สหรัฐส่งรองปธน. “คามาลา แฮร์ริส” ร่วมประชุมอาเซียนสัปดาห์นี้ / ‘จีน’ ส่งออกเดือนส.ค. ตกลง 8.8% ท่ามกลางการค้าผันผวน / เศรษฐกิจไทยอ่อนแอเกินคาด ‘กกร.’ ฝากความหวังที่การท่องเที่ยว

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจสหรัฐฯ

สหรัฐส่งรอง ปธน. “คามาลา แฮร์ริส” ร่วมประชุมอาเซียนสัปดาห์นี้

  • นางคามาลา แฮร์ริส รองประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา มีกำหนดการเดินทางเยือนกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ในสัปดาห์นี้ เพื่อร่วม การประชุมสุดยอดของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายสำคัญที่ผู้แทนของสหรัฐจะต้องเผชิญในการประชุมใหญ่ทั้งสองเวทีดังกล่าว มีตั้งแต่ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ สถานการณ์ในเมียนมา ไปจนถึงสงครามในยูเครน
  • ซึ่งทางวีโอเอสรุปประเด็นสำคัญไว้ ดังนี้ 1) ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ 2) ความรุนแรงในเมียนมา 3) สงครามในยูเครน 4) ไบเดนมุ่งหน้าร่วมประชุมจี20 ที่อินเดีย
  • อย่างไรก็ตามผู้นำสหรัฐส่งรองประธานาธิบดีแฮร์ริสร่วมประชุมสุดยอดเอเปก เเทนตนเองที่กรุงเทพฯ เนื่องจากตัวปธน.ไบเดนต้องไปงานเเต่งงานของหลานสาวของเขาในช่วงเวลาดังกล่าว (ฐานเศรษฐกิจ)

เศรษฐกิจจีน

‘จีน’ ส่งออกเดือนส.ค. ตกลง 8.8% ท่ามกลางการค้าผันผวน

  • จีนเปิดเผยส่งออกเดือนส.ค. ลดลง 8.8% จากปีที่แล้ว ซึ่งดีกว่ารอยเตอร์คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าที่ 9.2%
  • ส่วนการนำเข้าในเดือน ลดลง 7.3% เมื่อเทียบจากปีที่แล้ว และได้ลดลงทุกเดือนตั้งแต่ต้นปี 2566
  • เมื่อดูตัวเลขเจาะลึกไปกว่านั้น จีนส่งออกไปยังเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ลดลง 13.3% ขณะที่การนำเข้าเดือนส.ค. ลดลง 6.1% จากปีที่แล้ว ทั้งนี้ ตัวเลขทั้งสองทำให้เห็นว่ายังมีการเปลี่ยนแปลงตลอด
  • มองไปข้างหน้า เกิดคำถามว่า จีนกำลังถึงจุดการเติบโตการค้าต่ำสุดแล้วหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่หลายปัจจัย ทั้งอสังหาริมทรัพย์ ค่าเงินหยวนที่เทียบกับดอลลาร์ ราคาพลังงาน และน้ำมันที่สูงขึ้น
  • อย่างไรก็ตาม จีนเป็นประเทศพันธมิตรการค้าขนาดใหญ่ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะที่ภูมิภาคนี้เป็นคู่ค้ารายใหญ่ของจีนอีกด้วย  (กรุงเทพธุรกิจ)

เศรษฐกิจไทย

เศรษฐกิจไทยอ่อนแอเกินคาด ‘กกร.’ ฝากความหวังที่การท่องเที่ยว

  • กกร. หั่นเป้า GDP ปีนี้โต 2.5-3% จากเดิมประเมินไว้ที่ 3-3.5% หลังเศรษฐกิจโลกชะลอ ส่งออกติดลบนาน 10 เดือนติดต่อกัน นักสุดคือภาคการผลิตแผ่วลงทุกหมวดสินค้า ห่วงสัญญาณอันตรายสินค้าจีนทะลักเข้าไทย
  • หวังรัฐบาลใหม่เร่งกระตุ้นเศรษฐกิจ อัดฉีดมาตรการลดค่าครองชีพ และกระตุ้นภาคการท่องเที่ยว รวมถึงไฟเขียวฟรีวีซ่าจีนและเพิ่มเที่ยวบิน ขณะที่มุมมองนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจใหญ่อย่างเงินดิจิทัล 10,000 บาทนั้น ขอรอดูแนวทางที่ชัดเจนในวันที่ 11 กันยายน ที่จะมีการแถลงต่อรัฐสภา
  • รายได้จากการท่องเที่ยวยังต่ำกว่าที่คาด เนื่องจากการใช้จ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังต่ำกว่าปกติอยู่ราว 13% และค่าใช้จ่ายต่อคนต่อทริปของคนไทยที่เที่ยวในประเทศลดลงจากปกติราว 30%
  • นอกจากเร่งกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวให้กลับมาแล้ว กกร. มองว่ารัฐควรมีมาตรการเพื่อเร่งขับเคลื่อนเศรษฐกิจตามที่รัฐบาลได้ประกาศไว้ในระยะสั้น โดยเฉพาะเรื่องการลดภาระค่าครองชีพ รายจ่ายค่าไฟ และราคาน้ำมัน เพื่อเพิ่มกำลังซื้อในประเทศ ผลักดันนักท่องเที่ยวต่างชาติไม่ต่ำกว่า 30 ล้านคน  (เดอสแตนดาร์ด)