คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ชี้ทิศทางการศึกษาไทยต้องเร่งปรับตัวรับความเปลี่ยนแปลงของโลก เพื่อขับเคลื่อนประเทศสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ในงานประชุม “Workshop on ONESQA Transformation” จัดโดย สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน)

คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวถึงการปรับตัวของสถาบันการศึกษาไทยท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของโลก ในงานประชุม “Workshop on ONESQA Transformation” จัดโดย สำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) โดยชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ ทั้งด้านเทคโนโลยี ภูมิรัฐศาสตร์ และเศรษฐกิจ ซึ่งกำลังส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อทุกภาคส่วน โดยเฉพาะ “สถาบันการศึกษา” ที่จำเป็นต้องเร่งพัฒนาและปรับตัว เพื่อเตรียมบุคลากรให้พร้อมรับโลกอนาคต  ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2568 ที่ผ่านมา

คุณศุภชัยกล่าวว่า ปัจจุบันโลกกำลังเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในหลายด้าน ทั้งจาก เทคโนโลยีใหม่ (AI, Automation, Robotics)ภูมิรัฐศาสตร์ที่แบ่งขั้วอำนาจอย่างชัดเจน, และ เศรษฐกิจที่ผันผวนจากกระแสสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) ซึ่งทั้งหมดล้วนเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สถาบันการศึกษาจำเป็นต้อง “ปรับจากการสอนเพื่อความรู้” มาสู่ “การสร้างผู้ประกอบการจากงานวิจัย” เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของโลกยุคใหม่ได้อย่างแท้จริง

แนวโน้มของสถาบันการศึกษาระดับโลก

คุณศุภชัยยกตัวอย่าง มหาวิทยาลัยชั้นนำของโลกอย่าง MIT และ Sloan Business School ที่ได้ปรับแนวทางการเรียนการสอนจาก “การสอนเพื่อถ่ายทอดความรู้” มาเป็น “การสร้างผู้ประกอบการจากผลงานวิจัย” พร้อมทั้งเชื่อมโยง Business School เข้ากับคณะเทคโนโลยีอย่างใกล้ชิด เพื่อให้งานวิจัยสามารถตอบโจทย์ภาคธุรกิจได้จริง

นอกจากนี้ รูปแบบการเรียนรู้และการวิจัยยังเปลี่ยนจาก “ห้องแล็บ (Lab)” สู่ “สตาร์ทอัพ (Startup)” โดยนักศึกษาด้านวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมจะได้รับการสอนเพิ่มเติมในเรื่องการทำธุรกิจ การระดมทุน และการเป็นผู้ประกอบการ เพื่อสร้างความเข้าใจแบบองค์รวมระหว่างเทคโนโลยีและเศรษฐกิจจริง

โจทย์ท้าทายของการศึกษาไทย

คุณศุภชัยกล่าวถึงความท้าทายสำคัญของภาคการศึกษาไทยว่า ภาคเอกชนได้ตั้งเป้าให้บุคลากรอย่างน้อย 50% ต้องมีทักษะด้านดิจิทัลและ AI เพื่อรองรับเศรษฐกิจยุคใหม่ พร้อมตั้งคำถามว่า “มหาวิทยาลัยไทยมีเป้าหมายอย่างไรในการผลิตบุคลากรเพื่อตอบโจทย์นี้ในอีก 5 ปีข้างหน้า?”

บทบาทของหน่วยงานกำกับดูแลและการวางมาตรฐาน

คุณศุภชัยเสนอว่า หน่วยงานด้านการศึกษาควรเร่ง วางมาตรฐานและตัวชี้วัด (Measure) ภายในปี พ.ศ. 2569 (ค.ศ. 2026) เพื่อใช้เป็นกรอบในการพัฒนาคนให้สอดคล้องกับทิศทางของเทคโนโลยีและตลาดแรงงานในอนาคต

สรุปแนวทางและวิสัยทัศน์ในอนาคต

แม้แต่มหาวิทยาลัยชั้นนำระดับโลกยังรู้สึกว่าการเปลี่ยนแปลงรวดเร็วเกินกว่าจะปรับตัวทัน คุณศุภชัยจึงเน้นย้ำว่า ประเทศไทยต้องเร่งสร้างบุคลากรที่มีทั้ง “ทักษะเทคโนโลยี จริยธรรม และธรรมาภิบาล” เพื่อให้สังคมไทยก้าวสู่ “ความสงบ (Peace)” และ “ความมั่งคั่งอย่างยั่งยืน (Sustainable Prosperity)”