ซีพีน่าน ผนึกกำลัง กรมส่งเสริมการเกษตร ถ่ายทอดองค์ความรู้การสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรมูลค่าสูง ชูโมเดลต้นแบบวิสาหกิจชุมชนสร้างป่าสร้างรายได้ บ้านสบขุ่น จ.น่าน

เมื่อเร็ว ๆ นี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ โดยสำนักงานด้านความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน จ.น่าน ร่วมกับ กองส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน กรมส่งเสริมการเกษตร จัดหลักสูตรสัมมนาพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานแก่เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานส่งเสริมการจัดตั้งและบริหารจัดการวิสาหกิจเกษตรฐานชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่น ครั้งที่ 2 ประจำปีงบประมาณ 2566 จำนวน 46 คน มุ่งเน้นพัฒนาองค์ความรู้และทักษะให้กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน ให้สามารถขยายผลการดำเนินงานในระดับพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

คุณนวนิตย์ พลเคน รองอธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร ประธานในพิธีกล่าวว่า การสัมมนาที่จัดขึ้นในครั้งนี้มีความสำคัญเป็นอย่างมากต่อการดำเนินโครงการ เพราะจะทำให้วิสาหกิจชุมชนซึ่งมีกระบวนการผลิตที่ใช้วัตถุดิบ ทรัพยากร แรงงาน และทุนในชุมชน ใช้ฐานภูมิปัญญาเป็นต้นทุนในการผลิต เกิดการพัฒนาจากผู้ผลิตสู่การเป็นผู้ประกอบการ มีการพัฒนาการผลิตสินค้าจากฐานชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นบนฐานของ BCG โมเดล รวมทั้งเป็นการพัฒนาให้วิสาหกิจชุมชนมีความพร้อมในการแข่งขันกับตลาดภายนอกได้ โดยการสัมมนาได้จัดให้มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายทอดความรู้จากวิทยากรที่มีประสบการณ์ ความรู้ และความสามารถในการดำเนินงานด้านธุรกิจจากเครือเจริญโภคภัณฑ์ และจากการศึกษาดูงานสบขุ่นโมเดล ที่เป็นโมเดลที่ประสบความสำเร็จในการพัฒนาการสร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าเกษตรของวิสาหกิจชุมชน ซึ่งจะทำให้เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการเกษตรทุกท่านได้มีองค์ความรู้ เพื่อนำไปปรับใช้ในการพัฒนายกระดับศักยภาพวิสาหกิจชุมชน ทั้งในประเด็นการวิเคราะห์ชุมชน การจัดแผนธุรกิจตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ รวมถึงการวางแผนพัฒนาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ของวิสาหกิจชุมชนให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด

ทั้งนี้สำนักงานด้านความยั่งยืนและพัฒนาชุมชน จ.น่าน เครือเจริญโภคภัณฑ์ เข้าร่วมแลกเปลี่ยนกระบวนการถอดความรู้จากการศึกษาดูงานโครงการสบขุ่นโมเดล อีกทั้งคุณพิไลลักษณ์ พิชัยวัตต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมเป็นวิทยากรถ่ายทอดองค์ความรู้เกี่ยวกับกระบวนการส่งเสริมผู้ประกอบการวิสาหกิจชุมชนในการสร้างมูลค่าสินค้าเกษตรจากฐานชีวภาพให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด

คุณพิไลลักษณ์ พิชัยวัตต์ กล่าวว่า การสัมมนาในครั้งนี้เป็นการพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานและเตรียมความพร้อมบุคลากรที่มีหน้าที่ส่งเสริมกิจการของชุมชน ซึ่งเป็นหลักสูตรต่อเนื่องจากการที่เครือฯ ได้ถ่ายทอดความรู้ในการสัมมนาครั้งที่ 1 ว่าด้วยการขับเคลื่อน BCG Model ภาคการเกษตร การวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานของวิสาหกิจชุมชนเพื่อออกแบบโมเดลธุรกิจตลอดห่วงโซ่อุปทาน เครื่องมือสำหรับการบริหารธุรกิจของวิสาหกิจชุมชน Key Stakeholder Management สำหรับพัฒนาธุรกิจวิสาหกิจชุมชน และกระบวนการเชื่อมโยงสู่ตลาด Modern Trade จนนำมาสู่การสัมมนาครั้งที่ 2 การศึกษาพื้นที่ต้นแบบ พร้อมมีโอกาสร่วมแลกเปลี่ยนกับผู้แทนวิสาหกิจชุมชนสร้างป่าสร้างรายได้ บ้านสบขุ่น จ.น่าน ได้เห็นกระบวนการทำงานในพื้นที่ตลอดห่วงโซ่อุปทาน

ทางด้านคุณสงคราม รัตนศรีลา ประธานวิสาหกิจชุมชนสร้างป่าสร้างรายได้ บ้านสบขุ่น กล่าวว่า กว่าจะเป็นกลุ่มวิสาหกิจฯ อย่างทุกวันนี้ เกษตรกรที่นี่เริ่มต้นจากความไม่รู้ เราต้องยอมรับว่า “กาแฟ” เป็นพืชใหม่สำหรับคนในชุมชน ก่อนหน้านี้มีการจัดตั้งกลุ่มโดยใช้ชื่อ “เกษตกรผู้ปลูกกาแฟบ้านสบขุ่น” และเมื่อผ่านการเรียนรู้กระบวนการจัดการจากต้นน้ำสู่ปลายน้ำร่วมกับทีม CP จึงเห็นถึงโอกาสและปัญหาในพื้นที่จากการปรับเปลี่ยนพืชเชิงเดี่ยวสู่แปลงกาแฟ ได้พัฒนาเติมทักษะในสิ่งที่ขาด ศึกษาดูงานในพื้นที่อื่น ๆ มีความสามารถในการบริหารจัดการ และเกิดการมีส่วนร่วมของคนในกลุ่ม จึงก่อเกิดการทำงานร่วมกับภาครัฐภายใต้โครงการ “สร้างป่า สร้างรายได้” ซึ่งเป็นโครงการส่งเสริมอาชีพให้ปลูกไม้ป่าควบคู่ไปกับไม้เศรษฐกิจ เป็น 1 ในโครงการตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อรักษาฟื้นฟูป่าต้นน้ำที่ถูกทำลาย โดยดำเนินการไปพร้อมกับการสร้างจิตสำนึกจนเกิดเป็น “วิสาหกิจชุมชนสร้างป่าสร้างรายได้บ้านสบขุ่น”