มูลนิธิซีพี ผสานพลัง 7 ภาคี ยกระดับ “ระบบการบริบาล” ตามกรอบ UN SDGs เสริมภูมิคุ้มกันสังคมสูงวัยไทยอย่างยั่งยืน

สถานการณ์ปัจจุบันของประเทศไทยก้าวเข้าสู่ สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ ในปี 2568 โดยมีประชากรสูงอายุมากกว่า 14 ล้านคน ข้อมูลสถิติชี้ให้เห็นถึงความท้าทาย เมื่อจำนวนผู้สูงอายุที่อยู่ในภาวะพึ่งพิง หรือมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวที่ต้องอาศัยผู้ดูแลเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดความต้องการบุคลากรด้านการบริบาลที่มีคุณภาพและมาตรฐานอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางที่ยังขาดแคลนผู้พึ่งพิงหรือการดูแลที่เหมาะสม เพื่อสร้างรากฐานที่ยั่งยืนให้แก่ระบบสาธารณสุขของประเทศ

เมื่อเร็วๆนี้ มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) ร่วมกับ หน่วยงานภาคีเครือข่าย จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โดยมี คุณกฤตยรัฐ ปารมี ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท พร้อมด้วย ศ.ดร.วิภาดา คุณาวิกติกุล รองอธิการบดีฝ่ายวิทยาศาสตร์สุขภาพ สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้บริหาร โรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล คุณจุฑาภัค สิงห์สมบุญ ผู้บริหาร โรงเรียนจุฬารัตน์ อินเตอร์ เฮลท์ คุณชฎาพร ชาญณรงค์ ผู้แทนจาก โรงเรียนดิษฐ์ราการบริบาล ดร.สดุดี ภูห้องไสย พยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ หัวหน้ากลุ่มพัฒนาการส่งเสริมสุขภาพวัยสูงอายุ ศูนย์อนามัยที่ 7 ขอนแก่น กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข (ผู้แทน) เข้าร่วมในพิธีลงนาม โครงการซีพีพัฒนาอาชีพด้านการบริบาล โดยมีเป้าหมายหลักในการยกระดับและสร้างความมั่นคงในอาชีพนักบริบาลร่วมกัน เพื่อรองรับการก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ของประเทศไทย ณ อาคาร True Digital Park กรุงเทพฯ

คุณกฤตยรัฐ ปารมี ผู้ช่วยเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ได้เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการ “สร้างโอกาส” ลดความเหลื่อมล้ำของสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ตามเป้าหมายที่ 1, 3 และ 4 ของสหประชาชาติการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ด้วยการมอบทุนการศึกษาฝึกอบรมหลักสูตรนักบริบาลคุณภาพให้แก่เยาวชนและผู้ที่สนใจซึ่งขาดแคลนทุนทรัพย์ ให้สามารถเป็นอาชีพที่สร้างรายได้เพื่อเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้อย่างมั่นคงและภาคภูมิใจ ผ่านการดำเนินการภายใต้โครงการพัฒนาอาชีพด้านการบริบาล ตั้งแต่ปี พ.ศ.2562 – ปัจจุบัน มีเยาวชนได้รับโอกาสในการเรียนรู้ทักษะอาชีพ การฝึกปฏิบัติ และก้าวสู่การมีอาชีพที่มั่นคง มูลนิธิฯ มุ่งมั่นสร้าง “ระบบบริบาลที่ยั่งยืน” ที่จะยกระดับศักยภาพบุคลากรด้านการดูแลผู้สูงอายุให้บรรลุมาตรฐานด้านวิชาชีพ นอกจากนี้ ในปัจจุบันผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางที่มีภาวะพึ่งพิงที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ความร่วมมือนี้จึงถูกออกแบบมาเพื่อเป็นกลไกสำคัญในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว และจำเป็นต้องมีการยกระดับการดูแลด้านสุขภาพและสังคมสำหรับได้อย่างทั่วถึงและเท่าเทียม ให้ผู้สูงอายุและคนกลุ่มเปราะบางมีคุณภาพชีวิตที่ดี มีสุขภาวะที่ดีขึ้น

พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การพัฒนาอาชีพด้านบริบาลในครั้งนี้ มีจุดประสงค์เพื่อผสานพลังร่วมกัน ระหว่างภาครัฐ – ภาคเอกชน – สถาบันการศึกษา ขับเคลื่อนเพื่อยกระดับ “งานด้านการบริบาล” เพื่อการพัฒนาศักยภาพนักบริบาลผู้ดูแลผู้สูงอายุในไทย ให้เป็นต้นแบบของการส่งเสริมอาชีพและรายได้แก่ผู้ที่ด้อยโอกาส ควบคู่ไปพร้อมกับในมิติส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพ โดย ดร.พรระวี สีเหลืองสวัสดิ์ ผู้บริหาร โรงเรียนอนันตรักษ์การบริบาล ได้กล่าวพร้อมสนับสนุนโครงการ โดยเน้นย้ำความสำคัญของการร่วมมือกันในการขับเคลื่อนงานด้านการบริบาล เพื่อให้ผู้สูงอายุและกลุ่มเปราะบางโดยเฉพาะผู้ที่อยู่ในพื้นที่ชุมชนชนบทได้เข้าถึงการดูแลอย่างทั่งถึง และมีสุขภาวะที่ดียิ่งขึ้น

ภายในงานได้จัดเวทีเสวนาในหัวข้อ “ส่งต่อโอกาส รวมพลังสร้างระบบบริบาลยั่งยืน” โดยมีผู้เชี่ยวชาญจาก 3 ภาคส่วน ได้แก่ ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษา ร่วมกับตัวแทนเยาวชนและผู้สูงอายุ มาร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ทั้งสถานการณ์สังคมผู้สูงอายุในประเทศไทย การวางนโยบายเพื่อทำให้อาชีพ ‘นักบริบาล’ มีความมั่นคงและเติบโตได้ในสังคมสูงวัย แนวทางในการพัฒนาหลักสูตรด้านการบริบาทที่ตอบโจทย์ยุคสมัย รวมถึงปัญหาในการขาดแคลนผู้บริบาลในชุมชน ซึ่งผู้ร่วมเสวนาได้ข้อสรุปที่สอดคล้องกันว่า ระบบบริบาลที่ยั่งยืนไม่ใช่หน้าที่ของใครคนเดียว แต่เป็น พลังร่วมของทั้งสังคม

พร้อมกันนี้ ในปี 2568 มูลนิธิฯ ร่วมกับภาคีเครือข่าย ได้แก่ มูลนิธิเส้นด้าย และกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี Ascend Commerce True ส่งมอบโครงการ Wheel Share Share The Ability ส่งต่อศักยภาพ คืนอิสระให้ชีวิต เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมจากประชาชน ผ่านช่องทางแอพลิเคชัน Amaze และ TrueMoney Wallet โดยเปิดรับบริจาคผ่านแอปพลิเคชัน Amaze และ TrueMoney Wallet นำไปจัดซื้อและส่งมอบรถเข็น (Wheelchair) และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น โดยมี คุณคริส โปตระนันท์ ประธานมูลนิธิเส้นด้าย เป็นผู้แทนรับมอบ เพื่อนำไปใช้ประโยชน์กับชุมชนกลุ่มเปราะบางและผู้ที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างแท้จริง อาทิ ผู้สูงอายุที่ติดบ้าน ติดเตียง และกลุ่มเปราะบางที่ขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์

ทั้งนี้ การผนึกกำลังของทุกภาคีเครือข่ายในครั้งนี้ นับเป็นรากฐานสำคัญที่จะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรมในอนาคต นั่นคือ “การผลิตนักบริบาลมืออาชีพ” ให้แก่สังคมไทย ยกระดับคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในภาวะพึ่งพิงให้ได้รับการดูแลตามมาตรฐาน พร้อมทั้งช่วยส่งต่อองค์ความรู้ที่เป็นวิชาชีพ สร้างความมั่นคงทางรายได้ และคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้อย่างยั่งยืน/.