มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท จัดประชุมสามัญประจำปีบริหาร 2568 เดินหน้าลดความเหลื่อมล้ำ-สร้างเศรษฐกิจ-รักษ์สิ่งแวดล้อม ยกระดับชีวิตชนบทไทยยั่งยืน

วันที่ 24 ตุลาคม 2568 มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) จัดประชุมสามัญประจำปีบริหาร 2568 โดย พลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี ในฐานะประธานกรรมการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท พร้อมด้วย ดร.อาชว์ เตาลานนท์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณอดิเรก ศรีประทักษ์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณณรงค์ เจียรวนนท์ รองประธานอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือซีพีเอฟ คุณพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์และซีพีเอฟ คุณจอมกิตติ ศิริกุล กรรมการและเลขาธิการมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มบริษัทในเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวม 25 ท่าน แบบไฮบริด ณ ห้องบอร์ดรูม ชั้น 34 อาคารทรู ทาวเวอร์ ถนนรัชดาภิเษก

36 ปี มูลนิธิฯ สร้างความเปลี่ยนแปลง 4 มิติเพื่อสังคมยั่งยืน

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) ขับเคลื่อนงานเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตชนบทไทย ส่งมอบคุณค่าสู่สังคมใน 4 ด้าน ได้แก่ 1. การศึกษาและการลดความเหลื่อมล้ำ ที่เป็นรากฐานของทุกคน มูลนิธิฯ ผลักดันเยาวชนให้มีการศึกษาเท่าเทียม จำนวนกว่า 2.4 แสนคน  2. สร้างคุณค่าและประโยชน์ทางเศรษฐกิจ  ด้วยแนวทาง Social & Human Capital Protocol มุ่งเสริมทักษะ อาชีพ และความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ยกระดับเศรษฐกิจเพื่อให้เศรษฐกิจและสังคมเติบโตอย่างยั่งยืน 3. ความมั่นคงทางอาหารและการเข้าถึงโภชนาการ เพื่อให้เด็ก เยาวชน และชุมชน เข้าถึงอาหารที่ปลอดภัยและมีคุณภาพแล้ว 1,018 โรงเรียน  และ 4. การปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าอนุรักษ์และป่าชุมชนกว่า 1.8 แสนไร่ ส่งเสริมชุมชน การเกษตร และธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ให้อยู่ร่วมกันอย่างยั่งยืน

มูลนิธิฯ ยังคงมุ่งมั่นดำเนินงานส่งต่อความดีตอบแทนคุณแผ่นดิน สอดคล้องตามนโยบายเครือเจริญโภคภัณฑ์ ไม่เพียงเรื่องใดเรื่องหนึ่ง แต่สร้างความยั่งยืนทั้ง 3 มิติ ทั้งระบบเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง โดยเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืทั้ง 17 ข้อ (17 SDGs) พร้อมทั้ง เล็งเห็นความท้าทายในการลดความเหลื่อมล้ำ จึงเร่งผลักดัน Learning Center ในโรงเรียนชนบท สร้างรูปแบบการเรียนรู้ใหม่ นอกห้องเรียน เน้นทักษะอาชีพที่ปฏิบัติได้จริง และขยายผลสู่ชุมชนเพื่อสร้างอาชีพที่มั่นคง ยกระดับคุณภาพชีวิต และสร้างคนเก่งคนดีเป็นต้นแบบในชุมชนด้วยการทำงานเชิงบูรณาการเชื่อมโยงระหว่างมูลนิธิฯ กับกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี และการสนับสนุนของภาคีเครือข่ายภายนอก ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาสังคม กว่า 20 หน่วยงาน ดำเนินงานครอบคลุมทุกภูมิภาคในประเทศไทย

