จากรากสู่ยอด ซีพี ผนึกพลังทุกภาคส่วน เดินหน้าฟื้นฟูป่า 4 ต้นน้ำ ‘ปิง วัง ยม น่าน’ มุ่งสู่ CSV จุดประกายพลังคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างความยั่งยืน

เครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ในการดูแลสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง ภายใต้โครงการ “ซีพีความดี ป่าต้นน้ำยั่งยืน ปิง วัง ยม น่าน” โดยร่วมมือกับภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน และเยาวชนในพื้นที่ ร่วมปลูกต้นไม้ฟื้นฟูระบบนิเวศต้นน้ำในหลายจังหวัดภาคเหนือ อาทิ พะเยา เชียงราย และน่าน เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียว สร้างความชุ่มชื้นให้ผืนป่า และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของพื้นที่ต้นน้ำสำคัญของประเทศ กิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคีเครือข่าย อาทิ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน โรงเรียน หน่วยงานราชการ กลุ่มเกษตรกร เยาวชนในพื้นที่ และกลุ่มบริษัทในเครือฯ ซีพี แอ็กซ์ตร้า (แม็คโคร–โลตัส) รวมผู้เข้าร่วมกว่า 400 คน

นายอรรถวิทย์ ยุทธยศ ผู้จัดการทั่วไปด้านความยั่งยืนภาครัฐและกิจการสัมพันธ์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ เผยว่า โครงการ “ซีพีความดี ป่าต้นน้ำยั่งยืน ปิง วัง ยม น่าน” เป็นภารกิจสำคัญของเครือฯ ในการดำเนินธุรกิจควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อฟื้นฟูผืนป่าต้นน้ำ สร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืน และส่งต่อความอุดมสมบูรณ์ให้กับชุมชนรุ่นต่อไปเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการเพิ่มพื้นที่ป่าและสร้างจิตสำนึกให้ชุมชนร่วมแก้ปัญหาหมอกควันและ PM2.5 พร้อมส่งเสริมเกษตรกรรมแบบวนเกษตร ลดการบุกรุกป่า และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร ช่วยรักษาสมดุลธรรมชาติและสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

โดยผนึกกำลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนครอบคลุมทั้งภาครัฐ เอกชน ประชาสังคม ชุมชน และสถาบันการศึกษา ซึ่งถือเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญให้การทำงานด้านสิ่งแวดล้อมเกิดขึ้นจริงอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกัน เครือซีพียังคงเดินหน้าตามนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมอย่างมุ่งมั่น ด้วยเป้าหมายการเป็นองค์กร Carbon Neutral ภายในปี 2030 และก้าวสู่ Net Zero ภายในปี 2050 เพื่อร่วมกันสร้างอนาคตที่สมดุลและยั่งยืนของประเทศชาติต่อไป

ในพื้นที่ จังหวัดพะเยา เครือเจริญโภคภัณฑ์ร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลออย และชุมชนบ้านดอนไชยป่าแขม ปลูกต้นไม้เพื่อฟื้นฟูพื้นที่ป่าชุมชนฝายหลวง ตำบลออย อำเภอปง โดยปลูกไม้ยืนต้นและไม้ท้องถิ่นที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ เช่น ยางนา พะยุง มะค่าโมง อินทนิล ตะเคียน เหลืองเชียงราย มะไฟป่า เพกา สะตอ และไผ่หลากชนิด เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพและสร้างแนวกันชนธรรมชาติให้กับพื้นที่ต้นน้ำ นอกจากนี้เครือซีพียังได้สนับสนุนโครงการปุ๋ยอินทรีย์ชีวภาพ บ้านดอนไชยป่าแขม จ.พะเยา ที่สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 1.703 tCO2eq โดยร่วมพัฒนาทักษะองค์ความรู้ของขุมชนด้านการทำปุ๋ย มาพัฒนาต่อยอดด้วยการใช้วัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรและมูลสัตว์กลับมาหมุนเวียนใช้ซ้ำอีกครั้ง ผลักดันให้เป็นปุ๋ยชุมชนเพื่อลดต้นทุนทางการเกษตร และสนับสนุนการนำทรัพยากรธรรมชาติในชุมชนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด

ส่วนในพื้นที่ จังหวัดเชียงราย ร่วมกับ สถานีพัฒนาการเกษตรที่สูง ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง บ้านห้วยหยวกป่าโซ, สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 15 (เชียงราย), มณฑลทหารบกที่ 37 และภาคประชาชนในพื้นที่ อำเภอแม่ฟ้าหลวง ร่วมปลูกต้นไม้ในพื้นที่ป่าชุมชนบ้านห้วยหยวกป่าโซ ประกอบด้วยพันธุ์ไม้พื้นถิ่น เช่น นางพญาเสือโคร่ง และ เสี้ยวดอกขาว เพื่อเพิ่มความเขียวชอุ่มให้พื้นที่ต้นน้ำและเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์ป่าธรรมชาติในอนาคต นอกจากนี้ในพื้นที่ จ.เชียงราย เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังได้ส่งเสริมการผลิตกาแฟคุณภาพที่มีการเจริญเติบโตภายใต้ระบบนิเวศป่าใหญ่ เพื่อช่วยรักษาความสมดุลทางธรรมชาติ และสร้างรายได้ ให้คนอยู่คู่กับป่าได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ ในจังหวัดน่าน ภายใต้โครงการ “สบขุ่นโมเดล” ชุมชนบ้านสบขุ่นร่วมกับโรงเรียนบ้านสบขุ่นและผู้ปกครอง เพื่อเป็นแปลงเรียนรู้ของนักเรียน ต่อยอดสู่หลักสูตร “บาริสต้าน้อย”เสริมทักษะอาชีพการผลิตและแปรรูปกาแฟครบวงจร โดยที่ผ่านมาเครือเจริญโภคภัณฑ์ได้ส่งเสริม “โมเดลกาแฟสร้างป่า” สามารถสร้างพื้นที่สีเขียวกว่า 5,550ไร่ สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 1.6 ล้านบาทต่อปี พร้อมพัฒนา กาแฟสบขุ่น สู่ กาแฟคาร์บอนต่ำ (Low Carbon Coffee) วางจำหน่ายใน True Coffee ทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังดำเนินโครงการ “ดอยลดเผา” ลดการเผาในพื้นที่เกษตร ผ่านการทำปุ๋ยหมักสูตรแม่โจ้ 1 จากวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร สร้างรายได้เสริมให้เกษตรกร มุ่งสู่ชุมชนที่พึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน