CP-CPF จัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ผ่านระบบตรวจสอบย้อนกลับ จากแหล่งปลูกที่ไม่รุกป่าและไม่เผา 100%

กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ (Feed Ingredients Trading Business Group : FIT) เครือ CP-CPF นำ​เทคโนโลยี​ระบบตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งเพาะปลูก​ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (corn traceability) สอดคล้องกับมาตรฐานสากลมาใช้ สร้างหลักประกัน​การจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ที่ปราศจากการบุกรุกป่าและไม่เผา ซึ่งดำเนินการอย่างเป็นระบบและประสบความสำเร็จอย่างดีในไทย และยังส่งเสริมประเทศเพื่อนบ้านที่มีการเพาะปลูกข้าวโพดจำนวนมาก โดยนำระบบดังกล่าวไปใช้อย่างมีประสิทธิภาพ​ เช่น เมียนมา ลาว และเวียดนาม
คุณไพศาล เครือวงศ์วานิช CEO กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ในฐานะเป็นผู้จัดหาสินค้าเกษตรที่เป็นวัตถุดิบหลักทางการเกษตรของเครือซีพี กล่าวว่า CP-CPF ให้ความสำคัญกับการสร้างห่วงโซ่การผลิตอาหารที่ยั่งยืน และสนับสนุนการแก้ปัญหาหมอกควันข้ามพรมแดน โดยมุ่งมั่นจัดหาวัตถุดิบจากแหล่งปลูกที่ปราศจากการบุกรุกพื้นที่ป่าอย่างต่อเนื่อง ตามแนวทาง “ไม่เขา ไม่เผา เราซื้อ” ตลอดจนได้พัฒนาระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ (Corn Traceability) ซึ่งนำมาใช้ในกิจการไทยตั้งแต่ปี 2560 และสามารถตรวจสอบถึงแหล่งปลูกที่มีเอกสารสิทธิ์ได้ 100%
กลุ่มธุรกิจการค้าวัตถุดิบอาหารสัตว์ ร่วมกับ CP เมียนมา บริษัทในเครือซีพี ได้นำระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ไปใช้รับซื้อผลผลิตข้าวโพดในเมียนมา ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ปัจจุบันข้าวโพดที่บริษัทจัดหาในเมียนมาทั้งหมด ตรวจสอบย้อนกลับว่าได้มาจากพื้นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้อง โดยเกษตรกรร่วมลงทะเบียนเอกสารสิทธิ์ที่ถูกต้อง พร้อมพิกัดดาวเทียมจีพีเอสของพื้นที่มาใช้เพื่อยืนยัน​ว่าเป็นข้าวโพดที่มาแหล่งที่มาไม่บุกรุกพื้นที่ป่าได้ 100%
“ความมุ่งมั่นในการจัดหาวัตถุดิบหลักทางการเกษตรด้วยความรับผิดชอบ ตามนโยบายการจัดหายั่งยืนของซีพีเอฟ ช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคตลอดห่วงโซ่อุปทานอาหาร และยังเป็นการสนับสนุนเกษตรกรเพาะปลูกบนพื้นที่ปลูกถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมทั้งส่งเสริมคู่ค้าธุรกิจ มีส่วนร่วมในการอนุรักษ์และดูแลผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ และร่วมจัดการปัญหาหมอกควันอย่างยั่งยืน” คุณไพศาล กล่าว
สำหรับการจัดหาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ให้กับโรงงานอาหารสัตว์ในไทย เกษตรกรสามารถลงทะเบียนและยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชัน ฟ ฟาร์ม (For Farm) พร้อมยกระดับความเชื่อมั่นในระบบตรวจสอบย้อนกลับ โดยนำเทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain Traceability) ที่เพิ่มความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในระบบตรวจสอบย้อนกลับข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ในกิจการไทยที่เชื่อมโยงตั้งแต่แปลงเพาะปลูกถึงโรงงานอาหารสัตว์ เป็นหลักการที่บริษัทปฏิบัติอย่างเคร่งครัดมาโดยตลอด ตลอดจนสอดคลัองกับนโยบายการค้าโลกในการดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ปลูก เพื่อสร้างห่วงโซ่การผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ รวมถึงแก้ปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ที่ยั่งยืน โดยริเริ่มจัดทำโครงการ “เกษตรกรพึ่งตน ข้าวโพดยั่งยืน” ตั้งแต่ปี 2559 เพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และถ่ายทอดเทคโนโลยีให้เกษตรกรที่เพาะปลูกในพื้นที่มีเอกสารสิทธิ์ถูกต้องในไทย เพิ่มผลผลิตและลดต้นทุน ส่งผลให้มีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งมีแนวปฏิบัติในการเพาะปลูกที่ปลอดการเผา และตั้งจุดรับซื้อพิเศษที่ใกล้กับพื้นที่ปลูกของเกษตรกร เพื่อลดจำนวนเที่ยวรถขนส่งข้าวโพดไปโรงงาน และฝุ่นละอองที่เกิดขึ้นจากการขนส่งผลผลิต พร้อมทั้งลงพื้นที่ถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกร
นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้นำระบบถ่ายภาพทางดาวเทียมช่วยวิเคราะห์จุดที่ยังมีการเผาหลังเก็บเกี่ยวเพื่อให้เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ ลงไปแนะนำเกษตรกรลด ละ เลิกการเผาตอซัง เพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองจากการเพาะปลูกที่ยั่งยืน พร้อมยังอำนวยความสะดวกให้เกษตรกรเข้าถึงความรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านช่องทางสื่อออนไลน์ และแอปพลิเคชั่น ฟ.ฟาร์ม สอดคล้องตามที่บริษัทฯ ได้ประกาศนโยบายการจัดหาอย่างยั่งยืน และความมุ่งมั่นต่อต้านการตัดไม้ทำลาย และปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อสร้างห่วงโซ่ผลิตอาหารที่ยั่งยืน และยกระดับความเชื่อมั่นของคู่ค้าและผู้บริโภคทั่วโลก
Cr.PR CPF