
ชญานิษฐ์ กิตต๊ะ เกษตรกรรุ่นใหม่บ้านสบขุ่น ได้รับการคัดเลือกให้เป็น เกษตรกรดีเด่นประจำปี 2568 ภายใต้โครงการ “ซีพีความดี สิ่งแวดล้อมยั่งยืน – สบขุ่นโมเดลน่าน” ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ชญานิษฐ์ ไม่เพียงประกอบอาชีพเกษตรกร แต่ยังเป็น ซีพีอาสาพัฒนา (อสพ.) ที่ทุ่มเท พร้อมสร้างการเปลี่ยนแปลง จากการทำเกษตรเชิงเดี่ยวที่พึ่งพาสารเคมี มาสู่แนวทาง เกษตรยั่งยืน ที่จะทำให้คนกับป่าอยู่ร่วมกันได้อย่างสมดุล ณ บ้านสบขุ่น ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน
ชญานิษฐ์เล่าถึงแรงจูงใจในการเปลี่ยนแปลงว่า “ในอดีต การทำเกษตรแบบพืชเชิงเดี่ยวทำให้เราเผชิญกับผลผลิตที่ไม่แน่นอน และมีภาระหนี้สินเพิ่มขึ้น เพราะต้องใช้ต้นทุนสูง เราจึงมองหาทางเลือกใหม่ๆ โดยเฉพาะการลดต้นทุน แต่สามารถสร้างรายได้ระยะยาว และที่สำคัญคือต้องการลดการใช้สารเคมี เพื่อสุขภาพที่ดีของพ่อแม่และคนในครอบครัว การเข้าร่วมโครงการ’สบขุ่นโมเดลน่าน’ ทำให้เราได้ปรับเปลี่ยนมาทำเกษตรปลูกพืชมูลค่าสูงอย่าง “กาแฟ” ที่ต้องการพืชพี่เลี้ยงในการเติบโต ทำให้เราลดการใช้สารเคมีลงหรือแทบไม่ได้ใช้เลย ส่งผลให้สุขภาพดีขึ้น นอกจากนี้ยังได้เห็นพื้นที่สีเขียวฟื้นคืนกลับมามากขึ้น ทั้งยังทำให้เรามีรายได้หมุนเวียนตลอดทั้งปี สามารถวางแผนชีวิตได้อย่างมั่นคงขึ้น”

กาแฟ พืชเศรษฐกิจทางเลือก สร้างรายได้ ฟื้นคืนผืนป่า
กาแฟ ได้รับการส่งเสริมให้เป็นพืชเศรษฐกิจทางเลือกที่สามารถปลูกใต้ร่มไม้ โดยไม่จำเป็นต้องบุกรุกพื้นที่ป่า ช่วยฟื้นคืนพื้นที่สีเขียว พร้อมสร้างรายได้ที่มั่นคงให้กับครัวเรือนในระยะยาว นอกจากนี้ เกษตรกรยังได้รับการอบรมความรู้ด้าน วนเกษตร การจัดการแปลง และการตลาด ทำให้ชุมชนสามารถวางแผนการผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ชญานิษฐ์ กล่าวถึงความมุ่งมั่นในการเปลี่ยนแปลงของชุมชนว่า “เราเชื่อมั่นว่า ในอนาคตชุมชนของเราจะสามารถอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างสมดุล โดยการร่วมอนุรักษ์ป่าควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชนไปพร้อมกัน นอกจากการสร้างรายได้แล้ว โครงการฯ นี้ ยังมอบแนวคิดเรื่องการปลูกพืชแบบยั่งยืน การใช้ชีวิตที่กลมกลืนกับธรรมชาติ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชุมชนและป่าไม้ และการปลูกกาแฟนี้เอง จะช่วยเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชุมชน และช่วยให้เกษตรกรสามารถบริหารจัดการแปลงปลูกและวางแผนการผลิตของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น”

เพื่อเป็นขวัญกำลังใจและยกย่อง เกษตรกรผู้มุ่งมั่นปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตสู่ความยั่งยืน โครงการฯ จึงได้จัดกิจกรรมมอบรางวัลเกษตรกรดีเด่นประจำปี 2568 แก่เกษตรกร 15 ราย ครอบคลุม 4 สาขา ได้แก่ ผู้มียอดขายสูงสุด, ผู้ผลิตกาแฟคุณภาพดี, ผู้ดูแลแปลงอย่างมีประสิทธิภาพ และเกษตรกรขวัญใจอาสาพัฒนา {อสพ.} พร้อมมอบเกียรติบัตรและอุปกรณ์เกษตรเพื่อสนับสนุนการเดินหน้าสู่ความยั่งยืน
“สบขุ่นโมเดลน่าน” คืนป่า สร้างรายได้ พัฒนาชุมชนและสิ่งแวดล้อมยั่งยืน
“สบขุ่นโมเดลน่าน” ถือเป็นพื้นที่นำร่องสำคัญของ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ในการขับเคลื่อนการเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายในการฟื้นฟู ป่าต้นน้ำ ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพที่มั่นคงให้ชุมชน ผ่านแนวทาง “ปลูกกาแฟสร้างป่า” ซึ่งสนับสนุนให้เกษตรกรปลูกกาแฟร่วมกับไม้ยืนต้นหลากหลายชนิด ทั้งไม้ป่าและไม้ผล ปัจจุบัน บ้านสบขุ่นสามารถฟื้นฟูพื้นที่สีเขียวได้แล้วกว่า 5,500 ไร่ ซึ่งส่งผลให้พื้นที่ป่าชุมชนและป่าอนุรักษ์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ด้วยความร่วมมือร่วมใจของเกษตรกรในพื้นที่

โครงการยังมุ่งมั่นพัฒนารากฐานเศรษฐกิจให้ยั่งยืน ด้วยการยกระดับผลิตภัณฑ์กาแฟของวิสาหกิจชุมชน ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ทั้งการสร้างแบรนด์ การพัฒนาบรรจุภัณฑ์ และการหาช่องทางการตลาด จนสามารถสร้างรายได้รวมเฉลี่ยกว่า 2.5 ล้านบาทต่อปี ให้กับชุมชนบ้านสบขุ่น ตอกย้ำศักยภาพของชุมชนในการพึ่งพาตนเองอย่างเข้มแข็งและยั่งยืน
การดำเนินโครงการ “ซีพีความดี สิ่งแวดล้อมยั่งยืน – สบขุ่นโมเดลน่าน” นี้ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของ ศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหารเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่มุ่งขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็น Carbon Neutral ในปี 2030 และ Net Zero ในปี 2050 ภายใต้นโยบาย Creating Shared Value (CSV) ซึ่งมุ่งสร้างการเติบโตควบคู่กันระหว่างธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม การดำเนินงานเหล่านี้จึงสะท้อนถึงการสร้างรากฐาน ที่ไม่เพียงส่งเสริมอาชีพและรายได้ให้เกษตรกรเติบโตอย่างมั่นคง แต่ยังช่วยฟื้นฟูผืนป่าให้กลับคืนความสมบูรณ์ และเมื่อชุมชนเข้มแข็ง เกิดการพึ่งพาตนเองได้ ก็จะนำไปสู่การยกระดับสังคมและประเทศชาติสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง.








