รพ.ปิยะเวท มอบ “ใบขอบคุณ” เครือซีพี และซีพีเอฟ ร่วมสนับสนุน โรงพยาบาลสนามครบวงจร(End-to-End) ภายใต้ “โครงการลมหายใจเดียวกัน” ด้านเครือซีพีชี้ถือเป็นภารกิจเพื่อชาติที่ต้องช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของสังคมยามมีวิกฤต

ตามที่ โรงพยาบาลปิยะเวท มูลนิธิโรงพยาบาลเครือบางปะกอก โรงพยาบาลเครือปิยะเวท รวมทั้งพันธมิตรภาคธุรกิจเอกชน ร่วมก่อตั้งและสนับสนุนโรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) ภายใต้ “โครงการลมหายใจเดียวกัน” เพื่อช่วยรักษาผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019  ในการนี้โรงพยาบาลปิยะเวทได้จัดพิธีมอบใบขอบคุณให้แก่ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้ร่วมสนับสนุน โดยมี คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วย แพทย์หญิง เจรียง จันทรกมล ประธานบริษัทในเครือโรงพยาบาลบางประกอก และ โรงพยาบาลเครือปิยะเวท นพ.วิทิต อรรถเวชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัทโรงพยาบาลปิยะเวทจำกัด (มหาชน) ร่วมในพิธีที่จัดขึ้น เพื่อขอบคุณผู้ร่วมก่อตั้งและผู้สนับสนุน ซึ่งเครือเจริญโภคภัณฑ์ และบมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร หรือ ซีพีเอฟ ได้ร่วมสนับสนุนโรงพยาบาลสนามฯ แห่งนี้ด้วย โดยมีคุณนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ คุณพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหาร ทรัพยากรบุคคล เครือเจริญโภคภัณฑ์ และ บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหารเป็นผู้แทนรับมอบใบขอบคุณ

คุณอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า จากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในประเทศไทย ได้เห็นถึงความร่วมมือของภาคส่วนต่าง ๆ ที่ได้ช่วยเหลือสนับสนุนในการจัดการรับมือกับโรคระบาดนี้

“ผมขอชื่นชมและขอบคุณภาคเอกชน ที่เข้ามามีส่วนในการช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 โดยให้การสนับสนุน เครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ อาหาร และเครื่องดื่มต่าง ๆ ตลอดจนการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามครบวงจร….ผมเชื่อมั่นว่าด้วยศักยภาพของเราทุกคน จะทำให้ประเทศไทยสามารถก้าวผ่านวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน”

ด้าน แพทย์หญิง เจรียง จันทรกมล ประธานบริษัทในเครือ โรงพยาบาลบางประกอก และ โรงพยาบาลเครือปิยะเวท กล่าวว่า นับตั้งแต่เมื่อโรคโควิด-19 แพร่ระบาดในเดือนมีนาคมปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน โรงพยาบาลในเครือบางปะกอกและโรงพยาบาลในเครือปิยะเวทได้ทุ่มเทในการช่วยเหลือสังคมและให้การรักษาผู้ป่วยโควิด-19 อย่างเต็มที่และเร่งด่วนมาโดยตลอด

ทั้งนี้ ได้จัดตั้งโรงพยาบาลสนาม เพื่อรองรับผู้ป่วยทุกระดับอาการแบบครบวงจร โดยได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ถือเป็นความจำเป็นอย่างยิ่ง ที่จะช่วยกันดูแลและรักษาชีวิตประชาชนได้อย่างทันท่วงที พร้อมยืนยันว่าจะเป็นกองกำลังในการสนับสนุนกระทรวงสาธารณสุขและพร้อมจะดูแลผู้ป่วยทุกคนอย่างเต็มความสามารถ

ด้าน คุณนพปฎล เดชอุดม ในฐานะผู้แทนเครือซีพี กล่าวว่า การสนับสนุนภารกิจการจัดตั้งโรงพยาบาลสนามเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของสังคม และแบ่งเบาภาระของโรงพยาบาลหลักถือเป็นเป้าหมายภารกิจเพื่อชาติที่จำเป็นอย่างยิ่งในสถานการณ์การแพร่ระบาดระลอกใหม่ เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ร่วมสนับสนุนโรงพยาบาลสนามครบวงจรรองรับผู้ป่วยในหลายระดับและในหลายโรงพยาบาล

นอกจากนี้ ซีพีเอฟ ยังได้สนับสนุนโรงพยาบาลสนาม ซีพีเอฟ หนองจอก ขนาด 400 เตียง สะท้อนให้เห็นความตั้งใจของภาคเอกชนที่อาสาเป็นอีกแรงหนึ่งในการช่วยเหลือสังคม บรรเทาความเดือดร้อนของ ประชาชนคนไทยและแบ่งเบาภาระหน้าที่ของทางภาครัฐ เพื่อให้ประเทศไทยฝ่าวิกฤตของผลกระทบการแพร่ระบาดของโควิด-19 ไปด้วยกันให้ได้ทุกภาคส่วน

โรงพยาบาลสนามครบวงจร (End-to-End) ภายใต้ “โครงการลมหายใจเดียวกัน”  เป็นการผนึกกำลังการสนับสนุนงบประมาณในการจัดสร้างจากภาคเอกชน อาทิ กลุ่ม ปตท. เครือเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) มูลนิธิบีเจซี บิ๊กซี ธนาคารกสิกรไทย ไมเนอร์กรุ๊ป  MBK  AIA  JEP Enterprise  และสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าลาดกระบัง เป็นต้น รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐเพื่อช่วยเหลือสังคม แบ่งเบาภาระโรงพยาบาลหลัก โดยจัดตั้งระบบ Home Isolation โรงพยาบาลสนาม (Hospital) สีเขียว 1,000 เตียง สีเหลือง 300 เตียง และโรงพยาบาลสนาม ICU 120 เตียง ถือเป็น ICU สนามที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ

Cr : Pr CPG