เมื่อ “โอกาส” ไม่ต้องเดินทางไกล… ซีพีอาสา จุดประกายคนรุ่นใหม่ให้เติบโตที่บ้านเกิด

ทุกปี มีเยาวชนจากชนบทไทยหลายคนต้องย้ายเข้ากรุงเพื่อหางานทำ เนื่องจากรายได้จากการเกษตรในท้องถิ่นไม่เพียงพอเลี้ยงครอบครัว ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติในช่วงปี 2566–2567 ระบุว่า กลุ่มวัยแรงงานอายุ 15–29 ปี เป็นกลุ่มที่มีการย้ายถิ่นมากที่สุด โดยส่วนใหญ่ย้ายเพราะเหตุผลด้านการงาน ซึ่งสะท้อนถึงความจำเป็นในการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ นอกพื้นที่บ้านเกิด แต่เส้นทางของ ช่อผกา ชูศรีวาสน์ หญิงสาวจากจังหวัดกาฬสินธุ์ อาสาสมัครพัฒนาชุมชน (ซีพีอาสา) กลับแตกต่างออกไป เธอเลือกกลับมาสร้างอนาคตในบ้านเกิด พร้อมสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนของเธอ

หลังเรียนจบ ม.6 ช่อผกาเริ่มทำงานในเมืองใหญ่ทันทีเพื่อช่วยแบ่งเบาภาระครอบครัว ทว่ารายได้ไม่เพียงพอให้สร้างความมั่นคงในชีวิต จนกระทั่งพี่ที่รู้จักจากมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ แนะนำให้เธอสมัครเป็น “อาสาสมัครพัฒนาชุมชน (ซีพีอาสา)” ดูแลโครงการซีพีความดี ชุมชนยั่งยืน จ.กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์และมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ

แม้ไม่มีพื้นฐานด้านเกษตรเลย แต่ช่อผกามองว่าเป็นโอกาสสำคัญ เธอเริ่มจากศูนย์ทั้งในเรื่องการเพาะปลูก การจัดการน้ำ และการเลือกพันธุ์พืชที่เหมาะสม เธอยอมรับว่า “ตอนแรกกลัวมาก แต่พอลงพื้นที่ เจอแม่ ๆ เกษตรกรที่ใจดี เราก็เลยได้เรียนรู้จากแม่ๆ ไปด้วย” การลงพื้นที่ติดตามงานอย่างต่อเนื่องทำให้เธอค่อย ๆ ได้เรียนรู้และซึมซับวิถีชาวเกษตร

โครงการ ซีพีความดี ชุมชนยั่งยืน จ.กาฬสินธุ์ ยึดแนวคิด “เกษตรกร 1 คน 1 ไร่” ร่วมกับมูลนิธิปิดทองหลังพระฯ สนับสนุนให้เกษตรกรปลูกพืชมูลค่าสูง พร้อมทั้งติดตามผลผลิตรายเดือน ถ่ายทอดองค์ความรู้ ให้คำแนะนำและร่วมแก้ไขปัญหา พร้อมสร้างช่องทางการตลาดที่มั่นคง ผ่าน ห้าง Lotus’s โรงพยาบาลกาฬสินธุ์ และตลาดชุมชน ส่งผลให้รายได้ของเกษตรกรเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 30–50% ภายในปีแรก

ซึ่งเป็นหนึ่งในความภูมิใจและแรงผลักดันในการทำงานของช่อผกาในฐานะซีพีอาสา ที่คอยให้คำปรึกษาและติดตามผลผลิตเกษตรกรในโครงการฯ นอกจากนี้เธอยังได้แรงบันดาลใจจาก แม่เรืองศิลป์ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการช้าที่สุด แต่กลับสร้างรายได้สูงที่สุดในกลุ่ม เพราะนำสิ่งที่เรียนรู้ไปต่อยอดอย่างสม่ำเสมอ ทำให้เธอมองเห็นว่าหากเรามีความตั้งใจและใส่ใจในสิ่งที่ทำ ไม่ว่าจะทำอะไรผลลัพธ์ย่อมออกมาดีกว่าเดิมแน่นอน

การได้ทำงานใกล้บ้านทำให้ช่อผการู้สึกอบอุ่นและมีกำลังใจ ได้อยู่ท่ามกลางครอบครัว เพื่อนบ้านที่คุ้นเคย และมีวิถีชีวิตคล้ายคลึงกัน พร้อมได้รับแรงสนับสนุนจากทีมงานและเกษตรกรในพื้นที่ ทำให้เธอมีแรงบันดาลใจตัดสินใจเรียนต่อในระดับ ปวส. สาขาการบัญชี วิทยาลัยอาชีวศึกษากาฬสินธุ์ เพื่อเสริมทักษะด้านการจัดการ โดยมีความฝันว่าอยากจะเป็น “สมาร์ทฟาร์มเมอร์” และอยากได้รับการบรรจุเป็นพนักงานประจำที่บริษัทซีพีแห่งนี้ด้วย

“ที่นี่คือที่แรกที่มอบโอกาสให้เราได้เติบโต และเราอยากส่งต่อโอกาสนี้ให้คนรุ่นใหม่ในบ้านเกิด” เธอกล่าวด้วยความภาคภูมิใจ

เรื่องราวของช่อผกาสะท้อนให้เห็นว่าความตั้งใจและความพยายามของคนรุ่นใหม่ เมื่อได้รับการสนับสนุนที่เหมาะสม ย่อมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทั้งต่อตัวเองและต่อชุมชน การที่ได้มาทำงานในฐานะ “ซีพีอาสา” ของช่อผกา จึงไม่เพียงเป็นการช่วยพัฒนาอาชีพให้กับเกษตรกรในชุมชน แต่ยังเป็นสะพานที่เชื่อมให้เธอได้ค้นพบศักยภาพของตนเองและเติบโตโดยไม่ต้องละทิ้งรากเหง้า เพราะเมื่อเราตระหนักรู้และมองเห็นคุณค่าของโอกาสที่เราได้รับ เราก็จะค้นพบว่า ความฝันก็ไม่ใช่เรื่องไกลเกินเอื้อมอีกต่อไป