Sustainable Computing ระบบประมวลผลที่ยั่งยืน

ในช่วงนี้ที่กระแสความยั่งยืนกลายเป็นเรื่องสำคัญที่องค์กรต้องแสดงออกและรับผิดชอบอย่างโปร่งใส ทำให้เทคโนโลยี Cloud Computing เป็นเรื่องจำเป็ญสำหรับการขยายตัวของภาคธุรกิจ ที่ต้องพึ่งพาข้อมูลมหาศาลให้เป็นระบบที่สนับสนุนการดำเนินธุรกิจ จึงมีความจำเป็นในการสร้าง Data Center หรือ ศูนย์ข้อมูล ที่มีพลังงานสะอาดและสร้างผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด

รายงานจาก World Economic Forum ให้ข้อมูลว่า Data Center ในปัจจุบันเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกที่อยู่เบื้องหลังเทคโนโลยี อย่าง Google, Metaverse, AI และอื่น ๆ อีกมากมาย และกำลังขยายตัวเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตามความต้องการที่มากขึ้นของผู้บริโภค ซึ่งสิ่งเหล่านี้เรียกว่า ‘Green Data’ ที่จะมีความก้าวหน้ามากขึ้นในอนาคต ส่งผลให้มี ‘Net-Zero-Energy Data Center’ ที่เทคโนโลยีและความยั่งยืนจะถูกบูรณาการเข้าด้วยกัน

‘Net-Zero-Energy Data Center’ จะเป็นการนำเทคโนโลยีพลังงานมาใช้ ในการจัดการความร้อนภายในศูนย์ข้อมูล พัฒนาระบบความเย็นที่ใช้น้ำและกระจายความร้อน เพื่อให้พลังงานความร้อนถูกนำกลับมาใช้ใหม่ ยกตัวอย่างเช่น ‘Stockholm Data Parks’ ในเมืองสตอกโฮล์มของสวีเดน ผู้ให้บริการระบบทำความร้อนและความเย็นในเขตพื้นที่อย่าง Stockholm Exergi รวมไปถึงผู้ให้บริการโครงข่ายไฟฟ้า Ellevio และ Stokab มีวิสัยทัศน์ คือต้องการให้อุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูลไม่มีการสิ้นเปลืองความร้อน เพราะมองว่าความร้อนส่วนเกินของ Data Center เป็นทรัพยากรที่มีค่า สามารถนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทน ต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศได้ โดยตั้งใจให้เมืองปราศจากเชื้อเพลิงฟอสซิลทั้งหมดภายในปี 2040

อีกประการหนึ่งนั้นคือการนำ AI มาใช้วิเคราะห์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้พลังงานแบบ Real time โดยไม่กระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานของ Data Center เช่น DeepMind จาก Google ที่ใช้ AI ในการประมวลผลและจัดการพลังงานในศูนย์ข้อมูล ทำให้ Google ลดการใช้พลังงานลงได้ถึง 40% นอกจากนั้น การสนับสนุนโครงสร้างพื้นฐานทางเทคโนโลยีของศูนย์ข้อมูลอย่าง Cloud and Edge Computing จะช่วยในการประมวลผลระบบอย่างรวดเร็ว ยกตัวอย่าง Crusoe ผู้บุกเบิกกระบวนการใช้ก๊าซธรรมชาติส่วนเกิน เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้าและให้พลังงาน ในการเปิดใช้งานโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลแบบ Cloud ช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานศูนย์ข้อมูลสามารถเพิ่มประสิทธิภาพพลังงานได้ และปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของบริษัทความต้องการ นวัตกรรมเพิ่มเติมด้าน Software และ Hardware ประกอบด้วยสถาปัตยกรรมคอมพิวเตอร์แบบใหม่เช่นเดียวกับระบบบนชิป และการเพิ่มประสิทธิภาพดังกล่าวเช่นการคำนวณสัดส่วนพลังงาน ในคอมพิวเตอร์จะใช้พลังงานตามสัดส่วนปริมาณของงานที่กำลังดำเนินการด้วย

การจะทำให้ ‘Net-Zero-Energy Data Center’ สำเร็จ จะต้องเกี่ยวข้องกับแนวทางใหม่ในการบูรณาการข้างต้น นั่นคือแนวทางไฟฟ้าใหม่เทคโนโลยีการสร้าง การจัดเก็บ และการจัดการด้วยกระแสแห่งนวัตกรรมและการลงทุนในบริเวณนี้มีเหตุผลที่จะทำให้โลกยั่งยืนได้มากในอนาคต

ปัจจุบัน ผลกระทบด้านพลังงานไม่ได้เป็นแค่เพียงองค์ประกอบเดียวที่ Data Center ต้องคำนึง และก็ไม่ใช่แค่เรื่องการปรับใช้เทคโนโลยีเพียงเท่านั้น แต่จำเป็นต้องมีมุมมองแบบองค์รวมเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมและผลกระทบด้านพลังงานอีกด้วย ซึ่งในมุมของอุตสาหกรรม เราต้องให้ความสำคัญกับความยั่งยืนมากขึ้น ช่วยลดผลกระทบด้านสภาพอากาศให้กับคนรุ่นต่อไปให้อุตสาหกรรมยืนหยัดต่อไปได้อีกยาวนาน

อ้างอิง

World Economic Forum 2023 / Techsauce