ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ เชื่อมั่นไทยติดท๊อปประเทศมีวินัยการเงินการคลังดีเยี่ยม ชี้โลกวิกฤตใช้วิธีปกติกระตุ้นเศรษฐกิจไม่ได้ เชื่อมั่นนโยบายเงินดิจิทัลกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ ย้ำวิกฤตโลกคือโอกาสของไทยต้องออกกฎดึงดูดการลงทุน

ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ ได้ขึ้นกล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “90 ปี หอการค้าไทย กับการพัฒนาของเศรษฐกิจไทย” บนเวทีสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 41 วันที่ 18 พฤศจิกายน 2566 ภายใต้โอกาสฉลองครบรอบ 90 ปี หอการค้าไทย โดยมีผู้เข้าฟัง อาทิ ผู้นำองค์กรทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั่วประเทศ อาทิ คณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หอการค้าจังหวัด กลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้บริหารจากกระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับด้านเศรษฐกิจ เข้าร่วม ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค กรุงเทพฯ

ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ ได้กล่าวยกย่องการทำงานของรัฐบาลชุดที่ผ่านมาว่า มีวินัยทางการเงินเป็นอย่างดีที่สามารถรักษา GDP ต่อหนี้ของประเทศอยู่ที่ 61% ขณะที่หลายประเทศทั่วโลกตัวเลขหนี้สาธารณะกว่า 100% ต่อเนื่องมาจนถึงรัฐบาลภายใต้การนำของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน ก็ยังสามารถกล่าวได้ว่าวินัยทางการเงินการคลังของไทยอยู่ในระดับท๊อปของโลก ดังนั้นต้องมองว่าในสถานการณ์ปัจจุบันเศรษฐกิจโลกไม่ปกติ การกระตุ้นเศรษฐกิจจึงไม่ควรใช้วิธีปกติ ขณะที่ประเทศไทยมีวินัยทางการเงินการคลังที่ดี เชื่อมั่นว่านโยบายเงินดิจิทัลจะกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ เงินดิจิทัลจะต้องช่วยทั้งอุตสาหกรรม ไม่ได้เพียงแต่ช่วยคนยากจน

นอกจากนี้ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ ได้กล่าวว่าในโลกนี้ ประเทศที่เจริญแล้ว จะมีนโยบายปกป้องสินค้าเกษตร และสำหรับประเทศไทยสินค้าเกษตรคือน้ำมันบนดิน รัฐบาลต้องปกป้องราคาสินค้าเกษตรให้มีราคาสูง อย่าแทรกแซงราคา เพื่อให้เกษตรกรอยู่รอด หากประเทศไทยสามารถต่อยอดสินค้าเกษตรให้เพิ่มมูลค่าได้ก็จะนำรายได้มหาศาลเข้าสู่ประเทศ

ปัจจุบันโลกมีวิกฤต แต่อาเซียน 10 ประเทศ รวมถึงประเทศไทยยังเป็นประเทศที่น่าลงทุนในสายตาชาวโลก หากมีการออกกฎที่ดึงดูดหรือเชิญชวนให้นักลงทุนเข้ามาไทยก็จะทำให้ไทยมีโอกาสเติบโตมากขึ้น เช่น การดึงดูดคนเก่งจากทั่วโลกเข้ามา เมื่อมีคนเก่งก็จะทำให้ประเทศไทยเป็นที่สนใจของบริษัทใหญ่ระดับโลกต่าง ๆ ดังนั้นนายธนินท์จึงมองว่าวิกฤตของโลกที่เกิดขึ้นเป็นโอกาสของประเทศไทย

นอกจากนี้ท่านประธานอาวุโสธนินท์ เจียรวนนท์ มีความกังวลที่ประเทศไทยก้าวสู่สังคมผู้สูงวัยเร็วไป จึงขอให้รัฐบาลให้ความสำคัญ เนื่องจากอาจจะสร้างคนไม่ทัน พร้อมกันนี้นายธนินท์ได้ชี้ให้เห็นว่าแม้ปัจจุบันโลกจะเข้าสู่ยุค 5.0 หรือธุรกิจตัวเบา ที่เน้นออนไลน์เป็นหลัก แต่แท้จริงแล้วธุรกิจการผลิตยังมีความสำคัญ การผลิตจะต้องปรับตัว ปรับต้นทุนให้ถูกลง และต้องทำให้ไฮเทคมากขึ้น เพราะอย่างไรออนไลน์ก็ยังต้องการผลิตในที่สุดนั่นเอง