CPF มุ่งมั่นสร้างห่วงโซ่ผลิตอาหารที่เคารพสิทธิมนุษยชน ส่งเสริมการปฏิบัติอย่างเท่าเทียม ปราศจากการค้ามนุษย์ และการใช้แรงงานเด็ก

CPF มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจบนพื้นฐานการเคารพสิทธิมนุษยชนและแรงงานตลอดห่วงโซ่อุปทาน สนับสนุนความหลากหลายและการยอมรับในความแตกต่าง ปฏิบัติต่อบุคคลและกลุ่มบุคคลอย่างเท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติอย่างเด็ดขาด ส่งเสริมการลดความเหลื่อมล้ำ พร้อมจับมือกับคู่ค้าและเกษตรกรพัฒนาห่วงโซ่ผลิตอาหารที่ปราศจากการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานเด็ก
คุณพิมลรัตน์ รีพัฒนาวิจิตรกุล ประธานผู้บริหารทรัพยากรบุคคล CP-CPF ในฐานะประธานความมุ่งมั่นด้านสิทธิมนุษยชนและการเรียนรู้ตลอดชีวิต กล่าวว่า การเคารพสิทธิมนุษยชนเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินธุรกิจที่มีธรรมาภิบาล ปฏิบัติต่อบุคคลและกลุ่มบุคคลอย่างเท่าเทียม ปราศจากการล่วงละเมิดสิทธิมนุษยชนทั้งภายในและภายนอกองค์กร ซึ่งรวมถึงพนักงาน คู่ค้า ชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม บริษัทฯ ตระหนักดีว่าความแตกต่างและความหลากหลายของพนักงาน มีความสำคัญและเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จขององค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนในสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างความมั่นคงด้านอาหารของประเทศและทั่วโลก ซึ่งนับเป็น 1 ใน 9 ความมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ความยั่งยืน CPF 2030 Sustainability in Action การบริหารจัดการดูแลทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม มีแนวปฏิบัติด้านแรงงานอย่างชัดเจนตามมาตรฐานแรงงานไทย (มรท.8001-2563) รวมถึงมาตรฐานสากลและข้อกำหนดของคู่ค้า มุ่งเน้นสร้างวัฒนธรรมการยอมรับในความแตกต่างและความหลากหลายภายในองค์กร ปราศจากการเลือกปฏิบัติอย่างเด็ดขาด (Zero Tolerance Approach) ไม่ใช้แรงงานผิดกฎหมาย ต่อต้านและป้องกันการล่วงละเมิดในทุกรูปแบบ
“CPF มุ่งเน้นการดำเนินงานด้านสิทธิมนุษยชนตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน ให้ความสำคัญกับความเสมอภาคทางเพศและการลดความเหลื่อมล้ำ คุ้มครองกลุ่มเปราะบางทั้งกลุ่มแรงงานข้ามชาติและแรงงานคนพิการ บูรณาการทำงานร่วมกับเครือข่ายพันธมิตรเพื่อป้องกันการค้ามนุษย์และการใช้แรงงานเด็กอย่างจริงจัง ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งสหประชาชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs)” คุณพิมลรัตน์ กล่าว
CPF ประกาศความมุ่งมั่นเรื่องการเคารพสิทธิมนุษยชนและการปฏิบัติด้านแรงงานที่ดีผ่านนโยบายด้านสิทธิมนุษยชน นโยบายด้านการจ้างงานและการบริหารแรงงาน โดยจ้างแรงงานอย่างถูกต้องตามกฎหมายในทุกมิติ รวมถึงการจ้างแรงงานต่างด้าวอย่างมีจริยธรรม ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยอายุขั้นต่ำในการจ้างงาน ไม่กระทำหรือสนับสนุนการใช้แรงงานบังคับในทุกรูปแบบ เคารพความแตกต่างและปฏิบัติต่อพนักงานอย่างเท่าเทียม
