สหรัฐประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ 8.3% พุ่งเกินคาด / ครม.อนุมัติมาตรการช่วยค่าไฟไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน / สถิติผู้สมัครวีซ่าระยะยาวช่วงแรก ชาวสหรัฐอเมริกาและจีนแห่สมัครเป็นอันดับต้นๆ

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจสหรัฐ

สหรัฐประกาศตัวเลขเงินเฟ้อ 8.3% พุ่งเกินคาด

  • ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อจากการใช้จ่ายของผู้บริโภค เพิ่มขึ้น 8.3% ในเดือน ส.ค. เมื่อเทียบรายปี ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ที่ระดับ 8.1% และเมื่อเทียบรายเดือน ตัวเลขเงินเฟ้อเพิ่มขึ้น 0.1% สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าลดลง 0.1%  โดยนักวิเคราะห์จากโนมูระคาดการณ์ว่า ในการประชุมนโยบายการเงินในสัปดาห์หน้า (20-21 ก.ย.) ธนาคารกลางสหรัฐจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกสูงถึง 1.00% หลังจากที่ในเดือน มิ.ย.และ ก.ค. ปรับขึ้น 0.75% มาแล้ว (ฐานเศรษฐกิจ และเดอะนิวยอร์กไทมส์)

เศรษฐกิจไทย

มาตรการช่วยค่าไฟ” ครม.อนุมัติ! ช่วยผู้ใช้ไฟไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน

  • ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี อนุมัติงบกลางปี 2565-2566 วงเงิน 9,128 ล้านบาท เพื่อดำเนินมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ราคาพลังงานที่สูงขึ้นของกลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 500 หน่วยต่อเดือน เป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน ถึง ธันวาคม 2565 ซึ่งทันในการคำนวณบิลค่าไฟช่วงสิ้นเดือนกันยายนนี้ โดยผู้ใช้ไฟที่รับได้รับความช่วยเหลือ คิดเป็น 90% ของครัวเรือนทั้งหมด (ทีเอ็นเอ็น)

วีซ่าระยะยาว

บีโอไอเผยสถิติผู้สมัครวีซ่าระยะยาวช่วงแรก พบชาวสหรัฐอเมริกาและจีนแห่สมัครเป็นอันดับต้นๆ

  • นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยสถิติคำขอวีซ่าระยะยาวในช่วง 12 วันแรก หลังจากที่เปิดรับสมัครอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2565 อยู่ที่ 400 คำขอ โดยกลุ่มผู้สมัครหลัก เป็นกลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ ร้อยละ 40 และกลุ่มผู้ที่ต้องการทำงานจากประเทศไทยร้อยละ 30 ในด้านสัญชาติของผู้สมัครวีซ่า พบว่าเป็นชาวสหรัฐอเมริการ้อยละ 20 จีนร้อยละ 15 ตามมาด้วย สหราชอาณาจักรร้อยละ 10 โดยรัฐบาลวางเป้าหมายวีซ่าระยะยาวสามารถดึงดูดชาวต่างชาติ 1 ล้านคน และสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจ 1 ล้านล้านบาท (บางกอกโพสต์)