CONNEXT ED “ซีพี ออลล์” วางเป้า 5 ปี ร่วมพัฒนา 638 โรงเรียนอย่างยั่งยืน

จุดเริ่มต้นของอนาคตที่ดีมาจากการศึกษาที่ดี ความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชนในการก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) ที่เกิดจากความมุ่งมั่นเพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาไทยสู่มาตรฐานสากล และสานอนาคตทางการศึกษาสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน จึงถือเป็นกลไกที่สำคัญมากอย่างหนึ่งในการขับเคลื่อนการศึกษาไทยให้ดียิ่งขึ้น

คุณธานินทร์ บูรณมานิต ประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่เปิดเผยว่า ซีพี ออลล์ เป็นหนึ่งในพันธมิตรก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี(CONNEXT ED)ร่วมขับเคลื่อนแผนงาน 5 เฟส หรือประมาณ 5 ปีการศึกษา มีเป้าหมายในการดูแลและยกระดับโรงเรียน 5,567 แห่งทั่วประเทศ จากการดำเนินงานล่าสุด 3 เฟสแรก ซีพี ออลล์ มีโรงเรียนภายใต้ความดูแลกว่า 458 แห่ง อนุมัติงบพัฒนาไปแล้ว 379 แห่งทั่วประเทศ ร่วมสร้างสรรค์และแบ่งปันโอกาสให้กับเยาวชนไทย 83,436 คน ผ่านการดำเนินโครงการด้านต่างๆกว่า 500 โครงการ พร้อมทั้งได้คัดเลือกบุคลากรรุ่นใหม่ที่มีจิตสาธารณะจากหน่วยงานต่างๆในบริษัทกว่า 200 คน มาพัฒนาทักษะการเป็นผู้นำผ่านการลงมือปฏิบัติจริงในโครงการ Leadership Program for Education Sustainable เพื่อเป็น School Partner ดูแลโครงการเพื่อการศึกษาในแต่ละโรงเรียนลงพื้นที่คลุกคลีกับโรงเรียนต่างๆโดยตรง

“หลายๆโรงเรียนมีแนวคิดการทำโครงการที่น่าสนใจเพื่อยกระดับการศึกษาในพื้นที่อยู่แล้ว แต่บางครั้งยังขาดปัจจัยบางอย่างเช่น งบประมาณ เครื่องไม้เครื่องมือไปจนถึงองค์ความรู้ในการดำเนินการอย่างยั่งยืน ทำให้ไม่สามารถดำเนินโครงการได้อย่างเป็นรูปธรรม เราในฐานะองค์กรที่มุ่งมั่นส่งเสริมการศึกษาและพัฒนาเยาวชนอย่างต่อเนื่อง จึงเข้าไปช่วยสนับสนุนปัจจัยต่างๆเหล่านี้ เพื่อช่วยให้โครงการในฝันเหล่านั้นเกิดขึ้นจริง และช่วยขยายผลหลายๆโครงการที่น่าสนใจ เพื่อยกระดับการศึกษาและเป็นต้นแบบต่อไปอย่างยั่งยืน”

ทั้งนี้โครงการที่ซีพี ออลล์ ได้เข้าไปสนับสนุนให้แก่โรงเรียนต่างๆ ภายใต้ CONNEXT ED สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายกลุ่มอาทิ โครงการด้านวิชาชีพ ช่วยฝึกทักษะอาชีพให้แก่ครู นักเรียน ตลอดจนคนในชุมชนอย่างยั่งยืน โครงการด้านเกษตรกรรม โครงการด้านวิชาการ โครงการด้านศิลปวัฒนธรรม ไปจนถึงโครงการด้านสิ่งแวดล้อม

คุณธานินทร์ กล่าวอีกว่า จากการดำเนินงาน บริษัทได้ให้การสนับสนุนแก่โรงเรียนใน 3 เฟสแรกแล้วรวม 379 โรงเรียน โดยภายใต้จำนวนดังกล่าว มีโรงเรียนที่สามารถผ่านเกณฑ์ยุทธศาสตร์ต่างๆ ตลอดจนเกณฑ์มิติด้านความยั่งยืนได้แก่ 1.การสร้างรายได้อย่างยั่งยืน มีแผนสร้างรายได้ด้วยตัวเองและชุมชนได้อย่างต่อเนื่อง 2.การบูรณาการความรู้มาเป็นหลักสูตร มีการบรรจุเนื้อหาในรูปแบบหลักสูตรท้องถิ่น ให้ครูและนักเรียนในระดับชั้นที่เหมาะสมสามารถเรียนรู้ได้ 3.การพัฒนาสู่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน เป็นพื้นที่เปิดแห่งใหม่ให้คนในชุมชนสามารถเข้ามาเรียนรู้ในรูปแบบคอร์สระยะสั้น และได้รับการยกระดับเป็นโรงเรียน Best Practice ถึงจำนวน 32 โรงเรียน บางโครงการสามารถเป็นต้นแบบขยายผลให้แก่โรงเรียนจำนวนมากได้อีกด้วย

