สภาอุตฯผิดหวังรัฐปรับขึ้นค่าไฟ จับตาราคาสินค้า ขยับยกแผงรับปี 66 / จีนเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม-ยอดค้าปลีกอ่อนตัว ผลจากพิษวิกฤติโควิด / วีซ่า กางโรดแมป เพิ่มความปลอดภัยระบบการชำระเงินในประเทศ

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจไทย

สภาอุตฯผิดหวังรัฐปรับขึ้นค่าไฟ จับตาราคาสินค้า ขยับยกแผงรับปี 66

  • นายเกรียงไกร  เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นเรื่อง ผลการประชุมคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงานเเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. ซึ่งเห็นชอบเพิ่มขึ้นค่าไฟ 20.5% ภาคอุตสาหกรรม การค้า และบริการ ส่งผลกระทบผู้ประกอบการอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่ใช้ไฟฟ้าในการผลิตมาก เช่น โรงหล่อ โรงแก้ว โรงผลิตซีเมนต์ โรงงานเยื่อกระดาษ อลูมิเนียม ปิโตรเคมี เป็นต้น
  • นอกจากนี้ เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่มีค่าไฟฟ้าถูกกว่าไทย เช่น เวียดนามตรึงค่าไฟฟ้าไว้ที่ 2.88 บาทต่อหน่วย ขณะค่าไฟฟ้าของไทยปรับขึ้นเป็น 5.69 บาทต่อหน่วย ทำให้ความสามารถในการแข่งขันของไทยลดลงอย่างแน่นอน (ฐานเศรษฐกิจ)

จีน

จีนเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรม-ยอดค้าปลีกอ่อนตัว ผลจากพิษวิกฤติโควิด

  • สำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนเผยตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย. เพิ่มขึ้น 2.2% จากปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตามชะลอตัวลงจาก 5% ในเดือนต.ค. ขณะที่ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคที่ส่งผลให้ยอดค้าปลีกลดลง 5.9% ซึ่งเป็นการลดลงรายเดือนที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. ด้านอสังหาริมทรัพย์ การลงทุนช่วง ม.ค.-พ.ย. ลดลง 9.8% ยอดขายบ้านและอาคารพาณิชย์ลดลง 26.6%
  • นักเศรษฐศาสตร์ให้ความเห็นผลิตภัณฑ์มวลรวมของจีนจะขยายตัวเพียง 3% ซึ่งต่ำกว่าเป้าหมายอย่างเป็นทางการก่อนหน้านี้ที่ประมาณ 5.5% โดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดประมาณการการเติบโตของจีน ลงเหลือ 3.2% ในปี 2565 และ 4.4% ในปี 2566 (การเงินและการธนาคาร)

ความปลอดภัยทางไซเบอร์

วีซ่า กางโรดแมป เพิ่มความปลอดภัยระบบการชำระเงินในประเทศ

  • วีซ่า ผู้ให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก เผยได้มีการลงทุนกว่า 9,000 ล้านเหรียญในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เพื่อยกระดับความปลอดภัยจากอาชญากรรมไซเบอร์  โดยใช้เทคโนโลยี AI และข้อมูลในการระบุตัวตน ตรวจสอบข้อมูล ลดการฉ้อโกง และป้องกันระบบนิเวศทางการชำระเงิน
  • 6 โรดแมป ใช้เทคโนโลยีสร้างความปลอดภัย, สร้างความปลอดภัยในการชำระเงินแบบดิจิทัล, สร้างความยืดหยุ่นระบบนิเวศการชำระเงิน, ป้องกันการโจมตีแบบสุ่ม, ยกระดับความพร้อมของผู้เล่นในรับมืออาชญากรรมทางไซเบอร์, ป้องกันผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจจากการผู้ฉ้อโกง (ประชาชาติธุรกิจ)