รวมพลังซีพีอาสา ร้อยเรียงความดี ‘สืบสาน–รักษา’ รักษ์สายน้ำเจ้าพระยา ส่งต่อความใสสะอาดสู่สายน้ำไทย เนื่องในวันแม่น้ำโลก พร้อมกระตุ้นจิตสำนึกสู่เป้าหมาย Zero Waste”

กรุงเทพฯ – 26 กันยายน 2568 – เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ร่วมกับบริษัทในเครือ ทั้ง ซีพีเอฟ, ซีพี ออลล์, ซีพี แอ็กซ์ตร้า และ ซีพีพีซี พร้อมพันธมิตรชั้นนำ ร่วมกิจกรรม “ซีพีร้อยเรียงความดี รวมพลังซีพีอาสา สืบสาน รักษา เพื่อสายน้ำไทยใสสะอาด” ภายในงาน “สืบสานมรดกแห่งสายน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา” เนื่องใน วันแม่น้ำโลก (World Rivers Day) ภายใต้แนวคิด “HEART FOR THE RIVER, POWER FOR TOMORROW” ณ ท่าเรือไอคอนสยาม กรุงเทพฯ

งานครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้บริหารระดับสูงของเครือซีพีและบริษัทในเครือเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง อาทิ คุณบุญชัย โอภาสเอี่ยมลิขิต ประธานธุรกิจ – สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และอังกฤษ เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณวิเชียร จึงวิโรจน์ ประธานคณะทำงานโครงการเครือเจริญโภคภัณฑ์ ครบรอบ 100 ปี ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณวิทวัส ตันติเวสส รองประธานคณะทำงานโครงการครบรอบ 100 ปี เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณกีรติ ศตะสุข ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซี.พี. แลนด์ จำกัด คุณสมศักดิ์ เลิศชัย ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ซีพีพีซี จำกัด (มหาชน) คุณศิริพร เดชสิงห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) และคุณศุภฤกษ์ อาจราชกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานกลยุทธ์ บมจ.ซีพี ออลล์

นอกจากนี้ ยังมีซีพีอาสากว่า 200 คน จากซีพีเอฟ, ซีพี ออลล์, ซีพี แอ็กซ์ตร้า, ซีพีพีซี, ทรู คอร์ปอเรชั่น และซีพีแลนด์ มาร่วมร้อยเรียงความดี ด้วยการเก็บขยะรอบแม่น้ำเจ้าพระยาและปรับปรุงภูมิทัศน์บริเวณท่าเรือสาทร พร้อมทั้งผนึกกำลังกับภาคีเครือข่ายนับพันคน ในกิจกรรมเก็บขยะเชิงสัญลักษณ์ตลอดเส้นทางริมสายน้ำ

กิจกรรมครั้งนี้ไม่เพียงมุ่งเน้นการเก็บขยะเท่านั้น แต่ยังสื่อสารแนวคิดการลดขยะตั้งแต่ต้นทาง และการส่งเสริมการรีไซเคิลอย่างเป็นรูปธรรม โดยขยะที่เก็บได้ทั้งหมดจะถูกส่งต่อให้กรุงเทพมหานครเพื่อนำไปคัดแยกและจัดการอย่างถูกวิธี สะท้อนถึงพลังความร่วมมือของทุกภาคส่วนในการรักษาแม่น้ำเจ้าพระยาให้สะอาดและยั่งยืน ตลอดจนสอดคล้องกับนโยบายความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ที่ตั้งเป้าหมาย Zero Waste ภายในปี 2030 และเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน SDG ข้อ 17 (Partnerships for the Goals) ที่มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายความร่วมมือข้ามภาคส่วน เพื่อร่วมกันสร้างผลลัพธ์ที่ดีต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม

คุณชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า “ประเทศไทยถูกจัดอันดับอยู่ในกลุ่ม 10 ประเทศแรกที่มีปริมาณขยะพลาสติกหลุดรอดลงสู่ทะเลมากที่สุดในโลก มีปริมาณขยะพลาสติกที่หลุดรอดลงทะเลประมาณ 22.8 ล้านกิโลกรัมต่อปี นับเป็นปัญหาใหญ่ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศทางทะเลและสิ่งมีชีวิตในทะเล ซึ่งการแก้ไขปัญหานี้จำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน เพื่อลดปริมาณขยะ และจัดการขยะอย่างถูกวิธี โดยผมเชื่อมั่นว่าโครงการ ‘สืบสานมรดกแห่งสายน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา’ ที่ไอคอนสยามและพันธมิตรทุกภาคส่วน ตั้งใจจัดขึ้นเพื่อปลุกจิตสำนึก สร้างความตระหนักรู้แก่สังคม และสนับสนุนให้ชุมชนและเยาวชนมีบทบาทในการดูแลรักษาแม่น้ำเจ้าพระยา จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการแก้ปัญหานี้ และจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสังคมโดยรวม รวมถึงจะเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตของชาวกรุงเทพฯ ให้ดียิ่งขึ้นด้วย”

ด้านคุณณรงค์ เจียรวนนท์ รองประธานกรรมการ บริษัท ไอคอนสยาม จำกัด และรองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในฐานะหัวเรือใหญ่ของโครงการ เปิดเผยว่า แม่น้ำเจ้าพระยาเป็นเสมือนเส้นเลือดใหญ่ของประเทศไทย หล่อเลี้ยงทั้งชีวิต เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมของคนไทยมายาวนาน อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางวิถีชีวิต ศิลปะ วัฒนธรรม และประเพณี ที่สะท้อนอัตลักษณ์ความเป็นไทยอย่างลึกซึ้ง ทว่าปัจจุบันเจ้าพระยากำลังเผชิญความท้าทายหลายด้าน ส่งผลต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อม ระบบนิเวศ และความเป็นอยู่ของผู้คนที่พึ่งพาแม่น้ำสายนี้ โดยเฉพาะ “ปัญหาขยะ” ที่นับเป็นโจทย์ใหญ่ในปัจจุบัน

