การประเมินห้างค้าปลีกและผู้ผลิตอาหารต่อกระแสโปรตีนทางเลือก

FAIRR-เครือข่ายนักลงทุน 73 รายที่มีสินทรัพย์รวมถึง 5.3 ล้านล้านดอลล่าร์ ได้ออกเอกสาร เรื่อง Appetite for disruption เพื่อประเมินห้างค้าปลีกและผู้ผลิตอาหารรายใหญ่รวม 25 รายต่อกระแสโปรตีนทางเลือก
(ดูรายละเอียดที่ www.fairr.org)

FAIRR ได้กล่าวถึง 4 ปัจจัยที่ขับเคลื่อนสู่โปรตีนทางเลือก ได้แก่ นวัตกรรม โอกาสทางธุรกิจ ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม และการส่งเสริมและกฎระเบียบต่างๆ

FAIRR ยังมองว่าโปรตีนทางเลือกเป็น disruptive force ต่ออุตสาหกรรมอาหาร ทั้งนี้ J.P.Morgan ประเมินว่าตลาดเนื้อจาก plant-based จะมีขนาด 100,000 ล้านดอลล่าร์ใน 15 ปีข้างหน้า (2035) ขณะที่ Barclays มองว่าตลาดเนื้อทางเลือกจะมีขนาด 140,000 ล้านดอลล่าร์ใน 10 ปีข้างหน้า (2030) และ UBS คาดว่า ตลาดอาหารจาก plant-based จะมีขนาด 85,000 ล้านดอลล่าร์ ภายในปี 2030

การประเมินจะพิจารณาจาก 6 ด้าน เช่น Materiality (การเข้าสู่ธุรกิจโปรตีนทางเลือกเป็นสิ่งจำเป็น), ยุทธศาสตร์ธุรกิจโปรตีนทางเลือก, การขยายรายการสินค้าโปรตีนทางเลือก, การรายงานความก้าวหน้าธุรกิจโปรตีนทางเลือก, และการส่งเสริมให้ผู้บริโภคทานโปรตีนทางเลือก

ผลการประเมิน พบว่า
• มี 5 รายที่อยู่ในกลุ่ม Proactive ได้แก่ Unilever, Tesco, Nestle, M&S และ ConAgra
• มี 16 รายที่อยู่ในกลุ่ม Active เช่น General Mills, Kroger, Kraft Heinz, Casino, Carrefour และ Walmart
• มี 4 รายที่อยู่ในกลุ่ม Reactive ได้แก่ Hershey, Whole Foods, Saputo และ Costco

—————————