
เนื่องในโอกาสรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง กับพระราชดำรัสที่ทรงพระราชทานไว้ว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า”
พระราชดำรัสนี้สะท้อนแนวคิดของการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ การดูแลป่าไม้และต้นน้ำ รวมถึงการปลูกจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ โครงการ “ซีพีความดี สิ่งแวดล้อมยั่งยืน” จ.น่าน โดยมุ่งสร้าง พื้นที่เรียนรู้ให้เยาวชนและชุมชนร่วมดูแลทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
โดยจังหวัดน่านเป็นพื้นที่อุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรธรรมชาติ ป่าไม้ และแหล่งน้ำสำคัญของประเทศ แต่เผชิญปัญหาขยะชุมชนจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป การแก้ไขปัญหาจึงต้องเริ่มจาก ความเข้าใจและความร่วมมือของคนในพื้นที่ โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่
โดยเครือซีพี ได้ร่วมมือกับ มูลนิธิวัฒนเสรี โรงเรียน และผู้นำชุมชน ถ่ายทอดองค์ความรู้เรื่องการจัดการขยะ ผ่านกิจกรรม “Big Cleaning จิตอาสาพัฒนาชุมชน” ปลูกจิตสำนึกเยาวชนใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อให้เยาวชนท้องถิ่น ได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักการ 3Rs คือ ใช้น้อย ใช้ซ้ำ นำกลับมาใช้ใหม่ พร้อมสอนการคัดแยกขยะอย่างถูกวิธีและการนำขยะกลับมาใช้ให้เกิดมูลค่าทางสังคม
ทั้งนี้ เครือซีพีได้ร่วมกับชุมชน จัดตั้ง “ธนาคารขยะชุมชนบ้านสบขุ่น” ขึ้น ณ หมู่บ้านสบขุ่น ที่ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าไม้ในอำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน ซึ่งการจัดการขยะยังไม่เป็นระบบมากนัก ชุมชนจึงร่วมมือกันคิดและลงมือแก้ไขปัญหาด้วยตนเอง ธนาคารขยะแห่งนี้ไม่เพียงเป็นจุดรวบรวมขยะรีไซเคิลเท่านั้น แต่ยังเป็นกลไกให้เยาวชนและประชาชนได้ ฝึกคิด ฝึกบริหาร และร่วมรับผิดชอบต่อทรัพยากร ขยะที่เคยถูกมองว่าไร้ค่า ให้ถูกเปลี่ยนเป็นรายได้ เพื่อนำไปพัฒนากิจกรรมชุมชน เช่น ปรับปรุงพื้นที่สาธารณะ หรือสนับสนุนกิจกรรมสำหรับเยาวชน
“โครงการนี้ช่วยให้ชุมชนเห็นความสำคัญของการจัดการขยะอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่แค่เรื่องความสะอาด แต่เป็นเรื่องวินัยและความรับผิดชอบต่อส่วนรวม เด็ก ๆ เรียนรู้คัดแยกขยะในบ้าน รู้คุณค่าของทรัพยากร และเห็นว่าตนเองมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชน ขยะรีไซเคิลที่สร้างประโยชน์ ทำให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของร่วมกัน ทุกคนช่วยกันดูแลพื้นที่ให้สะอาดและน่าอยู่ นี่คือความยั่งยืนที่เกิดจากการลงมือทำจริงของชุมชนเอง” นายปิติพงษ์ ธรรมลังกา ผู้ใหญ่บ้านสบขุ่น
การเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในห้องเรียน การออกมาเรียนรู้ในชุมชนทำให้เด็กและเยาวชนได้ลงมือทำจริงและเห็นผลลัพธ์ได้ทันที ทั้งพื้นที่ในชุมชนสะอาดขึ้น ขยะได้รับการจัดการอย่างถูกวิธี และตระหนักว่าตนเองคือส่วนหนึ่งของการเปลี่ยนแปลง
โครงการนี้ชี้ให้เห็นว่า การอนุรักษ์เริ่มจากเรื่องใกล้ตัว และการปลูกจิตสำนึกต้องเริ่มตั้งแต่วัยเยาว์ เครือเจริญโภคภัณฑ์ยังร่วมมือกับเครือข่ายในจังหวัดน่าน ขยายองค์ความรู้ด้านสิ่งแวดล้อมสู่โรงเรียน ชุมชน และพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อให้การจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ไม่ใช่เพียงกิจกรรมครั้งเดียว แต่เป็นวัฒนธรรมของชุมชนที่เติบโตไปพร้อมกับคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง.


