ประธานผู้บริหารด้านทรัพยากรบุคคล CP-CPF ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ รับองค์กรก้าวสู่ยุคดิจิทัล

คุณพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหาร ทรัพยากรบุคคล CP-CPF เป็นวิทยากรในงานสัมมนาออนไลน์ หัวข้อ “Work and Well-being during Covid-19 : CP Group” จัดโดย Human Capital Management Club สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และประสบการณ์เรื่อง Future of Work การนำองค์กรก้าวสู่ยุคดิจิทัล เพิ่มขีดความสามารถขององค์กร และการเติบโตที่ยั่งยืน หลังสถานการณ์แพร่ระบาดโควิด-19 แก่ผู้บริหารระดับสูงและผู้บริหารด้าน HR ขององค์กรชั้นนำสมาชิกสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย
คุณพิมลรัตน์ กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิดส่งผลให้โลกธุรกิจเปลี่ยนแปลงไปไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เครือ CP-CPF ได้ให้ความสำคัญและปรับเปลี่ยนโครงสร้างองค์กรดิจิทัลมาตั้งแต่ก่อนเกิดการแพร่ระบาดโควิด-19 เพื่อวางรากฐานการเติบโตอย่างยั่งยืน ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว และวิกฤตโควิดเป็นตัวเร่งให้บริษัทฯ เน้นการ transform ก้าวเป็นองค์กรดิจิทัลรวดเร็วยิ่งขึ้น โดย “บุคลากร” ยังเป็นหัวใจสำคัญต่อการเติบโตที่ยั่งยืนขององค์กร ดังนั้น หน่วยงานด้านทรัพยากรบุคคล หรือ HR จึงมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาศักยภาพบุคลากรให้มีทักษะก้าวทันและพร้อมรับมือในการทำงานในโลกธุรกิจวิถีใหม่ (Future of Work) ร่วมขับเคลื่อนองค์กรเติบโต
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด ได้ช่วยเร่งให้หลายองค์กรปรับตัวสู่องค์กรดิจิทัลมากขึ้น เครือ CP-CPF เตรียมพร้อม Transform สู่การเป็นองค์กรดิจิทัลมาอย่างต่อเนื่อง โดยการทำงานในยุคใหม่จะมีโครงสร้างองค์กรที่ Lean และ Agile ให้มีการทำงานคล่องตัวแบบ Startup ลดขั้นตอนการทำงานที่ซับซ้อน มุ่งเน้นการสื่อสารในทีมมากขึ้น ทำให้การทำงานรวดเร็ว ใช้โมเดลการทำงานรูปแบบใหม่ Hybrid & Remote Work ที่ผสมผสานระหว่างการทำงานที่ออฟฟิศและการทำงานทางไกล โดยขับเคลื่อนองค์กรด้วย Big Data และเทคโนโลยีดิจิทัล (HR Analytics & Technology) การปรับโครงสร้างการทำงานของบริษัทฯ เริ่มจากนำแผนความต่อเนื่องในการดำเนินธุรกิจ (Business Continuity Plan) มาเป็นพื้นฐานในการกำหนดรูปแบบการทำงาน และกลุ่มพนักงาน กลุ่มไหนต้องมาทำงานมีความจำเป็นต่อการผลิต หรือกลุ่ม On Site ที่ต้องทำงานที่หน้างาน กลุ่มไหนที่สามารถสลับการทำงานที่สำนักงานและทำงานจากบ้านหรือกลุ่ม ที่สามารถทำงานจากข้างนอกได้ตลอดเวลา ซึ่งรูปแบบการทำงานแบบผสมผสาน จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดหลักเกณฑ์ ขั้นตอนการปฏิบัติงาน การตัดสินใจ การสื่อสาร ขณะเดียวกัน องค์กรต้องวางโครงสร้างพื้นฐานของเทคโนโลยีและระบบดิจิทัลที่มีความพร้อมช่วยอำนวยความสะดวกให้ทำงานและติดตามผลได้รวดเร็ว ที่สำคัญพนักงานเป็นตัวจักรสำคัญมีความพร้อมทั้งเรื่องเทคโนโลยีและทักษะในการใช้งานที่คล่องแคล่ว (Digital Literacy) ดังนั้น การประเมินความพร้อมองค์กรและบุคลากร จึงมีความสำคัญต่อการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัลได้ ซึ่งที่ผ่านมา การทำงานแบบ Hybrid & Remote Work ได้แสดงผลลัพธ์ในแง่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลของการทำงานของ CP-CPF จึงทำให้เรามีความมั่นใจและมุ่งมั่นที่ปรับองค์กรสู่ดิจิทัลมากขึ้น
