เครือซีพีขนทัพผู้บริหารระดับสูงกลุ่มธุรกิจในเครือ เข้าอบรม “Corporate Governance In Practice” โดยกูรูผู้เชี่ยวชาญด้านธรรมาภิบาลในประเทศไทย ตอกย้ำบทบาท “ผู้นำ” เป็นแรงผลักดันสำคัญในการยกระดับการกำกับกิจการที่ดีขององค์กรสู่มาตรฐานสากล

23 กันยายน 2563 – เครือเจริญโภคภัณฑ์ จัดอบรมการกำกับดูแลกิจการที่ดีหลักสูตร “Corporate Governance In Practice” ประจำปี 2563 ให้แก่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในเครือฯ ที่ไม่ได้จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งได้รับเกียรติจาก ศ.ดร.วรภัทร โตธนะเกษม กรรมการผู้จัดการ มูลนิธิสถาบันวิจัยและพัฒนาองค์กรภาครัฐ เป็นวิทยากรในการอบรม เพื่อสร้างการรับรู้ถึงความจำเป็นของหลักธรรมาภิบาล และสร้างความตระหนักรู้บทบาทของผู้บริหารในฐานะตัวแทนองค์กรในการนำหลักธรรมาภิบาลไปประยุกต์ใช้ให้เกิดเป็นรูปธรรม

ทั้งนี้ มีผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในเครือฯ ให้ความสนใจเข้าร่วมอบรม นำโดย คุณนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหาร ด้านความยั่งยืนองค์กร คุณวิเชาวน์ รักพงษ์ไพโรจน์ กรรมการบริหาร คุณอติรุฒม์ โตทวีแสนสุข กรรมการบริหาร คุณกนกนารถ นำพาเจริญ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจสัตว์เลี้ยง คุณพัชรี คงตระกูลเทียน หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ พร้อมด้วยผู้บริหารระดับสูงของบริษัทในเครือฯ กว่า 40 ท่านร่วมแลกเปลี่ยนความรู้อย่างพร้อมเพรียง ณ โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว ฟอร์จูน กรุงเทพ

ในการนี้ ศ.ดร.วรภัทร โตธนะเกษม ในฐานะผู้เชี่ยวชาญและเป็นผู้ผลักดันหลักธรรมาภิบาลในองค์กร ได้นิยามและให้ความรู้ “ธรรมาภิบาลฉบับจับต้องได้” โดยกล่าวถึง รากเหง้าของหลักธรรมาภิบาล การส่งเสริมและพัฒนากลไกหลัก ธรรมาภิบาลในประเทศไทย พร้อมทั้งแนะแนวทางการนำหลักธรรมาภิบาลไปประยุกต์ใช้ในองค์กรอย่างเป็นรูปธรรม ด้วยการยกกรณีศึกษาจากองค์กรต่างๆ รวมไปถึงการสร้าง Tone at the Top ซึ่งเน้นความสำคัญของบทบาทผู้นำในการขับเคลื่อนนโยบายการกำกับดูแลกิจการ ทั้งนี้ การนำหลักธรรมาภิบาลไปปรับใช้ให้เกิดเป็นรูปธรรมหรือจับต้องได้ จะต้องเกิดจากการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน นับตั้งแต่บทบาทของผู้บริหาร คณะกรรมการบริหาร ผู้ถือหุ้น พนักงานและผู้มีส่วนได้เสีย พร้อมทั้งเน้นย้ำว่า “ผู้นำ” มีบทบาทสำคัญในการผลักดันแนวทางตามหลักธรรมาภิบาล โดยต้องดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ มีจริยธรรมและโปร่งใส ซึ่งผู้นำจะเป็นแบบอย่างสำคัญให้พนักงานในองค์กรปฏิบัติตามมาตรฐานการกำกับกิจการที่ดีอย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันยังเป็นการสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้แก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย แนวทางดังกล่าวจะสามารถส่งเสริมและยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจให้เทียบเท่ามาตรฐานระดับสากล

“การนำหลักธรรมาภิบาลไปปรับใช้ สิ่งสำคัญคือ เราต้องไม่ปล่อยให้ธรรมาภิบาลเป็นเพียงนามธรรมที่สวยหรู แต่ต้องเป็นธรรมาภิบาลที่จับต้องได้ เป็นรูปธรรมและต้องสามารถวัดผลได้ ซึ่งจะทำให้เกิดการพัฒนาแนวทางการกำกับกิจการที่ดีในกลุ่มธุรกิจของเครือเจริญโภคภัณฑ์ และสามารถดำเนินกิจการให้เติบโตอย่างยั่งยืน” ศ.ดร.วรภัทร กล่าว

สำหรับหลักสูตร “Corporate Governance In Practice” เป็นส่วนหนึ่งของ 5 หลักสูตรการกำกับกิจการที่ดี ประจำปี 2563 ที่เครือฯ จัดอบรมาอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย 1. Corporate Governance in Practice 2. Preventing Corruption & Fraud 3. Fair Trade Competition 4. Human Rights & Labor Practice และ 5. Strategic Cyber Security Management ทั้งนี้ เพื่อตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจในการขับเคลื่อนการบริหารงานโดยหลักธรรมาภิบาลที่มีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานของบริษัทชั้นนำระดับโลก ไปพร้อมกับการยึดมั่นค่านิยม “คุณธรรมและความซื่อสัตย์” เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่จะสร้างความเชื่อมั่นและความสัมพันธ์อันดีต่อผู้มีส่วนได้เสียในทุกมิติ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมความเจริญเติบโตในการดำเนินธุรกิจของเครือฯ อย่างยั่งยืน