
ดร.สดุดี สุพรรณไพ รองกรรมการผู้จัดการ สำนักบริหารความยั่งยืน ธุรกิจพืชครบวงจร ข้าว ขนส่งและบริการ (CPCRT) และประธานกรรมการวิชาการด้านความยั่งยืน คณะกรรมการอำนวยการ มหกรรมนวัตกรรมบัวบาน และการประชุมวิชาการ เครือเจริญโภคภัณฑ์ 2025 กล่าวถึงบทบาทของนวัตกรรมในโลกยุคใหม่ว่า “นวัตกรรมคือฐานที่นำไปสู่ความยั่งยืนของมนุษยชาติ”
โลกอนาคตในอีก 10 ปี: โลกของ AI + มนุษย์ที่ก้าวไกลกว่าเดิม
ดร.สดุดีมองว่า ในอีก 10 ปีข้างหน้า โลกจะเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคของ คนเสมือน (AI) ที่เก่งขึ้นอย่างมหาศาล ขณะเดียวกัน คนในโลกความจริง ก็จะมีศักยภาพสูงขึ้นจากเทคโนโลยีที่ก้าวกระโดด เชื่อมั่นว่าเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) จะก้าวขึ้นเป็นองค์กรชั้นนำที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว
ความท้าทายระดับโลก จุดประกายการสร้างนวัตกรรมใหม่
ดร.สดุดี อธิบายว่า ความเสี่ยงและปัญหาระดับโลกถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญที่ผลักดันให้องค์กรพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ ๆ ตัวอย่างเช่น ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ที่ผลักดันให้เกิดพลังงานสะอาด หรือสถานการณ์โรคระบาด ที่เร่งการพัฒนาวัคซีนและเทคโนโลยีทางการแพทย์ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรมที่ล้วนเป็นปัจจัยเร่งให้เกิดนวัตกรรม
วิสัยทัศน์นวัตกรรมของซีพี: สู่ความยั่งยืนด้านอาหารและเกษตร
สิ่งที่ดร.สดุดีอยากเห็นมากที่สุดคือ นวัตกรรมด้านอาหารและการเกษตร ที่ไม่เพียงช่วยเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ แต่ยังตอบโจทย์สุขภาพของผู้บริโภคไปพร้อมกับการทำเกษตรและปศุสัตว์อย่างยั่งยืน อันเป็นพันธกิจหลักของเครือเจริญโภคภัณฑ์
นวัตกรรมช่วยโลกให้น่าอยู่ขึ้น
“นวัตกรรมคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้โลกดีขึ้น” ดร.สดุดียกตัวอย่างนวัตกรรมที่เป็นรูปธรรม เช่น Green Steel เหล็กสีเขียวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม, Solar Glass กระจกผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ และ Seabin ถังขยะกลางทะเลเพื่อลดมลพิษในมหาสมุทร ทั้งหมดสะท้อนพลังของนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงโลกได้จริง
ฝากถึงชาวซีพี: มาร่วมพลังสร้างการเปลี่ยนแปลง
ปิดท้าย ดร.สดุดีได้ฝากถึงเพื่อนพนักงานซีพีทุกคนว่า “นวัตกรรมเป็นหัวใจหลักของการขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืน และเปิดโอกาสให้พนักงานทุกคนมีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ ชาวซีพีทุกคนคือพลังสำคัญของการสร้างอนาคตที่ดีกว่า มาร่วมกันสร้างพลังแห่งการเปลี่ยนแปลงในงานมหกรรมนวัตกรรมบัวบาน 2025 แล้วพบกัน!”