ความสำเร็จที่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม มูลนิธิฯ สร้างอนาคตด้านการศึกษา ลดความเหลื่อมล้ำแก่เด็กด้อยโอกาสในพื้นที่ชนบท ผ่านโครงการซีพีครอบครัวอุปการะในชุมชนวัฒนธรรมฯ โครงการซีพีสนับสนุนทุนการศึกษานักเรียนในพระราชานุเคราะห์ และโครงการซีพีพัฒนาอาชีพด้านการบริบาล จนสามารถจบการศึกษากว่า 500 คน และมีอาชีพ 100% พร้อมทั้งการสร้างคุณค่า ยกระดับอาชีพและเศรษฐกิจ แก่กลุ่มเกษตรกรในอ.อมก๋อย มีรายได้เพิ่มขึ้น มีเกษตรกรต้นแบบมีรายได้เพิ่มขึ้นจากเดิม 2.8 เท่า จากการส่งเสริมปลูกพืชมูลค่าสูงฟักทอง ด้านความมั่นคงทางอาหาร มูลนิธิฯ ขับเคลื่อนโครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน มีโรงเรียนเป็นต้นแบบ Learning Center แบบครบวงจร เด็กนักเรียนได้รับโปรตีนที่ดีจากไข่ไก่เป็นมื้อกลางวันอย่างต่อเนื่อง ต่อยอดสู่การทำเกษตรผสมผสานครบวงจรภายในโรงเรียน อาทิ เลี้ยงสัตว์ ปลูกพืชผักสวนครัว เพาะเห็ด พร้อมทั้งขยายผลสู่ชุมชน จัดตั้งสหกรณ์โรงเรียนขายไข่ไก่แก่ชุมชน รวมถึงการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ส่งผลให้มีรายได้หมุนเวียนในโรงเรียน นักเรียนได้เรียนรู้ทักษะอาชีพนำไปต่อยอดได้อีกด้วย ปัจจุบันโรงเรียนในโครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่ฯ เปิดให้คณะศึกษาดูงานทั้งภายในประเทศและต่างประเทศ

ติดอาวุธความรู้ สร้างความมั่นคงทางอาหารในโรงเรียนห่างไกล

เครือฯ มีนโยบายส่งเสริมให้พนักงานใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญร่วมสร้างสรรค์สังคม แบ่งปันความรู้ให้แก่เด็กๆ เยาวชน และชุมชน นำไปใช้พัฒนาต่อยอดทักษะอาชีพต่างๆ โดยมี “EGG BUDDY พนักงานจิตอาสาของซีพีเอฟ” นำร่องโรงเรียนภายใต้ CONNEXT ED ซีพีเอฟ เข้าหนุนเสริมโครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน มีหน้าที่เป็นพี่เลี้ยงใจดีแก่เด็กๆในโรงเรียน ติดอาวุธทางความรู้ การบริหารจัดการโรงเรือนเลี้ยงไก่ ฝึกทักษะการเลี้ยงไก่ไข่ นำระบบเทคโนโลยีเข้ามาใช้ เช่น ระบบ IOT ต่างๆ และเป็นเพื่อนคู่คิดในการพัฒนาโรงเรียน นำร่องใน 32 โรงเรียน ซึ่งตั้งอยู่รายรอบโรงงานซีพีเอฟ โดยมีเป้าหมายทำให้โครงการซีพีเลี้ยงไก่ไข่ฯ เดินหน้าส่งมอบโอกาส องค์ความรู้ รวมถึงโภชนาการอาหารที่ดีให้กับเด็กๆและเยาวชนในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และขยายผลส่งต่อสู่ชุมชนโดยรอบเป็นการผนวก “บวร” บ้าน วัด โรงเรียนได้อย่างยั่งยืน

สร้างคุณค่าและประโยชน์ทางเศรษฐกิจ  เสริมช่องทางตลาดโมเดิร์นเทรดให้เกษตรกรและชุมชน

การนำขีดความสามารถของธุรกิจในเครือซีพี โดยบริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) แม็คโครและโลตัส ร่วมสนับสนุนโครงการซีพีพัฒนา – อมก๋อย โมเดล ในโมเดล เกษตรมูลค่าสูง ของมูลนิธิฯ มาอย่างต่อเนื่อง ด้วยกระบวนการรับซื้อผลผลิตโดยตรงจากเกษตรกร ให้องค์ความรู้ในการเพาะปลูกและดูแลรักษาแปลงเกษตร ให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานของบริษัทฯ เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางด้านการตลาดและสร้างรายได้ที่เป็นธรรมและมั่นคงให้กับกลุ่มเกษตรกรในอ.อมก๋อย สร้างรายได้เพิ่มจากเดิมกว่า 2.8 เท่า หรือเฉลี่ยครัวเรือนละประมาณ 2.8 แสนบาท ต่อปี ในอนาคตมีเป้าหมายสนับสนุน Innovation เข้าไปพัฒนากระบวนการผลิต ความพร้อมของเกษตรกรในการขนส่ง ทั้งการแพ็คสินค้า การขนส่ง จะทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น เกษตรกรมีรายได้เพิ่มมากขึ้น

ปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ ให้คนอยู่ร่วมกับทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน

มูลนิธิฯ ยังคงขับเคลื่อนงานด้านการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพอย่างเข้มข้น เพื่อให้คนอยู่ร่วมกับทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างยั่งยืน ผลสำเร็จในด้านการอนุรักษ์และฟื้นฟูป่าไม้และสัตว์ป่า มูลนิธิฯร่วมกับสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าอมก๋อย กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ร่วมปล่อยกวางผาสัตว์ป่าสงวนคืนสู่ธรรมชาติ จำนวน 18 ตัว และปัจจุบันมีการอนุบาลกวางผาในสถานีฯ จำนวน 82 ตัว  ดำเนินงานภายใต้โครงการซีพีพัฒนา-อมก๋อยโมเดล จังหวัดเชียงใหม่  รวมถึงการอนุรักษ์และฟื้นฟูทะเลสาบสงขลาและสัตว์น้ำ ในโครงการซีพีทะเลสาบสงขลายั่งยืน ได้ดำเนินการทำบ้านปลา (ซั้ง) เพื่อเพิ่มประชากรสัตว์น้ำไปแล้วกว่า 900 ซั้ง พร้อมทำงานวิจัยร่วมกับมหาวิทยาลัยทักษิณ ในการประเมินผลความเปลี่ยนแปลง พบว่าจากก่อนทำซั้งพบจำนวนปลา 2 ชนิด และหลังจากทำเพิ่มขึ้นเป็น 19 ชนิด พร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยงเชิงอนุรักษ์  กลุ่มประมงพื้นบ้านและชุมชนรอบทะเลสาบสงขลามีรายได้เพิ่มมากขึ้น

ซีพีอาสาอาสาทำดี เพื่อสังคม ตอบแทนคุณแผ่นดิน

มูลนิธิฯ ยังมีความตั้งใจทำดีเพื่อสังคม ตอบแทนคุณแผ่นดิน ที่ผ่านมา เกิดวิกฤติการภัยพิบัติทางธรรมชาติ อุทกภัย และสถานการณ์ความไม่สงบชายแดน รวมถึงกิจกรรมช่วยเหลือสังคมอื่นๆ  มูลนิธิฯ ได้ร่วมกับ ซี.พี.อินเตอร์เทรด และกลุ่มธุรกิจในเครือซีพี อาทิ บจก.เจียไต๋  บจก.เครือเจริญโภคภัณฑ์ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร บมจ.ซีพีออลล์ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า แม็คโคร และโลตัส บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น บจก.ซีพีแรม ร่วมขับเคลื่อน “ซีพีอาสา” โดยมีพนักงาน 12 กลุ่มธุรกิจ ทำดีช่วยเหลือสังคม เพื่อนำขีดความสามารถของแต่ละกลุ่มธุรกิจมาร่วมขับเคลื่อนความดี ลดความเดือดร้อนและฟื้นฟูสภาพความเป็นอยู่ของผู้ประสบภัยอย่างครอบคลุม สร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวก สร้างสังคมที่น่าอยู่ให้กับสังคมไทยอย่างมั่นคงและยั่งยืน

มูลนิธิฯ ยังคงมุ่งมั่นพัฒนาการขับเคลื่อนงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่สังคม ใน 5 มิติ ได้แก่ มุ่งมั่นเป็นผู้นำระดับภูมิภาคและโลก โดยเชื่อมโยงจุดแข็งทางธุรกิจภายในเครือซีพี มุ่งสร้างพลังใหม่แห่งความเท่าเทียมในสังคมไทย ส่งต่อโอกาสไปยังคนรุ่นใหม่ ขยายเป็น Community of Trust การสร้างคนดี สร้างระบบเทคโนโลยี เพื่อสร้างผลลัพธ์แก่สังคมให้ยั่งยืน และการสร้างเครือข่ายภายในและภายนอก พร้อมทั้งมีกลไกการวัดผลที่ชัดเจน เพื่อให้การดำเนินโครงการต่างๆ สามารถสะท้อนผลลัพธ์ของการเปลี่ยนแปลงได้อย่างเป็นรูปธรรม และส่งต่อคุณค่าแก่สังคมได้อย่างแท้จริง