Asia Era One พาชมรถไฟความเร็วสูงจำลอง ในงาน EEC Expo 2025

Asia Era One ร่วมเวที EEC Expo 2025 เปิดประสบการณ์ “รถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน” ผ่านการจำลองขบวนรถไฟเสมือนจริง ตอกย้ำบทบาทโครงสร้างพื้นฐานสำคัญ ที่จะเชื่อม 9 สถานีหลัก ดอนเมือง – บางซื่อ – มักกะสัน – สุวรรณภูมิ – ฉะเชิงเทรา – ศรีราชา – พัทยา – อมตะ – อู่ตะเภา รวมระยะทางกว่า 220 กิโลเมตร เพื่อยกระดับระบบรางของไทยสู่มาตรฐานสากล

25 -26 สิงหาคม 2568 – กรุงเทพฯ : Asia Era One ผู้ร่วมพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ร่วมเวทีระดับนานาชาติ EEC Expo 2025: Opportunity for Prosperity ซึ่ง สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) และ สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (TCEBหรือ สสปน.) ร่วมกันจัดขึ้น ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา เพื่อแสดงศักยภาพเชื่อมโยงนักลงทุนไทยและต่างชาติ ทั้งนี้โดยมี คุณเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงานที่จัดขึ้นภายใต้แนวคิด Opportiunity for Prosperity และ ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบาย EEC ได้ตอกย้ำถึงภารกิจของ สกพอ. ซึ่งจะต้องผลักดันให้พื้นที่ EEC ก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจแห่งอนาคตของภูมิภาค ในการนี้ Asia Era One หรือ บริษัท เอเชีย เอรา วัน ได้ร่วมเวทีที่สำคัญนี้ โดยจำลองรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสนามบิน เพื่อเปิดประสบการณ์การเดินทางแห่งอนาคต เชื่อม 3 สนามบิน ได้แก่ สนามบินดอนเมือง สนามบินสุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา โดย ผ่าน 9 สถานี ได้แก่ ดอนเมือง – บางซื่อ – มักกะสัน – สุวรรณภูมิ – ฉะเชิงเทรา – ศรีราชา – พัทยา – อมตะ – อู่ตะเภา ภายใต้ระยะทางกว่า 220 กิโลเมตร ซึ่งถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่จะยกระดับระบบรางของประเทศไทยให้ก้าวสู่ระดับสากล ในการนี้ คุณสุเทพ เตมานุวัตร์ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ได้รับมอบหมายเป็นผู้แทนองค์กรร่วมวงเสวนาในหัวข้อ “Mega Project, Mega Impact: เร่งเครื่องโครงสร้างพื้นฐานหลัก EEC ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย”


พิธีเปิดงาน Kick Off โดย คุณเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ซึ่งได้กล่าวเปิดงาน EEC Expo 2025 โดยย้ำว่า EEC เป็นยุทธศาสตร์สำคัญ ในการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น “ประตูเศรษฐกิจเชื่อมโลก” ช่วงเวลานี้ถือเป็น “จังหวะเหมาะสมที่สุด” ที่จะยกระดับการลงทุนและศักยภาพการแข่งขันของประเทศ โดยความสำเร็จขึ้นอยู่กับ การบูรณาการและความร่วมมือจากทุกภาคส่วน เพื่อให้ EEC เป็นต้นแบบของการพัฒนาเชิงพื้นที่ที่สร้างผลลัพธ์เป็นรูปธรรม ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุน และคุณภาพชีวิต


ในการนี้ ดร.จุฬา สุขมานพ เลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ได้กล่าวถึงความก้าวหน้า ตลอด 8 ปีที่ผ่านมา โดยชี้ว่า EEC มีเป้าหมาย 5 ด้านหลักได้แก่ 1.การสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจ 2.การยกระดับบริการภาครัฐ 3.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาo 4.การใช้ประโยชน์ที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ 5.การพัฒนาเมืองให้ทันสมัย โดยล่าสุด ขยายจาก 4 โครงสร้างพื้นฐานหลัก (รถไฟความเร็วสูง, สนามบิน, ท่าเรือ 2 แห่ง) ไปสู่ การจัดการน้ำและพลังงานสะอาด และใน 5 ปีข้างหน้า คาดว่าจะสร้างกิจกรรมทางเศรษฐกิจกว่า 1 แสนล้านบาทต่อปี และโครงการเมกะโปรเจกต์ 4 ด้านหลักจะเป็นฟันเฟืองเชื่อมโยงเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ

