เครือเจริญโภคภัณฑ์ประกาศนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) อย่างเป็นทางการ จำนวน 28 ฉบับ พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้แนวคิด “ขับเคลื่อนไปด้วยกัน สู่อนาคตที่ยั่งยืน” ในงาน GCNT Expo 2025

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ณ ห้องออดิทอเรียม ชั้น 6 ทรู ดิจิทัล พาร์ค (ฝั่งอีสต์) เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้จัดงาน “ESG Policy in Action: ขับเคลื่อนไปด้วยกัน สู่อนาคตที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเวที GCNT Expo 2025 ภายใต้แนวคิด “Forward SDGs Faster Together” เพื่อแสดงเจตนารมณ์และประกาศนโยบายด้าน ESG (Environmental, Social, Governance) ที่ครอบคลุมทั้ง 3 มิติแห่งความยั่งยืน รวมทั้งสิ้น 28 ฉบับ โดยมีการเชิญชวนให้ทุกบริษัทในเครือร่วมกันผลักดันนโยบายเหล่านี้ให้เกิดผลอย่างเป็นระบบ โดยมี ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กรและการพัฒนากลยุทธ์ ร่วมประกาศเจตนารมณ์ของเครือฯ​ภายในงานอบอวลไปด้วยพลังของการมีส่วนร่วมจากผู้บริหารระดับสูงของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ทยอยขึ้นเวทีเพื่อประกาศนโยบายในแต่ละมิติของ ESG โดยเริ่มจากมิติด้าน “สิ่งแวดล้อม” (Environmental) นำเสนอโดย คุณสมเจตนา ภาสกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเปลี่ยนผ่านสู่อนาคตที่ยั่งยืนในยุคที่ทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และความจำเป็นเร่งด่วนในการลดการปล่อยคาร์บอน เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero

นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมที่ประกาศในครั้งนี้มีจำนวน 12 ฉบับ โดยมีเป้าหมายเพื่อยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้สอดคล้องกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมระดับโลก และตอบสนองต่อความคาดหวังของสังคมในวงกว้าง อาทิ นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิ่งแวดล้อม, นโยบายการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ, นโยบายเศรษฐกิจหมุนเวียน, นโยบายการจัดการของเสีย, นโยบายการลดการสูญเสียอาหารและขยะอาหาร, นโยบายบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน, นโยบายความรับผิดชอบต่อผลิตภัณฑ์, นโยบายการดูแลทรัพยากรน้ำ, นโยบายการจัดการคุณภาพอากาศ, นโยบายการปกป้องระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพ, นโยบายการต่อต้านการตัดไม้ทำลายป่า และนโยบายการจัดการสารเคมีและวัตถุอันตราย

ถัดจากมิติด้านสิ่งแวดล้อม การประกาศนโยบายยังได้เดินหน้าสู่ “หัวใจ” ของความยั่งยืน นั่นคือ “คน” โดยซีพีเชื่อมั่นว่า “สิทธิมนุษยชน” คือรากฐานของการพัฒนาที่ยั่งยืน ครอบคลุม และไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง โดยเฉพาะในห่วงโซ่คุณค่าที่เริ่มตั้งแต่ต้นน้ำอย่างฟาร์มและโรงงาน ไปจนถึงปลายน้ำอย่างผู้บริโภค โดย ดร.เนติธร ประดิษฐ์สาร ผู้ช่วยบริหารประธานคณะผู้บริหาร และรองกรรมการผู้จัดการอาวุโส เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้นำเสนอนโยบายด้าน “สังคม” (Social) ซึ่งมุ่งเน้นการเคารพศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัย เป็นธรรม และเปิดกว้างต่อความหลากหลาย โดยมีนโยบายสำคัญภายใต้หมวดสิทธิมนุษยชน ได้แก่ นโยบายและแนวปฏิบัติด้านสิทธิมนุษยชนและแรงงาน, นโยบายป้องกันการเลือกปฏิบัติและการล่วงละเมิด, นโยบายความหลากหลาย ความเสมอภาค และการอยู่ร่วมกัน และนโยบายการจ้างแรงงานข้ามชาติ ซึ่งทั้งหมดล้วนตอกย้ำถึงพันธกิจของเครือฯ ในการยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงาน และสร้างองค์กรที่เคารพความหลากหลายอย่างแท้จริง

นอกจากนี้ยังมีนโยบายด้านความปลอดภัย (Safety Policy) ที่นำเสนอโดย คุณวรวิทย์ วรุตบางกูร หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งระบุถึงความมุ่งมั่นในการสร้าง “วัฒนธรรมความปลอดภัย” ผ่านนโยบายด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงาน เพื่อป้องกันอุบัติเหตุ ลดความเสี่ยง และส่งเสริมสุขภาวะที่ดีของพนักงาน โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการลดอุบัติเหตุจากการทำงานให้เป็น “ศูนย์”

สำหรับนโยบายด้าน “ธรรมาภิบาล” (Governance) ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเสาหลักสำคัญขององค์กรที่โปร่งใสและยั่งยืน คุณรงค์รุจา สายเชื้อ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส สำนักบริหารความยั่งยืน ธรรมาภิบาล และสื่อสารองค์กร ได้กล่าวว่า ธรรมาภิบาลที่ดีไม่ใช่เพียงการปฏิบัติตามกฎระเบียบ แต่คือการสร้างระบบที่เปิดโอกาสให้ทุกคนในองค์กรมีส่วนร่วมในการดูแล ควบคุม และขับเคลื่อนให้องค์กรเติบโตอย่างมั่นคงและน่าเชื่อถือในระยะยาว

ภายใต้ Governance Policy เครือเจริญโภคภัณฑ์ได้จัดหมวดหมู่นโยบายออกเป็น 4 ด้านหลัก ได้แก่ ด้านจริยธรรม (นโยบายจรรยาบรรณทางธุรกิจ และสำหรับคู่ค้า), ด้านความยั่งยืน (นโยบายความยั่งยืน และการจัดหาอย่างยั่งยืน), ด้านการบริหารความเสี่ยงและการควบคุม (นโยบายต่อต้านทุจริต การป้องกันการฟอกเงิน การจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์ การแจ้งเบาะแส ฯลฯ) และด้านข้อมูลและความมั่นคงปลอดภัย (นโยบายสารสนเทศ และการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล)

นโยบายทั้ง 28 ฉบับในวันนี้จึงไม่ใช่เพียงเอกสารเชิงนโยบายที่วางอยู่บนชั้น แต่เป็นเสาหลักของการเปลี่ยนผ่านองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยกำหนดแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน ครอบคลุม และสามารถขับเคลื่อนได้จริงในทุกระดับของเครือฯ รวมถึงพันธมิตรและผู้เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่คุณค่า

ช่วงเวลาสุดท้ายของงานเต็มไปด้วยพลังบวกจากผู้เข้าร่วมทุกภาคส่วนที่พร้อมใจแลกเปลี่ยนมุมมอง เสนอแนะแนวทางการประยุกต์ใช้ และสะท้อนความตั้งใจที่จะมีส่วนร่วมในเส้นทางสู่อนาคตที่ดียิ่งขึ้น ทั้งในฐานะผู้บริหาร พนักงาน พันธมิตรธุรกิจ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ต่างพร้อมเป็นพลังร่วมขับเคลื่อนนโยบายให้เกิดผลลัพธ์ที่จับต้องได้อย่างแท้จริง

สามารถอ่านรายละเอียด นโยบายทั้ง 28 ฉบับ ได้ที่ https://www.cpgroupglobal.com/th/home