“ผมรู้สึกภาคภูมิใจที่ได้ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า และพันธมิตรทุกภาคส่วน เปิดโครงการ สืบสานมรดกแห่งสายน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อผนึกกำลังอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสร้างจิตสำนึกให้สังคมเห็นถึงคุณค่าของสายน้ำสายนี้ ผมเชื่อมั่นว่าความร่วมมือครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการดูแลรักษาแม่น้ำเจ้าพระยาให้คงความอุดมสมบูรณ์ เป็นความภาคภูมิใจ และเป็นมรดกอันล้ำค่าที่ลูกหลานไทยจะได้พึ่งพาและใช้ประโยชน์ต่อไป

ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณทุกภาคส่วน รวมถึงเครือเจริญโภคภัณฑ์ และบริษัทในเครือ ซีพีเอฟ, ซีพี ออลล์, ซีพี แอ็กซ์ตร้า, ซีพีพีซี, ทรู คอร์ปอเรชั่น และซีพีแลนด์ ที่มาร่วมเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการ และหวังว่าการริเริ่มครั้งนี้จะนำไปสู่ความร่วมมือที่ต่อเนื่อง เพื่อให้แม่น้ำเจ้าพระยายังคงความงดงามและคุณค่าคู่แผ่นดินไทยตลอดไป”

กิจกรรมครั้งนี้อบอวลไปด้วยรอยยิ้มและความภาคภูมิใจของซีพีอาสาจากหลากหลายบริษัทในเครือ แต่ละคนต่างถ่ายทอดความรู้สึกจากการได้ลงมือร่วมกันรักษาสายน้ำเจ้าพระยา

ซีพีอาสาจาก ซีพีเอฟ เล่าว่า “การได้ลงมือเก็บขยะรอบแม่น้ำเจ้าพระยา ทำให้เรารู้สึกใกล้ชิดกับสายน้ำสายสำคัญของประเทศมากยิ่งขึ้น และตระหนักถึงคุณค่าของการร่วมแรงร่วมใจในการดูแลสิ่งแวดล้อม”

ขณะที่ซีพีอาสาจาก ซีพี ออลล์ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า “วันนี้เราไม่ได้แค่มาทำงานอาสา แต่ได้สร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับชุมชนรอบแม่น้ำ เห็นชัดว่าความพยายามเล็ก ๆ ของแต่ละคน เมื่อรวมกันแล้ว สามารถสร้างพลังยิ่งใหญ่เพื่อสายน้ำไทย”

ด้านซีพีอาสาจาก ซีพี แอ็กซ์ตร้า บอกเล่าความรู้สึกว่า “ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรมที่มีความหมาย นอกจากได้ช่วยกันเก็บขยะแล้ว ยังได้เรียนรู้แนวทางลดขยะและการฟื้นฟูธรรมชาติในแบบที่จับต้องได้จริง”

ซีพีอาสาจาก ซีพีพีซี เสริมว่า “สิ่งที่มีค่ามากที่สุดในวันนี้ คือการได้ทำงานเคียงข้างเพื่อนพนักงานจากบริษัทต่าง ๆ ในเครือ ทำให้เห็นพลังแห่งการรวมใจ ที่พร้อมสร้างสังคมและสิ่งแวดล้อมที่ดียิ่งขึ้น”

ด้านซีพีอาสาจาก ซีพีแลนด์ กล่าวทิ้งท้ายว่า “กิจกรรมครั้งนี้ไม่ได้หยุดอยู่ที่การเก็บขยะ แต่ยังเป็นการปลูกจิตสำนึกให้เราทุกคนร่วมกันรักษาแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อส่งต่อความงดงามและคุณค่าให้คนรุ่นต่อไป”

และปิดท้ายด้วยเสียงสะท้อนจากน้อง ๆ เยาวชนคนรุ่นใหม่โครงการ One Young World จากเครือซีพี ที่ร่วมกิจกรรมด้วยความตั้งใจ กล่าวว่า “ทุกคนควรมีจิตสำนึกและความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพราะการอนุรักษ์แม่น้ำเจ้าพระยาไม่ใช่เพียงหน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภารกิจร่วมกันของเราทุกคนที่จะต้องสืบสานเพื่ออนาคตของประเทศ”

กิจกรรมในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีและเครือข่ายความร่วมมือที่แข็งแกร่งจากทุกภาคส่วน ที่พร้อมใจกันฟื้นฟูและอนุรักษ์สายน้ำเจ้าพระยาให้คงความงดงามคู่สังคมไทย ผ่านกิจกรรมหลากหลาย อาทิ นิทรรศการ “มรดกแห่งสายน้ำ แม่น้ำเจ้าพระยา” และกิจกรรมเก็บขยะ–ทำความสะอาดท่าเรือ เนื่องในวันแม่น้ำโลก (World Rivers Day 2025) ครอบคลุมพื้นที่สำคัญทั้ง ท่าเรือสาทร, ท่าเรือสี่พระยา, ท่าเรือราชวงศ์, ท่าเรือท่าดินแดง, ท่าเรือกรมเจ้าท่า และท่าเรือไอคอนสยาม

นับเป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญที่ตอกย้ำว่า เมื่อทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจ แม่น้ำเจ้าพระยาจะยังคงเป็น “สายน้ำแห่งชีวิต” ที่หล่อเลี้ยงผู้คน เศรษฐกิจ และวัฒนธรรมไทยสืบไป