สำหรับโรงเรียน Best Practice ที่โดดเด่นมากที่สุดด้านสิ่งแวดล้อมคือ โรงเรียนอนุบาลทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ กับโครงการต้นกล้าไร้ถัง ที่ปลูกฝังเด็ก เยาวชน พ่อค้าแม่ค้าในโรงเรียน ให้ร่วมกันลด ละ เลิก ใช้สิ่งของที่สามารถกลายเป็นขยะและใช้ครั้งเดียวทิ้งเช่น แก้วน้ำพลาสติก หลอด จานกระดาษ จนสามารถลดปริมาณขยะจาก 15 ตันต่อเดือน เหลือเพียง 2 กิโลกรัมต่อเดือน พร้อมทั้งมีการบูรณาการจัดการขยะเข้าสู่หลักสูตรการเรียนการสอนและให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในการจัดการ ด้วยการคัดแยกวัสดุออกจากขยะจนสามารถหมุนเวียนรายได้กลับสู่โรงเรียน มีการต่อยอดเป็นศูนย์การเรียนรู้ชุมชน โครงการดังกล่าวกำลังได้รับการขยายผลสู่โรงเรียน 379 แห่งที่ซีพี ออลล์ดูแลเพื่อช่วยลดทั้งปริมาณขยะและลดปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากการจัดการขยะในชุมชนและโรงเรียนต่างๆทั่วประเทศ

ขณะเดียวกัน ซีพี ออลล์ ได้ร่วมสนับสนุนด้านวิชาการและไอซีทีในโครงการ “ห้องปฏิบัติการปัญญาประดิษฐ์” หรือ AI Lab ของโรงเรียนบ้านหนองแสงโคกน้อย จ.ขอนแก่น พัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนด้านเทคโนโลยีวิทยาการสมัยใหม่ทั้งหุ่นยนต์หรือ Robotics , AI (Artificial Intelligence Lab) และ IoT (Internet of Things) อย่างง่าย จนนักเรียนสามารถพัฒนาสิ่งประดิษฐ์ต่างๆได้อาทิ เครื่องจ่ายเจลล้างมืออัตโนมัติ ราวตากผ้าอัตโนมัติ ถังขยะอัจฉริยะ และเครื่องเตือนไฟรั่วได้ โครงการเสริมสร้างทักษะวิชาชีพให้แก่นักเรียนอาทิ “ร้านกาแฟสร้างอาชีพ” ของโรงเรียนบ้านนาคู จ.กาฬสินธุ์ ภายใต้ชื่อร้านกาแฟเสรีไทยให้นักเรียนได้ฝึกทักษะการทำเครื่องดื่ม การบริหารจัดการร้าน ทั้งยังให้คนในชุมชนสามารถวางขายสินค้า OTOP และร่วมเป็นเจ้าของร้านผ่านการถือหุ้นสหกรณ์

“เราเชื่อว่าโครงการต่างๆ ที่ซีพี ออลล์เข้าไปดูแลจะช่วยติดอาวุธทางปัญญา เสริมสร้างทักษะทั้งในและนอกห้องเรียน จนสามารถต่อยอดไปสู่อาชีพในอนาคตของเยาวชน สร้างรายได้ให้กับชุมชน ยิ่งกว่านั้น ยังเป็นการรักษาองค์ความรู้ที่เป็นอัตลักษณ์ของชุมชนให้คงอยู่กับคนรุ่นใหม่ ไม่หายไปตามกาลเวลา สามารถขยายผลไปสู่ชุมชนอื่นๆ โดยเราจะมุ่งมั่นส่งเสริมและช่วยยกระดับการศึกษาให้ดีขึ้นต่อไป”

สำหรับบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน)เป็นหนึ่งในพันธมิตรก่อตั้งมูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์ อีดี (CONNEXT ED) และเป็น 1 ใน 41 องค์กรเอกชนที่เล็งเห็นความสำคัญและตอบรับการมีส่วนร่วมทางการศึกษา โดยซีพี ออลล์ วางเป้าดูแลโรงเรียนในโครงการ CONNEXT ED 5 เฟส จำนวน 638 แห่งทั่วประเทศ ร่วมสนับสนุนโรงเรียนให้สามารถดำเนินโครงการด้านต่างๆ ทั้งโครงการที่ช่วยลดความเหลื่อมล้ำ โครงการพัฒนาคุณภาพคน โครงการเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน โครงการส่งเสริมอาชีพ โครงการด้านสิ่งแวดล้อม โดยมีผู้นำรุ่นใหม่ หรือ School Partner ซึ่งเป็นอาสาสมัครจากในองค์กรร่วมลงพื้นที่และคอยให้คำแนะนำในการพัฒนาโครงการของโรงเรียนต่างๆอย่างใกล้ชิด

Cr.Siam Rath