
30 พฤษภาคม 2568 – ดร. เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานงานวันป่าชุมชนแห่งชาติ ประจำปี 2568 และมอบประกาศเกียรติคุณภาคเอกชนที่สนับสนุนภารกิจ ด้านป่าชุมชน แก่ เครือเจริญโภคภัณฑ์(ซีพี) โดย นายจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร ผู้บริหารสูงสุดด้านพัฒนาความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เป็นผู้แทนรับมอบ พร้อมอีก 6 ภาคเอกชน 4 มูลนิธิ ที่ได้รับการคัดเลือกจากกรมป่าไม้ในปีนี้ ทั้งนี้ยังมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้ ผู้บริหารกระทรวงฯ และเครือข่ายป่าชุมชน กว่า 300 คน เข้าร่วมงาน ณ อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์

งาน “วันป่าชุมชนแห่งชาติ” ประจำปี พ.ศ. 2568 จัดขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและแสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของสถาบันพระมหากษัตริย์ ที่ทรงส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรป่าไม้ อันนำไปสู่การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลระหว่างคนกับป่า ตามแนวทางปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง อีกทั้งยังเน้นย้ำการมีส่วนร่วมของประชาชนในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติอย่างเหมาะสมและยั่งยืน ทั้งนี้ยังเป็นการประชาสัมพันธ์และสร้างการรับรู้เกี่ยวกับพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง ทั้งในหมู่ประชาชน หน่วยงานรัฐ และภาคเอกชน อีกทั้งยังส่งเสริมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ด้านการพัฒนาป่าชุมชน เพื่อเพิ่มรายได้และสร้างแรงจูงใจให้แก่ชุมชนผู้ดูแลรักษาป่า โดยสามารถนำผลผลิตหรือบริการจากป่าชุมชนไปใช้ประโยชน์ในการสร้างเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน ภายในงานยังมีการมอบรางวัลแก่ภาคีเครือข่ายที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนงานด้านป่าชุมชนจากทั่วประเทศ

การได้รับรางวัลในครั้งนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ในการมีส่วนร่วมกับชุมชนท้องถิ่นเพื่อการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และใช้ทรัพยากรป่าไม้อย่างรู้คุณค่า ผ่านการดำเนินโครงการที่สร้างผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะ โครงการ “ซีพีความดี สิ่งแวดล้อมยั่งยืน ‘ป่าปลอดเผา’” ซึ่งถือเป็นโครงการต้นแบบในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน

นายจอมกิตติ ศิริกุล กล่าวถึงแนวทางของ ” โครงการ ซีพีความดี สิ่งแวดล้อมยั่งยืน ” ป่าปลอดเผา จ.เชียงใหม่ ” ถือเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายด้านความยั่งยืนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ภายใต้วิสัยทัศน์ Net Zero 2030 ซึ่งเป็นนโยบายจาก คุณศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร ที่ให้ความสำคัญกับการเริ่มต้นจากรากฐานของชุมชน โดยเฉพาะการจัดการใบไม้แห้งอย่างมีระบบ เพื่อลดเชื้อเพลิง ลดไฟป่า หมอกควัน และก๊าซเรือนกระจกอย่างยั่งยืน”
โดย” โครงการ ซีพีความดี สิ่งแวดล้อมยั่งยืน ” ป่าปลอดเผา จ.เชียงใหม่ ” มุ่งเน้นการลดการเผาใบไม้และเศษวัสดุในพื้นที่ป่าชุมชน เพื่อป้องกันปัญหาไฟป่า ฝุ่น PM2.5 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยส่งเสริมให้ชุมชนใช้แนวทางแปรรูปใบไม้แห้งเป็นปุ๋ยอินทรีย์ สร้างรายได้ เพิ่มมูลค่าให้ทรัพยากรในท้องถิ่น และกระตุ้นการมีส่วนร่วมของชุมชนในการจัดการป่าอย่างมีระบบ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่ปี 2566 โดยในเฟสแรก ได้มีพื้นที่นำร่อง 6 ป่าชุมชนชายแดนไทย-เมียนมา ในอำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ ได้แก่ บ้านสามปู, บ้านมหาธาตุ, บ้านแม่หาด, บ้านปางป๋อ, บ้านป่าไผ่ และบ้านห้วยหก โดยผลการดำเนินงานสามารถลดปริมาณการเผาเศษวัสดุทางการเกษตรได้อย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ถึง 102.97 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า จากการนำใบไม้แห้งกว่า 84 ตันไปแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์ แทนการเผา ซึ่งไม่เพียงช่วยลดจุดความร้อนและมลภาวะทางอากาศ แต่ยังเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังได้ร่วมดำเนินและสนับสนุนงานด้านพัฒนาป่าชุมชนในพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ภายใต้การดำเนินงานของมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท(ซีพี) ซึ่งได้ขยายผลนำโครงการ “ป่าปลอดเผา” จ.เชียงใหม่ ไปดำเนินงานในพื้นที่ป่าชุมชน 3 ชุมชนนำร่อง ได้แก่ บ้านหลิม บ้านดง และบ้านโป่ง ทั้งนี้ ยังได้สนับสนุนกิจกรรมที่ส่งเสริมการตระหนักรู้และมีส่วนร่วมในการดูแลป่าชุมชน ได้แก่ การบวชป่า การอวยพรป่า การทำแนวกันไฟ รวมถึงการ ช่วยผลักดันการขึ้นทะเบียนป่าชุมชน ตามพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 อีกด้วย
เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังคงมุ่งมั่นอย่างต่อเนื่องสู่เป้าหมายหลักด้านความยั่งยืนที่ได้ประกาศไว้ โดยมีจุดเน้นสำคัญคือ การลดของเสียจากการฝังกลบให้เป็นศูนย์ (Zero Waste) และการมุ่งสู่องค์กรคาร์บอนสมดุล (Carbon Neutral) ภายในปี 2030 เพื่อก้าวสู่ Net Zero ในปี 2050 โดยยึดหลักการมีส่วนร่วมของภาคประชาชนและภาคีเครือข่ายในพื้นที่เป็นหัวใจสำคัญของการเปลี่ยนแปลง พร้อมยืนยันเจตนารมณ์ในการสนับสนุนการอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรป่าไม้อย่างสมดุลและยั่งยืน เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยสู่สังคมคาร์บอนต่ำและบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม.


