อินโดนีเซียตั้งเป้าฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า โตโยต้าวางแผนลงทุน 1.8 พันล้านดอลลาร์

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center)ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ์ธุรกิจ

ธุรกิจยานยนต์

อินโดนีเซียตั้งเป้าฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้า โตโยต้าวางแผนลงทุน 1.8 พันล้านดอลลาร์

  • ประเทศอินโดนีเซียมุ่งเป็นศูนย์กลางการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของโลก ชูจุดเด่นด้านทรัพยากรแร่นิเกิลที่อุดมสมบูรณ์ และตั้งเป้ารถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนน 2.2 ล้านคัน จักรยานยนต์ไฟฟ้า 13 ล้านคัน ภายในปี 2573
  • บริษัทระดับโลกหลายแห่งประกาศลงทุนในอินโดนีเซีย เช่น “โตโยต้า”ลงทุน 1.80 พันล้านดอลลาร์ “แอลจี” ลงทุนผลิตแบตเตอรี่มูลค่ากว่า 9,000 ล้านดอลลาร์ “แอมเพเร็กซ์” ประกาศลงทุน 9,000 ล้านดอลลาร์ “ฮุนได” ลงทุนกว่า 1.55 พันล้านดอลลาร์ในโรงงานผลิตรถยนต์อีวี (รอยเตอร์ส และ กรุงเทพธุรกิจ)

ส.อ.ท.ชี้ยอดขายในประเทศพุ่ง ส่งออกซบ ปรับเป้าผลิตเหลือ 1.7 ล้านคัน

  • สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่ายอดผลิตรถยนต์ 6 เดือน(ม.ค.-มิ.ย.2565) ผลิตได้ 870,109 คัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 3.02% โดยผลิตเพื่อขายในประเทศเพิ่มขึ้นจากปีก่อนถึง 20.69% คิดเป็นสัดส่วน 50.35% ของยอดการผลิต
  • ยอดผลิตเพื่อส่งออก 6 เดือนที่ผลิตได้ 442,578 คัน ลดลงจากปีก่อน 8.98% เป็นปัจจัยให้ส.อ.ท. จะปรับลดเป้าหมายการผลิตรถยนต์ปีนี้ลงมาอยู่ที่ 1.7 ล้านคัน จาก 1.8 ล้านคัน แม้ยอดผลิตเพื่อขายในประเทศจะเพิ่มขึ้นก็ตาม (ข่าว: ไทยโพสต์)

เศรษฐกิจต่างประเทศ

สหรัฐ เปิดเผยตัวเลขจีดีพี Q2/65 หดตัว 0.9% ตอกย้ำเศรษฐกิจถดถอย 

  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2 โดยระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 0.9% หลังจากในไตรมาส 1 ได้เกิด GDP หดตัว 1.6% การหดตัวติดต่อกันนี้ทำให้เข้าเกณฑ์นิยามการเกิด “ภาวะเศรษฐกิจถดถอย”
  • อย่างไรก็ดี ในการแถลงข่าวหลังการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ นายเจอโรม พาวเวล ยืนยันว่าเศรษฐกิจสหรัฐยังไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย เนื่องจากหลายภาคส่วนในระบบเศรษฐกิจยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งรวมถึงตลาดแรงงาน โดยในด้านนโยบายการเงิน ธนาคารกลางสหรัฐฯ มีมติเอกฉันท์ปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.75% ตามคาด สู่ระดับ 2.25-2.50% (ข่าว : ฐานเศรษฐกิจ ภาพ : CNN)