
หลังจากการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ระหว่าง มหาวิทยาลัยตรังกานู (UMT) ประเทศมาเลเซีย และ เครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP) เมื่อไม่นานมานี้ เพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีนวัตกรรม “ธนาคารสัตว์น้ำ” พร้อมฐานข้อมูลดิจิทัลทรัพยากรชุมชนประมงพื้นบ้าน ล่าสุด ทีมงานจากหน่วยงานพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ร่วมเดินทางไปยังประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ 9 – 14 กรกฎาคม 2568 เพื่อติดตามผล และขับเคลื่อนความร่วมมือเชิงปฏิบัติการในพื้นที่จริง
กิจกรรมครั้งนี้จัดขึ้น ณ ชุมชนชายฝั่ง Beting Lintang รัฐตรังกานู ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบการถ่ายทอดนวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำ สู่การใช้จริงในระดับชุมชน โดยมีชาวประมงในพื้นที่กว่า 400 คนมีส่วนร่วม โดยมีเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพชีวิตทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน การขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันในพื้นที่ครั้งนี้ นำโดย ดร.ปฐพร เกื้อนุ้ย ผู้จัดการฝ่าย ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วยทีมปฏิบัติการ ร่วมประกอบกิจกรรมสำคัญหลายด้าน อาทิ การติดตั้งนวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำในพื้นที่ Beting Lintang เพื่อเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนและฟื้นฟูทรัพยากรอย่างยั่งยืน โดยมี Mr. Azlizam Bin Amin เป็นผู้ดูแลระบบ, การจัดเวทีเสวนา Focus Group ระหว่างตัวแทนเครือซีพี มหาวิทยาลัย UMT และผู้นำชาวประมง เพื่อแลกเปลี่ยนแนวทางแก้ไขปัญหาทรัพยากรสัตว์น้ำและเครื่องมือประมงที่เหมาะสม, ติดตั้งซั้งบ้านปลา (Fish Aggregating Devices) จำนวน 300 จุด และใช้หุ่นยนต์ใต้น้ำ (ROV – Remotely Operated Vehicle) ติดตามผลกระทบทางนิเวศในพื้นที่ ศึกษาการใช้เทคโนโลยี Echo Sounder ร่วมกับ Dr. Mohd Fazrul Hisam Bin Abd Aziz ผู้เชี่ยวชาญด้านการสำรวจใต้ทะเลของมหาวิทยาลัยตรังกานู (UMT) ประเทศมาเลเซีย เพื่อประเมินความหลากหลายของทรัพยากรสัตว์น้ำในเชิงวิทยาศาสตร์ ร่วมทำกิจกรรมประมงกับชาวบ้าน พร้อมแลกเปลี่ยนข้อมูลกับผู้นำกลุ่มชุมชน Tengku Mohamad Sharif Bin Tengku Musa เพื่อเข้าใจบริบทสังคม วัฒนธรรม และแนวทางการใช้ทรัพยากรชายฝั่ง
จาก MOU สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม MOU ฉบับดังกล่าวมีเป้าหมายหลักเพื่อ ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับสากล ภายใต้นโยบาย “SEACOSYSTEM เพื่อทะเลไทยที่ยั่งยืน” โดยมุ่งเน้นการยกระดับวิถีชีวิตของชาวประมงผ่านนวัตกรรมธนาคารสัตว์น้ำ ซึ่งเป็นระบบการเพาะฟักสัตว์น้ำไข่นอกกระดอง เช่น ปูม้า ปูดำ กุ้งมังกร ฯลฯ ด้วยเทคโนโลยีอัตโนมัติและการควบคุมคุณภาพน้ำแบบแม่นยำ ปัจจุบันนวัตกรรมนี้ได้ถูกติดตั้งแล้วในประเทศไทยกว่า 20 แห่ง ใน 8 จังหวัด และกำลังขยายผลไปยังประเทศมาเลเซีย โครงการนี้ยังสนับสนุนการจัดเก็บข้อมูลดิจิทัลของชุมชนประมง ซึ่งจะเป็นเครื่องมือสำคัญต่อการติดตาม ประเมินผล และวางแผนบริหารจัดการทรัพยากรในอนาคต พร้อมเชื่อมโยงกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) ของสหประชาชาติ และแนวทางสากลภายใต้กรอบ UN Global Compact กับเครือข่ายความร่วมมือในระดับภูมิภาค
การติดตามผลในครั้งนี้ ถือเป็นการยกระดับความร่วมมือจาก “นโยบาย” สู่ “การลงมือปฏิบัติ” อย่างแท้จริง โดยมีแผนต่อเนื่องในการติดตามระบบธนาคารสัตว์น้ำผ่านการวิจัยของ UMT และร่วมขยายผลไปยังชุมชนชายฝั่งอื่นๆ ในรัฐตรังกานู เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประเทศไทย–มาเลเซียในด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเล การประมง และการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของเยาวชน นักวิจัย และชาวประมงในระดับภูมิภาค โดย เครือเจริญโภคภัณฑ์และมหาวิทยาลัยตรังกานู ยังคงมุ่งมั่นเดินหน้า เชื่อมโยงนวัตกรรม วิทยาศาสตร์ และชุมชน เข้าด้วยกัน เพื่อสร้างทะเลที่อุดมสมบูรณ์ และเศรษฐกิจชุมชนที่ยั่งยืนให้แก่ภูมิภาคอาเซียนต่อไป