นอกจากนี้ ยังมีSession เสวนา: “Mega Project, Mega Impact: เร่งเครื่องโครงสร้างพื้นฐานหลัก EEC ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย” โดย คุณสุเทพ เตมานุวัตร์ ผู้อำนวยการฝ่ายรัฐกิจสัมพันธ์ บริษัท เอเชีย เอรา วัน จำกัด ผู้ร่วมพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน เป็นตัวแทนเอเชีย เอรา วัน ขึ้นเวทีร่วมเสวนาฯ ซึ่งมีผู้ร่วมเสวนาเป็นภาคเอกชนที่พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานหลักใน EEC ได้แก่ คุณรัฐพล ชื่นสมจิตต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จํากัด (มหาชน) ผู้ร่วมพัฒนาโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด คุณวีรวัฒน์ ปัณฑวังกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น จํากัด ผู้ร่วมพัฒนาโครงการพัฒนาสนามบินนานาชาติอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ดำเนินรายการ : ดร.ธาริศร์ อิสสระยั่งยืน รองเลขาธิการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก

ในการเสวนานี้ คุณสุเทพ ได้กล่าวว่า โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน ถือเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่มีความหมายต่อประเทศไทยใน 3 มิติสำคัญ ได้แก่ 1.สัญลักษณ์แห่งการพัฒนา – ที่ทำให้ประเทศไทยมีระบบขนส่งสมัยใหม่และทันสมัยทัดเทียมประเทศชั้นนำ 2.ความร่วมมือ PPP – การลงทุนระหว่างรัฐและเอกชนที่สร้างมูลค่ามหาศาลและช่วยให้โครงการเดินหน้าได้จริง 3.ตัวเร่งเศรษฐกิจ – ปัจจุบันมีผู้เดินทางไปภาคตะวันออกกว่า 4 แสนคนต่อวัน และคาดว่าในอีก 5 ปีข้างหน้าจะเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 15 ล้านคนต่อปี ซึ่งสะท้อนศักยภาพการเติบโตของภูมิภาค นอกจากนี้ ยังชี้ให้เห็นถึงโอกาสการสร้างงานกว่า 19,000 ตำแหน่ง และโอกาสในการพัฒนาเมืองใหม่ตลอดเส้นทาง เช่น ฉะเชิงเทราและศรีราชา ที่จะเติบโตควบคู่กับโครงการ เหมือนตัวอย่างจากต่างประเทศที่เมืองรองได้ประโยชน์จากรถไฟความเร็วสูง

ในโซนจัดแสดงนิทรรศการ Asia Era One ได้สร้างบรรยากาศเสมือนจริงด้วย รถไฟความเร็วสูงจำลอง ที่พาผู้เข้าชม “นั่งรถไฟ” เดินทางจากสนามบินดอนเมือง – สุวรรณภูมิ – อู่ตะเภา ผ่าน 9 สถานีหลัก ได้แก่ ดอนเมือง – บางซื่อ – มักกะสัน – สุวรรณภูมิ – ฉะเชิงเทรา – ศรีราชา – พัทยา – อมตะ – อู่ตะเภาตลอดเส้นทางกว่า 220 กิโลเมตร ประสบการณ์นี้สะท้อนให้เห็นว่า รถไฟความเร็วสูงไม่ได้เป็นเพียงโครงการคมนาคม แต่คือ โครงสร้างพื้นฐานแห่งอนาคต ที่จะเชื่อมโยงผู้คน เมือง และเศรษฐกิจไทยเข้าด้วยกัน

ขอเชิญเพื่อนพนักงานทุกคน มาสัมผัส “ประสบการณ์แห่งอนาคต” ไปด้วยกันที่บูธ Asia Era One ในงาน EEC Expo 2025 วันที่ 25–26 สิงหาคม 2568 ณ ไบเทค บางนา