มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท (ซีพี) ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อน โครงการซีพีพัฒนาอาชีพตามดำริ พลเอกเปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา อย่างต่อเนื่อง โดยมีพันธกิจสำคัญคือการ สืบสาน รักษา ต่อยอด และน้อมนำ แนวทางเศรษฐกิจพอเพียง มาใช้เป็นแกนหลักในการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความยั่งยืนของชุมชนใน ตำบลปากรอ อำเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ซึ่งถือเป็นพื้นที่เป้าหมายสำคัญในการยกระดับอาชีพทางเลือกที่สอดคล้องกับภูมิสังคม ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตร และเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ชุมชนอย่างยั่งยืน
มูลนิธิฯ มีเป้าหมายพัฒนาชุมชนและเกษตรกร พร้อมมีต้นแบบให้เห็นอย่างเป็นรูปธรรม หัวใจสำคัญของโครงการฯ คือ “ศูนย์การเรียนรู้ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สวนเทพหยา” ซึ่งเป็นต้นแบบสำคัญ และพัฒนาให้เป็นแหล่งถ่ายทอดองค์ความรู้ โดยปัจจุบันมีผู้ได้รับองค์ความรู้กว่า 10,000 คนต่อปี โครงการยังได้สร้าง เกษตรกรต้นแบบในพื้นที่ พร้อมส่งเสริมอาชีพและองค์ความรู้ด้านการเกษตรให้กับเกษตรกร ซึ่งได้เริ่มเห็นผลลัพธ์ที่เป็นรูปธรรม นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับการปกป้อง ฟื้นฟูทะเลสาบสงขลาและทรัพยากรสัตว์น้ำ สร้างระบบนิเวศที่ดีอย่างยั่งยืน
โดยล่าสุด มูลนิธิฯ ได้ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสงขลา พิพิธภัณฑ์เมืองหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยหาดใหญ่ สมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดสงขลา ชุมชนสิงหนคร และเครือข่ายภาคประชาสังคม จัดกิจกรรม จิตอาสาทำความดี ถวายเป็นพระราชกุศล “สงขลาทำนา ๙ แปลง” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยมี นายเอกสิทธิ์ สองเมือง นายอำเภอสิงหนคร เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย นายชาญวิทย์ รัตนชาติ หัวหน้าโครงการซีพีพัฒนาอาชีพตามดำริ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จังหวัดสงขลา นำคณะทำงานจากมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และสำนักปฏิบัติการความยั่งยืนทางทะเล เครือเจริญโภคภัณฑ์ สถาบันการศึกษา ภาคประชาสังคม กลุ่มจิตอาสา และเครือข่ายเกษตรกรร่วมขับเคลื่อนทำความดีถวายเป็นพระราชกุศล ณ ศูนย์การเรียนรู้ฯ สวนเทพหยา จ.สงขลา
กิจกรรมในครั้งนี้ ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ร่วมแรงร่วมใจลงแขกดำนาข้าวหอมสยามสิงหนคร ซึ่งเป็นข้าวสายพันธุ์ใหม่ของกรมการข้าวที่ร่วมกับคนในพื้นที่ ต.ปากรอ อ.สิงหนคร จ.สงขลา พัฒนาสายพันธุ์ โดยมีคุณลักษณะเด่นคือ ทนเค็ม ทนจมน้ำ เหมาะกับสภาพพื้นที่ นอกจากนี้ยังให้ผลผลิตสูงถึง 800 กิโลกรัมต่อไร่ เมื่อเทียบกับข้าวสายพันธุ์เดิมที่มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 400 กิโลกรัมต่อไร่ ทั้งนี้เพื่อสานต่อแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง กิจกรรมดังกล่าวฯ มีเป้าหมายเพื่อผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวแจกจ่ายให้เกษตรกร และยังนำไปบริโภคภายในชุมชนได้อีกด้วย
มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท มีความมุ่งมั่นที่จะสานต่อปณิธานการ “ตอบแทนคุณแผ่นดิน” ผ่านการดำเนินโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนคนไทย ด้วยการพัฒนาในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร ครอบคลุมทั้งมิติเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เกิดการพัฒนาที่ยั่งยืน สร้างความมั่นคงในอาชีพและคุณภาพชีวิตให้กับคนในชนบทได้อย่างแท้จริง 