ขณะเดียวกัน CP-CPF ยังให้ความสำคัญกับบุคลากรสูงสุด จากสถานการณ์โควิด คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ได้ประกาศนโยบายไม่มีการปลดพนักงานจากโควิด ขณะที่ทุกหน่วยงานเร่งยกระดับมาตรการความปลอดภัยเพื่อให้พนักงานทำงานด้วยความมั่นใจในความปลอดภัยและมั่นคง สนับสนุนค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลพนักงานที่ติดเชื้อ การช่วยเหลืออาหารให้สำหรับพนักงานที่ต้องกักตัว 14 วัน รวมถึงช่วยเหลือสมาชิกในครอบครัวที่ต้องออกจากงาน การให้ทุนการศึกษา และเงินการศึกษาของบุตรพนักงาน ตลอดจนดูแลชุมชนด้วยการทำมาตรการ Bubble and Seal และ สร้างโรงพยาบาลสนามเพื่อให้ดูแลพนักงานและชุมชนปลอดภัย การจัดสรรวัคซีนซิโนฟาร์มให้พนักงานทั้งคนไทยและชาวต่างชาติได้ฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง ซึ่งขณะนี้ ร้อยละ 95 ของพนักงานของซีพีเอฟ 70,000 คน ได้รับวัคซีนเรียบร้อยแล้ว
คุณพิมลรัตน์ กล่าวเพิ่มว่า การปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ยุคดิจิทัลนั้น บทบาทของ HR กับองค์กรจะมีมากกว่าการเป็นพันธมิตรธุรกิจ จึงทำให้ HR มีบทบาทสำคัญในการทำงานล่วงหน้าให้กับองค์กร สามารถวิเคราะห์องค์กรในทุกหน่วยงานให้มีความพร้อม สามารถวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อนเพื่อให้องค์กร Transform ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ HR ยังต้องเป็นสไตลิสต์ (Stylist) ช่วยออกแบบสร้างประสบการณ์การทำงานใหม่ให้เหมาะสมกับพนักงานแต่ละคน รวมทั้งทำหน้าที่เป็นผู้สร้าง (Builder) ช่วยสร้างทักษะความสามารถในอนาคตของพนักงานและวางรากฐานวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นแบบ Lifelong Learning เพื่อให้พนักงานเป็นกำลังสำคัญในการสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขันขององค์กร และสุดท้าย HR จะเป็น Contributor สร้างความผูกพันในองค์กรของพนักงาน ตลอดจนช่วยเหลือสังคม เพื่อให้บริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืน กล่าวโดยสรุป HR จะเข้ามาช่วยเตรียมความพร้อมบุคลากรรองรับการทำงานในยุคหลังโควิด-19 ช่วยสร้างประสบการณ์การทำงานของอนาคต รวมถึงการดูแลบุคลากรขององค์กรทั้งในเรื่องการเติบโตในหน้าที่การงาน สร้างสมดุลของสุขภาพกาย ใจ และการเงิน เพื่อให้พนักงานทุกคนทุกระดับสามารถปรับตัวทำงานในยุคนิวนอร์มอลได้อย่างมีความสุขและมั่นคง รวมทั้งมีส่วนร่วมขับเคลื่อนผลักดันองค์กรก้าวไปข้างหน้าเติบโตอย่างยั่งยืน
ผู้ที่สนใจสามารถรับชมคลิปวิดีโอการสัมมนาหัวข้อ “Work and Well-being during Covid-19 : CP Group” ย้อนหลัง ได้ที่>> https://bit.ly/3m9hmKM