CPF ได้ร่วมมือกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (มูลนิธิ LPN) ตั้งแต่ปี 2560 จัดอบรมให้พนักงานมีความรู้ด้านสิทธิมนุษยชน ซึ่งมีส่วนพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานทุกคน โดยไม่เลือกปฏิบัติ พร้อมทั้งดำเนินช่องทางการรับฟังเสียงพนักงานผ่านองค์กรกลาง “ศูนย์ Labour Voices Hotline by LPN” เพื่อให้พนักงานทุกคนสะดวกใจในการร้องเรียนปัญหาและข้อเสนอแนะ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถปรับปรุงมาตรการต่างๆ ให้สอดคล้องกับสิทธิมนุษยชนได้ทันสถานการณ์ และในปีนี้ บริษัทฯ ยังเดินทางไปเยี่ยมแรงงานข้ามชาติที่เคยมาทำงานกับ CPF ถึงภูมิลำเนาในกัมพูชา และส่งเสริมตัวแทนจัดหาแรงงานในประเทศต้นทางดำเนินการจัดหาแรงงานด้วยความรับผิดชอบและโปร่งใส ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ CPF ในการป้องกันการใช้แรงงานผิดกฎหมายทุกรูปแบบตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน
แนวทางหนึ่งที่ CPF พยายามลดความเหลื่อมล้ำ คือสนับสนุนให้พนักงานทุกภาคส่วนเข้าร่วมเป็นสมาชิกคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบการ ซึ่งเป็นกลุ่มตัวแทนของพนักงานจากทุกระดับและทุกสายงาน เพื่อเปิดโอกาสให้เสนอแนะ ปรับปรุงด้านสวัสดิการ สภาพแวดล้อมการทำงาน และการบริหารจัดการด้านแรงงานที่ไม่เหมาะสม โดยกำหนดให้แต่ละสถานประกอบการของบริษัทฯ มีจำนวนกรรมการในคณะกรรมการสวัสดิการตามสัดส่วนของพนักงานในสถานประกอบการแต่ละแห่ง ซึ่งสูงกว่าขั้นต่ำ 5 คนตามที่กฎหมายกำหนด โดยสูงสุดไม่เกิน 17 คน และกำหนดให้ตัวแทนลูกจ้างในคณะกรรมการฯ มีความหลากหลาย ครอบคลุมพนักงานทุกกลุ่ม ทั้งมิติเรื่องเพศ สัญชาติ ศาสนา และความพิการ
ในกรณีที่คณะกรรมการฯ ที่ได้รับการเลือกตั้ง ไม่ความครอบคลุมกลุ่มเปราะบางดังกล่าว บริษัทฯ ก็จะจัดให้มีคณะอนุกรรมการสวัสดิการเพื่อให้ครอบคลุมความหลากหลายของพนักงาน ซึ่งเป็นแนวทางส่งเสริมให้พนักงานทุกคน ทุกระดับ ทุกกลุ่ม ได้มีส่วนร่วมในการแสดงมุมมอง ข้อเสนอแนะ และข้อร้องเรียนต่างๆ นำไปสู่การพัฒนาและปรับปรุงด้านสวัสดิการให้พนักงานทุกคนได้อย่างเสมอภาค
บริษัทฯ ยังจัดอบรมให้ความรู้และร่วมพัฒนาคู่ค้าธุรกิจ และเกษตรกร การจัดจ้างแรงงานอย่างถูกต้อง ไม่ใช้แรงงานผิดกฎหมายทุกรูปแบบ รวมทั้งการใช้แรงงานเด็ก นอกจากนี้ ยังบูรณาการความร่วมกับองค์กรทุกภาคส่วน เพื่อป้องกันปัญหาการค้ามนุษย์และลดความเสี่ยงการใช้แรงงานเด็กในห่วงโซ่ผลิตอาหาร ผ่านความร่วมมือจัดตั้งและดำเนินงาน ศูนย์สวัสดิภาพและธรรมาภิบาลแรงงานประมงสงขลา (Songkhla Fishermen Life Enhancement Center หรือ FLEC) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวแรงงานข้ามชาติในอุตสาหกรรมประมง ที่อยู่ใน จ.สงขลา พร้อมทั้งสนับสนุนให้ลูกหลานแรงงานข้ามชาติได้เข้าถึงโอกาสทางการศึกษา ซึ่งตั้งแต่เริ่มโครงการในปี 2559-2564 ศูนย์ FLEC ช่วยบุตรหลานแรงงานข้ามชาติในภาคประมง จ.สงขลา กว่า 200 คน ได้เข้าถึงระบบการศึกษาและการพัฒนาทักษะความรู้เหมาะสมกับช่วงวัย
Cr.PR CPF