เศรษฐกิจไทยไตรมาสสอง โต 2.5 % / ค่าไฟฟ้าเดือน ก.ย. – ธ.ค. ปรับขึ้นเป็น 4.72 บาทต่อหน่วย ฝั่งจีนลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.10% หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัว

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจไทย

สภาพัฒน์ฯ เผยจีดีพีไทย Q2/65 โต 2.5% พร้อมปรับเป้าทั้งปีเป็น 2.7-3.2%

  • นายดนุชา พิชยนันท์ เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เปิดเผยว่าเศรษฐกิจไทยไตรมาส 2 ขยายตัวอยู่ที่ 2.5% โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการอุปโภคบริโภคภายในประเทศและการท่องเที่ยวพื้นตัว
  • ทั้งนี้ คาดว่าปี 2565 เศรษฐกิจจะขยายตัวอยู่ที่ 2.7-3.2% เนื่องจากคาดว่าจะมีรายรับจากนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น จากเดิม 5.7 แสนล้านบาท เป็น 6.6 แสนล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการเปิดประเทศ นอกจากนี้คาดว่า        การบริโภคภาคเอกชนจะปรับตัวดีขึ้น อย่างไรก็ดี ยังต้องติดตามสถานการณ์ความขัดแย้งของสงครามรัสเซียและยูเครน ความไม่แน่นอนของการแพร่ระบาดไวรัสโควิด และโรคฝีดาษลิง (ประชาชาติธุรกิจ)

ขึ้นค่าไฟฟ้าเดือน ก.ย. – ธ.ค. เป็น 4.72 บาทต่อหน่วย

  • สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน แจ้งปรับเพิ่มค่าเอฟทีอีก 68.66 สตางค์ต่อหน่วยในรอบเดือน ก.ย. – ธ.ค. รวมเป็นค่าเอฟทีทั้งสิ้น 93.43 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยต่อหน่วยอยู่ที่ 4.72 บาท สาเหตุจาก การนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อทดแทนก๊าซธรรมชาติในอ่าวไทยและพม่าที่มีปริมาณลดลงอย่างมาก รวมทั้งความผันผวนราคา Spot LNG ในตลาดโลก (สำนักงาน กก.)

เศรษฐกิจต่างประเทศ

จีนลดดอกเบี้ยนโยบาย 0.10% หนุนเศรษฐกิจฟื้นตัวจากปัญหาโควิดและฟองสบู่อสังหาริมทรัพย์

  • ธนาคารกลางจีนมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ระยะกลาง (MLF) ระยะ 1 ปีซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของจีน ถูกปรับลดลง 0.10% สู่ระดับ 2.75% นอกจากนี้ PBOC ยังได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ย reverse repurchase ประเภท 7 วัน ลง 0.10 % สู่ระดับ 2.0% และยังได้อัดฉีดสภาพคล่องมูลค่า 4 แสนล้านหยวน หรือประมาณ 5.93 หมื่นล้านดอลลาร์ เข้าสู่ระบบการเงินของจีนในวันนี้ (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)