลยีและความยั่งยืน เทรนด์แห่งอนาคต กับทิศทางพัฒนา ‘อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร’

ภารกิจ R&D หรือ Research & Development ของแต่ละองค์กร แม้จะต้องอาศัยเวลากว่าที่จะได้รับผลออกมา ซึ่งนอกจากจะได้แนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ แล้วยังสามารถนำผลที่ได้มาสื่อสารเพื่อเป็นประโยชน์กับการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมนั้นได้ด้วย

เมื่อเร็วๆ นี้ ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า (Customer Innovation Centre: CIC) บริษัท Tetrapak เต็ดตรา แพ็ค ประเทศสิงคโปร์ ผู้นำเสนอโซลูชันใน ‘อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร’ ชั้นนำของโลก

ระบุว่าเทคโนโลยีและความยั่งยืนจะเป็นตัวขับเคลื่อนหลักที่กำลังก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงใน ‘อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร’ โดยจะเข้ามาสร้างโอกาสการเติบโต ยกระดับขั้นตอนการสร้างสรรค์นวัตกรรม และค้นหาโซลูชันใหม่หรือปรับปรุงประสิทธิภาพของ บรรจุภัณฑ์อาหาร ในอนาคตให้ดีขึ้น

ประสบการณ์ใหม่ผู้บริโภคยุคมิลเลนเนียล
รายงานของ ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้า (Customer Innovation Centre: CIC) บริษัท tetrapak ยังระบุว่า เทคโนโลยีระบบดิจิทัล ว่าจะเป็นเทรนด์แรกที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานของผู้ผลิตในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งในงานวิจัยแสดงให้เห็นชัดเจนในประเด็นต่างๆ ดังนี้

• ผลิตภัณฑ์ที่สามารถมอบประสบการณ์จากฟังก์ชันการทำงานใหม่ๆ กำลังเป็นที่ต้องการอย่างมาก เนื่องจากมีผู้บริโภคจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่พร้อมจะจ่ายเงินมากขึ้นให้กับผลิตภัณฑ์ที่ใช้บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากความมั่นใจในบรรจุภัณฑ์ที่จะสามารถมอบหลักประกันด้านอาหารความปลอดภัยได้นั่นเอง

• บรรจุภัณฑ์อัจฉริยะทำให้ผู้ซื้อเข้าถึงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับอาหาร ได้อย่างมากมายมหาศาล และเข้าถึงได้อย่างง่ายดาย อาทิ สถานที่ผลิต แหล่งเพาะปลูกวัตถุดิบ ไปจนถึงสถานที่ที่สามารถส่งบรรจุภัณฑ์ไปรีไซเคิลได้

• ในยุคการค้าออนไลน์ โซลูชั่นบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะจะป๊อบปูล่าและโดนใจผู้บริโภคสมัยใหม่มาก เพราะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ตลอดทั้งวงจรการบริโภค และยังมีความคงทนช่วยปกป้องผลิตภัณฑ์ได้ตลอดการขนส่งสินค้าด้วย ยิ่งในยุคที่มีการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมร้านค้าออนไลน์จะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในช่วง 4 ปีข้างหน้า บรรจุภัณฑ์ที่ผ่านการคิดค้นโดยใส่เทคโนโลยีดิจิทัลทันสมัยเข้าไป มีปรากฏการณ์ล่าสุดที่ผู้ค้าปลีกออนไลน์สามารถสังเกตเห็นแบรนด์สินค้าได้ด้วย แอปพลิเคชันระบุข้อมูลแบบอัตโนมัติผ่านคลื่นวิทยุ (Radio Frequency Identification: RFID) รูปแบบใหม่บนบรรจุภัณฑ์ สามารถทำยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 30% ภายในระยะเวลาไม่นาน

บรรจุภัณฑ์อาหารแห่งอนาคตเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ความยั่งยืน เป็นเทรนด์ที่สองที่ เต็ดตรา แพ้ค ระบุว่าเป็นตัวแปรสำคัญที่ขับเคลื่อน อุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์อาหาร ของโลก เนื่องจากความต้องการบรรจุภัณฑ์แบบยั่งยืนกำลังพุ่งสูงขึ้นทั่วโลก โดยในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผู้บริโภค 49% คิดว่าการซื้อผลิตภัณฑ์อาหารที่ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญมาก ทำให้บรรจุภัณฑ์มีบทบาทสำคัญอย่างมากในประเด็นความยั่งยืนนี้

