ฉลากอาหาร GMO ของสหรัฐฯ

USDA ออกระเบียบฉลากอาหาร GMO แล้ว โดย USDA ให้ใช้คำว่า bioengineered (BE) แทนคำว่า GMO เพื่อแจ้งว่าเป็นอาหารที่มีส่วนผสมของการตัดแต่งยีน โดยให้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ 1 ม.ค. 2020 ยกเว้นผู้ผลิตอาหารรายเล็กให้เริ่ม 1 ม.ค. 2021 และกำหนดให้เป็นภาคบังคับ 1 ม.ค. 2022

(ดูรายละเอียดที่ https://www.federalregister.gov/documents/2018/12/21/2018-27283/national-bioengineered-food-disclosure-standard)

สาระสำคัญของระเบียบฉลากอาหาร GMO (BE) คือ
• อาหาร GMO ซึ่งปัจจุบันไม่ต้องติดฉลาก GMO เช่น ข้าวโพด ฝ้าย ถั่วเหลือง มะละกอ สัปปะรด (สีชมพู) มันฝรั่ง แอปเปิ้ล (Arctic TM) ปลาแซลมอน AquaAdvantage คาโนลา และผักกาดฝรั่ง จะต้องติดฉลาก BE (GMO) เพื่อแจ้งแก่ผู้บริโภค และ USDA จะทบทวนอาหารอื่นๆที่จะเพิ่มในรายการอาหาร GMO เป็นประจำทุกปี

• USDA อนุญาตให้ผู้ผลิต ผู้นำเข้า และผู้บรรจุติดฉลากสัญลักษณ์ BE บนผลิตภัณฑ์ หรือผ่านการ scan หรือแจ้งเป็นข้อความ หรือแจ้งผ่าน website หรือผ่านทางโทรศัพท์ (กรณีเป็นผู้ผลิตอาหารรายเล็ก)

• ข้อยกเว้น
1) อาหารจากสัตว์ที่ทานอาหารสัตว์ที่มี GMO เช่น ไข่ไก่จากไก่ไข่ที่เลี้ยงด้วยอาหารสัตว์ที่มีส่วนผสม GMO
2) อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง
3) อาหารที่บริการในร้านอาหาร ห้องอาหาร และรถขายอาหาร
4) ผู้ผลิตอาหารขนาดเล็กมาก (มีรายได้ต่ำกว่า 2.5 ล้านดอลล่าร์/ปี)

ทั้งนี้ สหรัฐฯจะต้องแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย The Agricultural Marketing of 1946 ก่อน เพื่อรองรับมาตรการติดฉลากอาหาร GMO (BE) นี้

—————————-