
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) สนับสนุน โครงการ “จัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ”
ต้นธารแห่งพระเมตตา
ในทุกพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในถิ่นทุรกันดารและตามแนวชายแดน ล้วนปรากฏร่องรอยแห่งพระมหากรุณาธิคุณและพระราชปณิธานอันแน่วแน่ของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ราษฎร ยกระดับคุณภาพชีวิตและสร้างความมั่นคงให้กับพสกนิกรชาวไทย
โครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดน อันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีพระราชดำริเมื่อปี 2542 ให้หาราษฎรชาวไทยภูเขาที่สมัครใจไปเป็นยามตามแนวชายแดน ตามพระราชดำริพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร โดยเป็นหมู่บ้านที่จัดตั้งขึ้นใหม่บนภูเขา เพราะราษฎรมีความคุ้นเคยมากกว่าพื้นราบ และเป็นพื้นที่ที่มีความปลอดภัยพอสมควร สามารถทำการเกษตรได้ มีพื้นที่เพียงพอ พร้อมเสริมสร้างศักยภาพคนและชุมชนตามแนวหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ฝึกอบรมระบบป้องกันภัยและการรายงานข่าว และส่งเสริมศิลปาชีพฯ ช่วยสนับสนุนอาชีพที่ไม่เพียงแต่สร้างความเข้มแข็งในการดูแลประเทศชาติ แต่ยังมอบโอกาสใหม่ในการดำรงชีวิตที่มั่นคงและยั่งยืนให้กับประชาชน

มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) ได้สืบสานพระราชปณิธานดังกล่าวฯ ณ บ้านปางคอง บ้านดอยผักกูด บ้านอาโจ้ จ.แม่ฮ่องสอน และมีเป้าหมายขยายไปในพื้นที่บ้านแม่ส่วยอู จ.แม่ฮ่องสอน และบ้านมะโอโคะ จ.ตาก เพื่อให้ชุมชนชายแดนเหล่านี้ ได้เติบโตอย่างมั่นคงด้วยการพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน ด้วยการมุ่งเน้น 3 เสาหลักแห่งการพัฒนา ได้แก่ น้ำสะอาด อาชีพที่ยั่งยืน และการแปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม เพื่อยกระดับอาชีพ รายได้ ตลอดจนเศรษฐกิจชุมชน
💦 เสาหลักที่ 1: โรงผลิตน้ำดื่มสะอาดเพื่อการบริโภค – ปัจจัยพื้นฐานแห่งชีวิต
ความสำคัญอันดับแรกของการพัฒนา คือการมีคุณภาพชีวิตที่ดี โดยมีน้ำสะอาดเป็นจุดเริ่มต้น มูลนิธิฯ จึงได้สนับสนุน โรงผลิตน้ำดื่มสะอาดเพื่อการบริโภค เพื่อให้ชาวบ้านมีน้ำดื่มที่สะอาดและปลอดภัยตลอดปี
👉 มูลนิธิฯ มีเป้าหมาย คือ การยกระดับคุณภาพชีวิต ลดภาระค่าใช้จ่าย และทำให้ประชาชนในหมู่บ้านยามชายแดน มีน้ำดื่มสะอาดเพื่อการบริโภคอย่างพอเพียง
👉 โรงผลิตน้ำดื่มสะอาดเพื่อการบริโภค มีกำลังการผลิตน้ำดื่มสะอาด จากแหล่งน้ำธรรมชาติ ระบบประปาภูเขา
โครงการนี้ไม่เพียงแต่แก้ปัญหาการขาดแคลนน้ำดื่ม แต่ยังช่วยเสริมสร้างสุขอนามัยที่ดี ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของการพัฒนาชุมชนในระยะยาว

🌳 เสาหลักที่ 2: คน ป่า กาแฟ ชุมชนยั่งยืน – การพัฒนาอาชีพสร้างรายได้
เพื่อสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ มูลนิธิฯ ได้สนับสนุนให้ชุมชนพัฒนาศักยภาพการผลิตกาแฟคุณภาพ ภายใต้แนวคิด “คน ป่า กาแฟ ชุมชนยั่งยืน”
👉 มูลนิธิฯ มีเป้าหมาย คือ เพิ่มโอกาส สร้างรายได้ และพัฒนาองค์ความรู้ในการปลูกกาแฟอย่างยั่งยืน โดยเน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างทางเลือกให้กับชุมชน
👉 มีการติดตามผลอย่างใกล้ชิด พร้อมให้ความรู้ด้านมาตรฐานการแปรรูป และการตลาด โดยทำงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคีเครือข่าย
ในปี 2567 ที่ผ่านมา มูลนิธิฯ เข้าไปดำเนินการส่งเสริมอาชีพ มีเกษตรกรเข้าร่วม 10 ครัวเรือน และมอบต้นกล้ากาแฟอาราบิก้าคุณภาพดีจำนวน 5,000 ต้น เพื่อขยายพื้นที่เพาะปลูกในชุมชน พร้อมสนับสนุนโรงเพาะกล้ากาแฟของชุมชน

🧑🏻🌾 เสาหลักที่ 3: โรงแปรรูปกาแฟในชุมชน – การเพิ่มมูลค่า สร้างแบรนด์ท้องถิ่น
หัวใจสำคัญของการพึ่งพาตนเอง คือการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตของชุมชน มูลนิธิฯ จึงสนับสนุนการจัดตั้ง โรงแปรรูปกาแฟ พร้อมอุปกรณ์เครื่องสีกาแฟ ของชุมชน เพื่อให้ชาวบ้านสามารถจัดการผลผลิตของตนเองได้อย่างครบวงจร
👉 ชุมชนสามารถควบคุมคุณภาพตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ พัฒนาผลิตภัณฑ์กาแฟคุณภาพสูง และสร้างแบรนด์ของชุมชนเอง ซึ่งนำไปสู่การสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนมากยิ่งขึ้นในอนาคต
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) มุ่งมั่นในการสืบสานพระราชปณิธานของสมเด็จพระพันปีหลวง ในการ “สร้างโอกาส สร้างรายได้ พัฒนาคุณภาพชีวิต” ให้แก่ราษฎรไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ห่างไกล ในถิ่นทุรกันดารและตามแนวชายแดน ในการพัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งการมอบน้ำสะอาดเพื่อชีวิตที่ดี และการสร้างอาชีพที่ยั่งยืนอย่างการปลูกและแปรรูปกาแฟ จะนำมาซึ่งความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมอย่างแท้จริง

#ซีพี #เครือซีพี #มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท #โครงการจัดตั้งหมู่บ้านยามชายแดนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ #หมู่บ้านยามชายแดน

