มูลนิธิซีพี เดินหน้า “โครงการซีพีทะเลสาบสงขลายั่งยืน” สร้างชุมชนนวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำ เพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ ฟื้นฟูระบบนิเวศชุมชนบ้านใหม่

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) เดินหน้าขับเคลื่อน “โครงการซีพีทะเลสาบสงขลายั่งยืน” ฟื้นฟูระบบนิเวศน์ทะเลสาบสงขลา ลงพื้นที่ ส่งมอบ ติดตั้ง และถ่ายทอดองค์ความรู้การใช้งาน “นวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำ (กุ้งก้ามกราม)” ซึ่งเป็นเครื่องมือสำคัญในการฟื้นฟูทรัพยากรประมงชายฝั่ง สร้างความอุดมสมบูรณ์ และเสริมความมั่นคงทางอาหารให้กับชุมชน โดยมี คุณเอกสิทธิ์ สองเมือง นายอำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา พร้อมคณะฯ ให้เกียรติรับฟังแนวทางการดำเนินงาน และเยี่ยมชมการติดตั้งนวัตกรรม พร้อมด้วย คณะนักศึกษาจากคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ ม.อ.ปัตตานี ที่มาศึกษาดูงาน ทีมสื่อศูนย์สื่อสารวิจัยภาคใต้ คณะทุนวิจัยและนวัตกรรมเพื่อพัฒนาพื้นที่ (บพท.) ผศ.ดร.เตือนตา ร่าหมาน หัวหน้าทีมวิจัยโครงการ “บ้านปลามีชีวิต” และคณะนักวิจัย ร่วมรับฟังข้อมูลเทคนิคของนวัตกรรม เพื่อเชื่อมโยงองค์ความรู้สู่การพัฒนางานวิจัยพื้นที่ในอนาคต ณ ชุมชนบ้านใหม่ กลุ่มอนุรักษ์ชายฝั่งและฟาร์มทะเลชุมชน บ้านปลาหมายเลข 9 (ซั้งปลา) อำเภอสิงหนคร จ.สงขลา

การลงพื้นที่นำโดย ดร.ปฐพร เกื้อนุ้ย, นายอานนท์ ขำแก้ว และทีมปฏิบัติการความยั่งยืนทางทะเล เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วยทีมงานมูลนิธิฯ ได้ดำเนินการติดตั้งอุปกรณ์ของธนาคารสัตว์น้ำ – กุ้งก้ามกรามอย่างเต็มระบบ ตั้งแต่ระบบหมุนเวียนน้ำ การเติมออกซิเจน และการควบคุมคุณภาพน้ำ พร้อมทั้งทดสอบการทำงานในสภาพแวดล้อมจริง เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ยังได้ถ่ายทอดองค์ความรู้การขยาย “พ่อ–แม่พันธุ์กุ้งก้ามกรามในระบบนิเวศ” ให้กับ นายชัยยศ ฤทธิโก ประธานกลุ่มฯ และสมาชิก เพื่อให้เข้าใจถึงหลักการทำงาน การดูแลรักษา และสามารถบริหารจัดการนวัตกรรมนี้ได้ด้วยตนเองในระยะยาว โดยมีเป้าหมายในการเพิ่มปริมาณสัตว์น้ำท้องถิ่นในระบบนิเวศชายฝั่ง

การยกระดับการอนุรักษ์ทรัพยากรสัตว์น้ำทางทะเล และการสร้างความมั่นคงทางอาหารที่เข้มแข็งให้ชุมชนถือเป็นเรื่องสำคัญ “นวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำ (กุ้งก้ามกราม)” ถือเป็นหนึ่งในกลไกสำคัญในการผลักดันยุทธศาสตร์ “ซีพีทะเลสาบสงขลายั่งยืน” ที่มุ่งสร้างความอุดมสมบูรณ์ทางทะเลผ่านโมเดลการฟื้นฟูทรัพยากรแบบครบวงจร บนการมีส่วนร่วมของ ชุมชน ภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคเอกชน เพื่อสร้างความเข้มแข็งและมุ่งสู่ความสำเร็จ การลงพื้นที่ครั้งนี้ จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นในการสร้างฐานทรัพยากรที่แข็งแรงให้กับชุมชนชายฝั่ง นำไปสู่การเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของทะเลสาบสงขลา และการพัฒนาพื้นที่อย่างยั่งยืนในระยะยาว