ซีพี ยกทัพ 8 นวัตกรรมความยั่งยืน โชว์พลังสร้างอนาคตไทย บนเวที CP Innovation Exposition & Symposium 2025

20 กันยายน 2568 – ​ในยุคที่ความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาองค์กรและสังคม เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ตอกย้ำความเป็นผู้นำในงาน “CP Innovation Exposition & Symposium 2025” ที่จัดขึ้น ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมสร้างอนาคตเพื่อวันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า – Innovate the Future for a Better Tomorrow” โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนประเทศไทยสู่การเป็น Carbon Neutral ในปี 2030 และ Net Zero ในปี 2050 อย่างเป็นรูปธรรม

คุณจอมกิตติ ศิริกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร ผู้บริหารสูงสุดด้านความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้นำ 8 โครงการต้นแบบด้านความยั่งยืนถ่ายทอดองค์ความรู้ ซึ่งสะท้อนถึงการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้อย่างเป็นระบบ เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างครบวงจร ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ ครอบคลุมทั้งมิติทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โครงการเหล่านี้เป็นตัวอย่างที่ชัดเจนของความมุ่งมั่นเชิงกลยุทธ์ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่ต้องการขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้เกิดผลลัพธ์จริง สร้างคุณค่าร่วมอย่างยั่งยืน และวางรากฐานอนาคตที่มั่นคงสำหรับคนไทยและสังคมโลก

ปลุกพลังสร้างสรรค์ โชว์นวัตกรรมเพื่อสิ่งแวดล้อมและเศรษฐกิจชุมชน

โดยได้นำเสนอความสำเร็จของโครงการต่าง ๆ ที่สร้างผลลัพธ์เชิงบวกอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนปัญหาให้กลายเป็นโอกาส ได้แก่

ด้านสิ่งแวดล้อม “ฟื้นป่า ลดเผา เพิ่มมูลค่า”

โครงการคืนป่าแลกอาชีพทางเลือก (สบขุ่นโมเดล จ.น่าน)

สร้างความภาคภูมิใจแก่เกษตรกรที่สละพื้นที่ทำกินคืนสู่ธรรมชาติ ฟื้นฟูป่ากว่า 5,000 ไร่ใน 3 ปี พัฒนาเป็นป่าชุมชน ป่าใช้สอย และป่าเศรษฐกิจที่ชุมชนบริหารจัดการเอง พร้อมบูรณาการข้อมูล GIS เพื่อวางแผนการใช้ที่ดินและส่งเสริมอย่างเป็นระบบ

โครงการป่าปลอดเผา นำวิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์สูตรวิศวกรรมแม่โจ้ 1  ผลิตปุ๋ยจากเศษใบไม้แบบไม่ต้องพลิกกลับกอง ช่วยลดเชื้อเพลิงในป่าชุมชนและป้องกันการเกิดไฟป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และสร้างรายได้เสริมให้ชุมชนจากการจำหน่ายปุ๋ยอินทรีย์

โครงการฝายสร้างชีวิต มิตรแท้ต้นน้ำ ใช้เทคนิคการสร้างฝายแกนดินซีเมนต์ ขนาดเล็กโดยชุมชน คงทน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อชะลอน้ำ ฟื้นฟูแหล่งน้ำต้นทุน เสริมความมั่นคงด้านการเกษตร และช่วยรักษาป่าต้นน้ำเพื่อความมั่นคงทางอาหาร

ด้านสิ่งแวดล้อมทางทะเล “พลิกฟื้นวิกฤตด้วยซั้งบ้านปลา”

โครงการประเมินประสิทธิภาพการจัดสร้างแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำแบบชั่วคราว หรือ “ซั้งบ้านปลา (FADs)” นวัตกรรมฟื้นฟูทะเลไทยที่ช่วยเพิ่มรายได้ให้ชาวประมงพื้นบ้านกว่า 3 เท่า โดยเพียง 3–6 เดือนหลังการติดตั้ง พบว่าอัตราการจับสัตว์น้ำ (CPUE) เพิ่มขึ้นถึง 2.78 เท่า จาก 6.4 กิโลกรัมต่อชั่วโมง เป็น 17.8 กิโลกรัมต่อชั่วโมง ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อวันของชาวประมงเพิ่มขึ้นจาก 3,198 บาท เป็น 11,006 บาทต่อวัน สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของซั้งบ้านปลาในการดึงดูดและฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลอย่างยั่งยืน โครงการนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP Group) มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ และสมาคมประมงพื้นบ้านปะนาเระ จังหวัดปัตตานี

ด้านเศรษฐกิจและชุมชน “ยกระดับสินค้า สร้างรายได้ที่ยั่งยืน”

Fine Robusta โอกาสแห่งความหวังชุมชน ร่วมกับ ซีพีออลล์ และวิสาหกิจชุมชนน้ำพางโมเดล ยกระดับกาแฟโรบัสตา ด้วยเทคนิคการแปรรูป Semi-Carbonic Maceration ที่ใช้เซนเซอร์ควบคุมอุณหภูมิและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างแม่นยำ ทำให้เมล็ดกาแฟพัฒนาไปอีกขั้น ทั้งด้านคุณภาพ รสชาติ และกลิ่นหอมที่ซับซ้อนมากขึ้น จากเดิมที่มีรสเข้มและติดขม กลายเป็นกาแฟที่มีบอดี้กลมกล่อม มีเทสโน้ตซิตรัส และทรอปิคอล ชัดเจน จนได้รับการยอมรับในตลาดระดับพรีเมี่ยม ราคาขายเพิ่มขึ้นกว่า 4 เท่า พร้อมต่อยอดสร้างโอกาสใหม่ให้เกษตรกรในชุมชน

โครงการ “เงาะแห่งขุนเขา” วิสาหกิจชุมชน ร่วมกับ ซีพี แอ็กซ์ตร้า และหน่วยงานภาครัฐในพื้นที่ พัฒนาคุณภาพผลผลิตและเชื่อมโยงตลาด Modern Trade ยกระดับกระบวนการผลิตให้ได้มาตรฐาน ทั้งด้านรสชาติ เนื้อสัมผัส และความสดใหม่ ภายใต้ระบบการผลิตและการตรวจสอบมาตรฐาน เช่น GAP และ Pre-GMP ช่วยสร้างรายได้มั่นคงแก่เกษตรกร และต่อยอดสู่ธุรกิจชุมชนที่ยั่งยืนในระยะยาว

ลงทุนเพื่อ “คน” สร้างคนรุ่นใหม่ สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน

โครงการน่านปันปลูก ปันรัก ร่วมกับ เจียไต๋ ใช้รูปแบบ One Day Learning Program เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนเห็นคุณค่าและความสำคัญของการเกษตร ผ่านการเรียนรู้นอกห้องเรียนที่เปิดโอกาสให้นักเรียนได้ลงมือทำจริง ตั้งแต่เพาะกล้า ย้ายปลูก ดูแล จนถึงเก็บเกี่ยว ผลผลิตถูกนำไปใช้ในโครงการอาหารกลางวันและจำหน่ายสร้างกองทุนหมุนเวียน พร้อมทั้งต่อยอดองค์ความรู้สู่ชุมชนโดยรอบ

โครงการ Young Innovator for Nan Development (YIN-D Project) ใช้หลักสูตรเชิงนวัตกรรม 3 ด้าน ได้แก่ Innovation Concept & SCAMPER, Design Thinking และ YIN-D Model Canvas ให้เยาวชนฝึกคิดเชิงสร้างสรรค์และพัฒนาต้นแบบจริง จนเกิดผลงานที่ใช้งานได้กว่า 37 นวัตกรรม และสร้างเครือข่ายเยาวชนที่พร้อมพัฒนาชุมชนอย่างต่อเนื่อง

ทั้งนี้ ความสำเร็จของการขับเคลื่อนโครงการต่าง ๆ เกิดจากความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ ภาคประชาสังคม และชุมชน โดยได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มธุรกิจในเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้แก่ บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด (CPG) มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) (CP AXTRA)  บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) (CPALL) และ บริษัทเจียไต๋ จำกัด (CHIA TAI)

การเข้าร่วมงานครั้งนี้ตอกย้ำบทบาทของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในฐานะผู้นำด้านความยั่งยืน ที่นำนวัตกรรมมาเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ควบคู่กับการพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างสมดุล ซีพีไม่เพียงมุ่งสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ยังสร้างคุณค่าร่วมให้กับทุกภาคส่วน เพื่อบรรลุเป้าหมายการเป็นองค์กร Carbon Neutral ภายในปี 2030 และ Net Zero ภายในปี 2050 อันเป็นวิสัยทัศน์ที่จะวางรากฐานให้ประเทศไทยและสังคมโลกก้าวสู่อนาคตที่มั่นคงและยั่งยืนอย่างแท้จริง