เครือซีพีรับรางวัลเกียรติคุณ หนุนพลังประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง สร้างต้นแบบการอนุรักษ์ชายฝั่งทะเลยั่งยืน

วันนี้ทั่วโลกต่างเผชิญความท้าทายจากการเสื่อมโทรมของทรัพยากรทะเล แต่ในอีกด้านหนึ่ง ก็เป็นโอกาสที่ทุกคนจะได้ร่วมมือกันสร้างความเปลี่ยนแปลง ด้วยพลังจากชุมชน ที่รวมตัวกันเพื่อรักษาทะเลให้คงความงดงามและอุดมสมบูรณ์

เมื่อเร็วๆนี้ นายนนท์ นาคะเสถียร ผู้จัดการทั่วไป หน่วยงานความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าร่วมงาน สมัชชาชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง (นูหรี ข้าวหม้อแกงหม้อ) ร่วมเป็นผู้แทนในนามเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) รับมอบ ใบประกาศเกียรติคุณ จาก นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ประธานในพิธี เพื่อแสดงความขอบคุณต่อองค์กรภาคเอกชนที่ได้ให้การสนับสนุนสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรังมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนประมงชายฝั่ง ณ มูลนิธิอันดามัน หมู่ที่ ๔ ตำบลควนปริง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง
งานสมัชชาชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์3 เรื่อง คือ 1.เพื่อสรุปผลการดำเนินงานประจำปีของสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง 2.สร้างความตระหนักและประกาศเจตนารมณ์ร่วมในการทำประมงอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน และ 3.การยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาและยกระดับการจัดการทรัพยากรประมงชายฝั่งจังหวัดตรังอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คน ครอบคลุมทั้งพี่น้องเครือข่ายสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง เครือข่ายอันดามัน หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และองค์กรพัฒนาเอกชน
โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีการทำงานด้านการพัฒนา อนุรักษ์ ปกป้อง และฟื้นฟูทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ จ.ตรัง มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้พื้นที่ ที่ร่วมทำงานเป็นพื้นที่เครือข่าย สมาชิกจากสมาคมประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง โดยการขับเคลื่อนงานของเครือได้เชื่อมโยงกับงานกับงานของชุมชนเช่นกัน อาทิ โครงการหญ้าทะเล ที่เกาะลิบง อำเภอกันตัง จ.ตรัง โครงการซีพีความดี ทะเลไทยยั่งยืน” ร่วมสร้างแนวชะลอคลื่นไม้ไผ่ ฟื้นฟูเนินทรายชายฝั่ง บ้านมดตะนอย อำเภอกันตัง จ.ตรัง

โดยสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ในนาม “ชมรมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง” เพื่อรวมพลังชาวบ้านแก้ไขปัญหาเรืออวนรุนและเครื่องมือประมงผิดกฎหมายที่ระบาดในทะเลตรัง พร้อมทั้งรณรงค์สร้างจิตสำนึกการทำประมงอย่างรับผิดชอบ ก่อนจะจดทะเบียนเป็นสมาคมฯ อย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 1,500 คน จาก 5 อำเภอ ได้แก่ สิเกา กันตัง ย่านตาขาว หาดสำราญ และปะเหลียน

ภารกิจสำคัญของสมาคมฯ ไม่เพียงมุ่งอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรประมงชายฝั่งเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมการปกป้องสัตว์ทะเลหายาก เช่น พะยูน โลมา เต่าทะเล ตลอดจนการฟื้นฟู หญ้าทะเล ปะการัง และป่าชายเลน ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิก การสืบสานวัฒนธรรมและศาสนา และการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสาธารณประโยชน์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด SEACOSYSTEM ที่เครือซีพีได้สร้างต้นแบบความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างภาคธุรกิจ ภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาชน เพื่อวางรากฐานการอนุรักษ์ทะเลไทยในระยะยาว โดยเน้นการสร้างจิตสำนึก การสร้างรายได้ และการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชุมชนชายฝั่ง “ เพราะทะเลคือชีวิต ทะเลคืออนาคต เครือเจริญโภคภัณฑ์เชื่อว่าการอนุรักษ์ทะเลคือการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของชาติ เป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนที่ลงมือทำอย่างจริงจัง เพื่อสร้างทะเลไทยที่ยั่งยืนการได้รับมอบประกาศเกียรติคุณในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นเกียรติแก่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) แต่ยังตอกย้ำถึงความร่วมมืออันเข้มแข็งระหว่างทุกภาคส่วน ที่มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เพื่อให้ทะเลไทยยังคงอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหาร ที่ทำกิน และมรดกสำคัญของคนรุ่นต่อไป.

