ค่าเงินบาทแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์ ทุนสำรองลดฮวบ ด้านไทย-สหรัฐฯ ยืนยันความสัมพันธ์แนบแน่น เซ็นต์เอกสารสำคัญ 2 ฉบับ ส่วน Mahindra ตั้งเป้าเป็นผู้นำการขาย SUV ไฟฟ้าในอินเดีย

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center)ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ

เศรษฐกิจในประเทศ

เงินบาทแตะ 36 บาทต่อดอลลาร์ ทุนสำรองลดฮวบเฉียด 3 หมื่นล้านเหรียญ (ประชาชาติธุรกิจ)

  • การเข้าไปดูแลค่าเงินบาทของ ธปท. พบว่า ช่วงต้นปี 2565 ธปท.มีเงินทุนสำรองฯ 2.79 แสนล้านเหรียญ แต่ปัจจุบัน (ณ 24 มิ.ย.2565) เงินทุนสำรองฯ เหลือ 2.51 แสนล้านเหรียญ หรือลดลง 2.8 หมื่นล้านเหรียญ สะท้อนว่า ธปท. เข้าไปช่วยชะลอไม่ให้ค่าเงินบาทผันผวนรุนแรง
  • ขณะที่เงินบาทอ่อนค่าทะลุ 36 บาท หากย้อนไปในช่วงเศรษฐกิจดี ไทยทยอยสะสมเงินทุนสำรองฯ ไว้ต่อเนื่อง จาก 1.68 แสนล้านเหรียญในปี 2016 เพิ่มเป็น 2.86 แสนล้านเหรืยญในปี 2020 ดังนั้น ไทยไม่ได้มีปัญหา และหากการท่องเที่ยวฟื้นกลับมาก็จะช่วยให้เกิดรายได้สกุลเงินต่างประเทศ และลดแรงกดดันค่าเงิน

ภูมิรัฐศาสตร์

ไทยสหรัฐฯ ยืนยันความสัมพันธ์แนบแน่น มีการเซ็นต์เอกสารสำคัญ 2 ฉบับ (บีบีซี)

  • นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สหรัฐอเมริกา เดินทางเยือนไทยครั้งแรก โดยไทย-สหรัฐฯมีการร่วมลงนามเซ็นต์เอกสารสำคัญ 2 ฉบับ

1.บันทึก Memorandum of Understanding on Promoting Supply Chain Resilience เอกสารฉบับนี้เน้นถึงผลประโยชน์ร่วมกันที่ไทยและสหรัฐฯ ได้รับจากความร่วมมือเพื่อแก้ไขจุดอ่อนของห่วงโซ่อุปทาน ลดการหยุดชะงักในการผลิตและขนส่ง

2.แถลงการณ์ Thailand-United States Communiqué on Strategic Alliance and Partnership มุ่งเน้นประเด็นที่มีร่วมกันในภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก รวมทั้งเน้นความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การบังคับใช้กฎหมาย สภาพภูมิอากาศ ความปลอดภัยทางไซเบอร์และเทคโนโลยี ความมั่นคง และสาธารณสุข

รถยนต์ไฟฟ้า

Mahindra ตั้งเป้าเป็นผู้นำการขาย SUV ไฟฟ้าในอินเดีย (รอยเตอร์ส)

  • Mahindra จำหน่ายรถเอสยูวีเครื่องยนต์สันดาปที่ได้รับความนิยมมากที่สุดของอินเดีย ยี่ห้อ Scorpio และ Thar และตอนนี้มีแผนที่จะครองกลุ่ม EV ที่เป็น SUV ด้วย
  • ปัจจุบันทาทามอเตอร์สครองตลาด EV ที่อินเดียคิดเป็น 1% ของยอดขายประจำปีของประเทศประมาณ 3 ล้านคัน รัฐบาลตั้งเป้า EV เติบโตเป็น 30% ในปี 2030 โดย Mahindra คาดว่า EV จะมีสัดส่วนระหว่าง 20% ถึง 30% ของยอดขาย SUV ทั้งหมดภายใน 2027