ยกตัวอย่างกล่องเครื่องดื่มซึ่งถือเป็นหนึ่งในบรรจุภัณฑ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากที่สุดเท่าที่มีอยู่ในขณะนี้ เพราะทำมาจากทรัพยากรที่ทดแทนได้เป็นหลัก และยังรีไซเคิลได้ 100% ซึ่งรวมถึงหลอดและฝาปิด อีกทั้งกล่องยังมีน้ำหนักเบา ทำให้ขนส่งได้คราวละมากๆ อัตราการเสียหายต่ำสุดๆ และทำให้เกิดขยะที่ไม่จำเป็นน้องลไปด้วย

ทั้งนี้ ผู้ค้าออนไลน์ระบุว่า บรรจุภัณฑ์ประเภทกล่องเครื่องดื่มนั้นประหยัดพื้นที่ ช่วยลดปริมาณการขนส่งสินค้าได้ราว 30-50% เลยทีเดียว ทั้งยังเป็นที่นิยมของผู้บริโภคในเขตเมืองที่มักเป็นครอบครัวเล็กและมีพื้นที่เก็บของจำกัดด้วย

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีและความยั่งยืนกลายเป็นเทรนด์หลักของอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ เพราะผู้บริโภคต่างให้ความสำคัญกับ 2 สิ่งนี้ ซึ่งเมื้อผู้ผลิต ผู้ค้าปลีก และผู้ซื้อสินค้ามีแนวคิดตรงกัน เราจึงจะได้เห็นขั้นตอนการผลิตที่เปลี่ยนแปลงแบบฉับพลัน

นี่ถือเป็นพันธกิจของบริษัทที่ต้องนำเสนอเทรนด์สำคัญๆ เช่นนี้แก่กลุ่มลูกค้าของเขา เพื่อช่วยให้เขาสามารถสร้างความเติบโตในธุรกิจทั้งในวันนี้และอนาคต

R&D ตัวกำหนดทิศทางอุตสาหกรรม
อย่างที่กล่าวมาตั้งแต่ต้นว่า R&D มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการบุกเบิกขยายธุรกิจ และบริษัทที่ตระหนักในเรื่องนี้ก็มักจะได้ผลตอบแทนในด้านการพัฒนาและความก้าวหน้า ก้าวทันเทคโนโลยีที่ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งเสมอ และโมเดลที่ บริษัท เต็ดตรา แพ้ค ได้ทำ ก็มายืนยันหลักการนี้ได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ เส้นทางการดำเนินงานด้าน R&D ของบริษัทนี้ จึงมีความชัดเจนขึ้นตั้งแต่มีการตั้ง ศูนย์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์สำหรับลูกค้าในสิงคโปร์ เพื่อช่วยให้ลูกค้าของ เต็ดตรา แพ้ค รวมถึงผู้สนใจและผู้นำเทรนด์ในโลกอุตสาหกรรม สามารถติดตามเทรนด์ต่างๆ ของโลกได้อย่างทันท่วงที

ภายในศูนย์นี้แห่งนี้มีเครื่องมือและเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมการพัฒนาแนวคิด การระดมความคิด การสร้างสูตรผลิตภัณฑ์ต้นแบบ การออกแบบบรรจุภัณฑ์ที่มีรูปแบบเฉพาะตามความต้องการของลูกค้า และยกระดับคุณภาพผลิตภัณฑ์ขั้นสุดท้ายก่อนการเปิดตัวในตลาดอย่างเต็มรูปแบบ

ศูนย์แห่งนี้ ยังช่วยให้ผู้ผลิตอุตสาหกรรมในภูมิภาคสามารถค้นพบโอกาสการเติบโต เสริมประสิทธิภาพการคิดค้นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ และสร้างสรรค์โซลูชั่นที่มีประสิทธิภาพให้แก่แบรนด์ของลูกค้า นับเป็นศูนย์บริการแบบ One Stop ที่รวบรวมสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐาน กระบวนการคิดค้นนวัตกรรม ความเชี่ยวชาญที่จำเป็นสำหรัลการพฒนาแนวคิดตั้งแต่เริ่มต้นจนสำเร็จเข้าไว้ด้วยกันอย่างครบวงจร

ที่มา : ThaiPR.net