เมื่อเร็วๆนี้ นายนนท์ นาคะเสถียร ผู้จัดการทั่วไป หน่วยงานความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าร่วมงาน สมัชชาชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดตรัง (นูหรี ข้าวหม้อแกงหม้อ) ร่วมเป็นผู้แทนในนามเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) รับมอบ ใบประกาศเกียรติคุณ จาก นายบัญชา สุขแก้ว อธิบดีกรมประมง ประธานในพิธี เพื่อแสดงความขอบคุณต่อองค์กรภาคเอกชนที่ได้ให้การสนับสนุนสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรังมาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นอีกแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ชุมชนประมงชายฝั่ง ณ มูลนิธิอันดามัน หมู่ที่ ๔ ตำบลควนปริง อำเภอเมือง จังหวัดตรัง

งานสมัชชาชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง จัดขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์3 เรื่อง คือ 1.เพื่อสรุปผลการดำเนินงานประจำปีของสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง 2.สร้างความตระหนักและประกาศเจตนารมณ์ร่วมในการทำประมงอย่างรับผิดชอบและยั่งยืน และ 3.การยื่นข้อเสนอเชิงนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาและยกระดับการจัดการทรัพยากรประมงชายฝั่งจังหวัดตรังอย่างเป็นระบบและยั่งยืน โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 500 คน ครอบคลุมทั้งพี่น้องเครือข่ายสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง เครือข่ายอันดามัน หน่วยงานราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และองค์กรพัฒนาเอกชน

โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ มีการทำงานด้านการพัฒนา อนุรักษ์ ปกป้อง และฟื้นฟูทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ จ.ตรัง มาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้พื้นที่ ที่ร่วมทำงานเป็นพื้นที่เครือข่าย สมาชิกจากสมาคมประมงพื้นบ้าน จ.ตรัง โดยการขับเคลื่อนงานของเครือได้เชื่อมโยงกับงานกับงานของชุมชนเช่นกัน อาทิ โครงการหญ้าทะเล ที่เกาะลิบง อำเภอกันตัง จ.ตรัง โครงการซีพีความดี ทะเลไทยยั่งยืน” ร่วมสร้างแนวชะลอคลื่นไม้ไผ่ ฟื้นฟูเนินทรายชายฝั่ง บ้านมดตะนอย อำเภอกันตัง จ.ตรัง

โดยสมาคมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2536 ในนาม “ชมรมชาวประมงพื้นบ้าน จังหวัดตรัง” เพื่อรวมพลังชาวบ้านแก้ไขปัญหาเรืออวนรุนและเครื่องมือประมงผิดกฎหมายที่ระบาดในทะเลตรัง พร้อมทั้งรณรงค์สร้างจิตสำนึกการทำประมงอย่างรับผิดชอบ ก่อนจะจดทะเบียนเป็นสมาคมฯ อย่างเป็นทางการ ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 1,500 คน จาก 5 อำเภอ ได้แก่ สิเกา กันตัง ย่านตาขาว หาดสำราญ และปะเหลียน

ภารกิจสำคัญของสมาคมฯ ไม่เพียงมุ่งอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรประมงชายฝั่งเท่านั้น แต่ยังครอบคลุมการปกป้องสัตว์ทะเลหายาก เช่น พะยูน โลมา เต่าทะเล ตลอดจนการฟื้นฟู หญ้าทะเล ปะการัง และป่าชายเลน ควบคู่กับการพัฒนาคุณภาพชีวิตสมาชิก การสืบสานวัฒนธรรมและศาสนา และการสร้างความร่วมมือกับทุกภาคส่วนเพื่อสาธารณประโยชน์และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิด SEACOSYSTEM ที่เครือซีพีได้สร้างต้นแบบความร่วมมือแบบบูรณาการระหว่างภาคธุรกิจ ภาครัฐ ภาควิชาการ และภาคประชาชน เพื่อวางรากฐานการอนุรักษ์ทะเลไทยในระยะยาว โดยเน้นการสร้างจิตสำนึก การสร้างรายได้ และการสร้างโอกาสใหม่ ๆ ให้กับชุมชนชายฝั่ง “ เพราะทะเลคือชีวิต ทะเลคืออนาคต เครือเจริญโภคภัณฑ์เชื่อว่าการอนุรักษ์ทะเลคือการลงทุนเพื่อความยั่งยืนของชาติ เป็นหนึ่งในพลังขับเคลื่อนที่ลงมือทำอย่างจริงจัง เพื่อสร้างทะเลไทยที่ยั่งยืนการได้รับมอบประกาศเกียรติคุณในครั้งนี้ ไม่เพียงเป็นเกียรติแก่เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) แต่ยังตอกย้ำถึงความร่วมมืออันเข้มแข็งระหว่างทุกภาคส่วน ที่มุ่งสร้างสมดุลระหว่างการใช้ประโยชน์และการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล เพื่อให้ทะเลไทยยังคงอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งอาหาร ที่ทำกิน และมรดกสำคัญของคนรุ่นต่อไป