เครือซีพีจับมือเครือข่ายชูกาแฟคุณภาพ จ.น่าน ร่วมเปิดประสบการณ์ใหม่ในงาน “Thailand Coffee Fest 2025” พร้อมยกระดับอุตสาหกรรมกาแฟไทยอย่างยั่งยืน

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ผนึกกำลังเครือข่ายนำกาแฟคุณภาพจังหวัดน่าน ร่วมงาน “Thailand Coffee Fest 2025: Drink Better Coffee” เทศกาลกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 10–13 กรกฎาคม 2568 ณ อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น ฮอลล์ 5 เมืองทองธานี

ในการร่วมงานครั้งนี้ เครือซีพีได้นำเสนอแนวคิด “กาแฟคุณภาพที่ใส่ใจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม” ครอบคลุมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ผ่านความร่วมมือกับ TrueCoffee ในการนำเสนอ “กาแฟสบขุ่น” จากโครงการ “ซีพีความดี สิ่งแวดล้อมยั่งยืน จ.น่าน” ซึ่งมุ่งยกระดับอาชีพในชุมชนด้วยการปลูกกาแฟบนพื้นที่สูง ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ โดยแนวคิดดังกล่าวสอดคล้องกับธีมหลักของงานปีนี้ “กาแฟที่สร้างมาเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมและโลก” เพราะกาแฟแต่ละแก้วสามารถจุดประกายการเปลี่ยนแปลงได้ — บางแก้วปลูกในป่า ช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศ เพิ่มพื้นที่สีเขียว และสร้างความยั่งยืนให้กับชุมชน

หนึ่งในไฮไลต์สำคัญคือ “กาแฟจากบ้านสบขุ่น อ.ท่าวังผา จ.น่าน” ซึ่งได้รับการปลูกแบบอินทรีย์บนพื้นที่สูง ภายใต้ระบบนิเวศป่าที่สมบูรณ์ โดยเป็นผลลัพธ์ของความร่วมมือหลายภาคส่วนที่มุ่งสร้างรายได้มั่นคงแก่เกษตรกร พร้อมดูแลสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นรูปธรรม

นายอรรถวิทย์ ยุทธยศ ผู้จัดการทั่วไป ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เปิดเผยว่า โครงการ “ซีพีความดี สิ่งแวดล้อมยั่งยืน จ.น่าน” เป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานราก ที่ใช้กาแฟเป็นเครื่องมือเชื่อมโยงความมั่นคงทางรายได้กับการอนุรักษ์ธรรมชาติอย่างกลมกลืน

นอกจากกาแฟสบขุ่นแล้ว เครือซีพียังเดินหน้าผลักดัน “กาแฟโรบัสต้าน้ำพาง” จากโครงการน้ำพางโมเดล สู่การเป็นแบรนด์กาแฟพรีเมียมของไทย โดยสามารถคว้ารางวัลอันดับ 7 ประเภท FINE ROBUSTA ด้วยคะแนน 84.58 จากเวที ICP – THAI Green Coffee Evaluation 2025 (THAI SPECIALTY COFFEE) ตอกย้ำศักยภาพของกาแฟไทยในเวทีสากล

ภายในงานยังมีผู้ประกอบการกาแฟกว่า 400 ราย จาก 58 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมจัดแสดงนวัตกรรม แบ่งปันองค์ความรู้ และนำเสนอผลิตภัณฑ์กาแฟหลากหลายรูปแบบ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมกาแฟไทยสู่มาตรฐานระดับโลก

เครือซีพียืนยันความเชื่อมั่นว่า “การสร้างห่วงโซ่กาแฟที่ยั่งยืน” ตั้งแต่การพัฒนาชุมชนต้นน้ำ การส่งเสริมเกษตรกรอย่างมีประสิทธิภาพ จนถึงการส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสู่ผู้บริโภค จะเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ พร้อมยกระดับกาแฟไทยให้เป็นที่ยอมรับบนเวทีนานาชาติอย่างแท้จริง