เครือซีพี ผนึกพลังสร้างเยาวชนรักษ์สิ่งแวดล้อม ปลูกจิตสำนึก “LESS is MORE – Carbon Credit” สู่การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน

ในยุคที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศไทยที่ต้องเผชิญกับปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างต่อเนื่อง เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เล็งเห็นว่า “เด็กและเยาวชน” คือพลังสำคัญในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลง จึงจัดโครงการ “Sustainable Leadership Development Program (SLDP)” ภายใต้แนวคิด “ENVI Camp for Young Talent : LESS is MORE | Carbon Credit” เพื่อพัฒนาเยาวชนให้มีความรู้ ความเข้าใจ และความเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้นที่โรงเรียนบ้านดอนไชยป่าแขม ตำบลออย อำเภอปง จังหวัดพะเยา โดยความร่วมมือระหว่าง เครือเจริญโภคภัณฑ์, บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า (แม็คโคร–โลตัส) และโรงเรียนบ้านดอนไชยป่าแขม เพื่อให้เยาวชนได้เรียนรู้เรื่องสิ่งแวดล้อมผ่านกิจกรรมเชิงปฏิบัติที่ทั้งสนุกและได้สาระ

โดยได้รับเกียรติจาก นายเกรียงไกร ฝีปากเพราะ นายอำเภอปง จังหวัดพะเยา เป็นประธานในพิธี และ นายอรรถวิทย์ ยุทธยศ ผู้จัดการทั่วไปด้านความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อม นายจักรวาลธวัฒน์ วรรณาวงค์ ผู้จัดการความยั่งยืนองค์กร ภาคเหนือ บมจ.ซีพี แอ็กซ์ตร้า (แม็คโคร-โลตัส) ตัวแทนซีพีแอ็กซ์ตร้า ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ของซีพีในการสร้างเยาวชนให้เป็นผู้นำการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในระดับชุมชน

ภายในค่าย เด็กๆ ได้เรียนรู้ผ่านกิจกรรมหลากหลายที่ออกแบบมาให้เชื่อมโยงกับการใช้ชีวิตจริงและปัญหาสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ เริ่มจากการเรียนรู้เรื่องการวัดการเจริญเติบโตของต้นไม้และการกักเก็บคาร์บอน ซึ่งสอนให้เด็กเข้าใจบทบาทสำคัญของต้นไม้ในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์และลดโลกร้อน

อีกหนึ่งกิจกรรมที่ได้รับความสนใจคือ การทำปุ๋ยหมักจากเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร ถ่ายทอดโดยปราชญ์ชุมชนกลุ่มผลิตปุ๋ยหมัก “ฮักน้ำยมบ้านดอนไชยป่าแขม” และซีพี เด็กๆ ได้เรียนรู้วิธีทำปุ๋ยหมักแบบไม่พลิกกลับกอง ตามสูตร “วิศวกรรมแม่โจ้ 1” ซึ่งช่วยลดขยะจากเกษตรกรรม นำของเหลือใช้กลับมาเพิ่มมูลค่า และต่อยอดสู่การสร้างรายได้ให้กับโรงเรียนและชุมชน

นายอณิรุจณ์ สมจิต ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านดอนไชยป่าแขม กล่าวว่า กิจกรรมการทำปุ๋ยหมักถือเป็นกิจกรรมที่เชื่อมโยงโดยตรงกับบริบทของโรงเรียนและชุมชนในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เด็กๆ สามารถนำความรู้จากกิจกรรมนี้ไปต่อยอดในโครงงานอาชีพของโรงเรียนได้จริง “เรามีโครงการอาชีพให้เด็กทำอยู่แล้ว พอได้รับกิจกรรมนี้มาก็สามารถบูรณาการร่วมกัน ทำให้เด็กได้ฝึกทำปุ๋ยหมักจากเศษใบไม้ของโรงเรียนเอง และสามารถนำไปใช้เป็นผลงานสร้างรายได้จากการขายปุ๋ยหมักได้ด้วย”

ผอ.อณิรุจณ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กิจกรรมนี้ยังช่วยปลูกฝังจิตสำนึกเรื่องการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด ลดการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรซึ่งเป็นสาเหตุของหมอกควันในภาคเหนือ อีกทั้งยังสอดคล้องกับแนวทางการเรียนรู้ของโรงเรียนที่เน้นพัฒนา “ทักษะอาชีพ” ควบคู่กับ “จิตสำนึกอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม”

“เมื่อเด็กๆ เห็นว่าของเหลือใช้รอบตัว เช่น ใบไม้แห้ง หรือเศษพืช สามารถแปรรูปเป็นปุ๋ยได้ ก็จะเข้าใจว่าการดูแลสิ่งแวดล้อมสามารถสร้างประโยชน์และรายได้ในชีวิตจริงได้ด้วย เป็นการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตของชุมชนเราอย่างแท้จริง” ผอ.อณิรุจณ์กล่าว

ในส่วนของการจัดการขยะและของเสีย ซีพีและซีพี แอ็กซ์ตร้า ได้ร่วมถ่ายทอดแนวคิดการจัดการขยะอย่างยั่งยืนตามหลัก 3R – Reduce, Reuse, Recycle และการแยกขยะ 4 ประเภท เด็กๆ ได้เรียนรู้ตั้งแต่ขั้นตอนการลดการใช้ทรัพยากร การคัดแยกขยะอย่างถูกต้อง ไปจนถึงการนำกลับมาใช้ประโยชน์ใหม่ พร้อมทั้งได้รับฟังตัวอย่างการจัดการของเสียในระบบห้างค้าปลีก เพื่อเห็นภาพการนำแนวคิดสิ่งแวดล้อมไปปรับใช้ในโลกของธุรกิจจริง

อีกหนึ่งมุมสร้างสรรค์ของค่าย คือกิจกรรม “Content Creator” สื่อสร้างแรงบันดาลใจ เด็กๆ ได้เรียนรู้การสร้างคอนเทนต์ TikTok และฝึกตัดต่อวิดีโอด้วยแอป CapCut ถ่ายทอดเรื่องราวสิ่งแวดล้อมในมุมมองของตนเอง สร้างแรงบันดาลใจให้เพื่อนๆ และชุมชนเห็นคุณค่าของธรรมชาติ พร้อมเปิดโอกาสให้เยาวชนได้ฝึกทักษะใหม่ที่สามารถต่อยอดสู่การสร้างรายได้ในอนาคต

หลังจบค่าย ซีพีจะยังคงติดตามต่อยอดผลลัพธ์ โดยเฉพาะการผลิตปุ๋ยหมักในโรงเรียนและกลุ่ม “ฮักน้ำยม” เพื่อพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ชุมชน พร้อมเชื่อมต่อสู่ตลาดท้องถิ่น สร้างรายได้ควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม

นายกิตินันท์ อินทำ ผู้จัดการแผนกด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐ เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า
“ENVI Camp เป็นพื้นที่ให้เด็กได้เรียนรู้จากการลงมือทำ เห็นคุณค่าของทรัพยากรรอบตัว และเข้าใจว่าการดูแลสิ่งแวดล้อมเริ่มได้จากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัว โครงการนี้จึงไม่เพียงเป็นค่ายสิ่งแวดล้อมทั่วไป แต่คือพื้นที่เรียนรู้แห่งโอกาส ที่ปลูกเมล็ดพันธุ์ความคิดและความหวังให้กับเยาวชนรุ่นใหม่ ให้เติบโตขึ้นพร้อมหัวใจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของชุมชนในวันข้างหน้า”