สหรัฐฯ เตรียมเพิ่มมาตรการสกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีชิปของจีนมากยิ่งขึ้น / IMF คาดเศรษฐกิจเอเชียกระทบหนัก เหตุวิกฤตอสังหาจีนฉุดดีมานด์ / ‘เจ้าสัวธนินท์’ ร่วมคณะ ‘เศรษฐา’ บุกจีน นัดหารือ ‘สีจิ้นผิง’ เชื่อมสัมพันธ์

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

ภูมิรัฐศาสตร์

สหรัฐฯ เตรียมเพิ่มมาตรการสกัดการเข้าถึงเทคโนโลยีชิปของจีนมากยิ่งขึ้น

  • ในเดือนตุลาคมนี้ สงครามชิป หรือ Tech War ระหว่างจีน-สหรัฐอเมริกาเข้มข้นขึ้น โดยล่าสุดรัฐบาลสหรัฐฯ กำลังจะออกกฎที่จะจำกัดบริษัทผู้ผลิตชิปในสหรัฐฯ จากการส่งออก ‘ชิปด้าน AI’ ให้จีนมากยิ่งขึ้น
  • การพยายามสกัดกั้นการส่งออกชิปด้าน AI ไปยังจีนของสหรัฐฯ นั้นดูเหมือนจะเป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ระหว่าง 2 มหาอำนาจระหว่างจีนและสหรัฐฯ ที่กำลังเปราะบางอยู่ในขณะนี้
  • โดยในปีที่ผ่านมา Nvidia บริษัทผู้ออกแบบชิปชั้นนำของโลก ไม่สามารถขายชิป AI ที่มีความก้าวหน้าที่สุด 2 รุ่นให้กับบริษัทในจีนได้ ซึ่งเป็นชิปที่เป็นองค์ประกอบสำคัญต่อการพัฒนาแชตบอต และระบบ AI ต่างๆ
  • รายงานข่าวระบุว่า กฎหมายใหม่ของสหรัฐฯ ต้องการขยายกรอบควบคุมการส่งออกชิปไปยังจีนที่ยังไม่ครอบคลุมในกฎหมายชุดก่อน อย่างไรก็ตาม สำหรับชิปที่จะถูกนำไปใช้ในสินค้าสำหรับผู้บริโภคอย่าง   แล็ปท็อปอาจได้รับการยกเว้น เนื่องจากรัฐบาลมุ่งเป้าไปที่การส่งออกชิป AI ที่อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศมากกว่า (เดอะสแตนดาร์ด)

เศรษฐกิจเอเชีย

IMF คาดเศรษฐกิจเอเชียกระทบหนัก เหตุวิกฤตอสังหาจีนฉุดดีมานด์

  • กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่า เศรษฐกิจจีนที่กลับมาคึกคักหลังพ้นช่วงล็อกดาวน์สมัยโควิดนั้นเสียแรงผลักดันเร็วกว่าคาด ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐก็ไม่ได้ช่วยเอเชียได้มากนัก เพราะสหรัฐโฟกัสกับภาคบริการมากกว่า นอกจากนี้ การที่สภาวะทางการเงินในหลายประเทศทั่วโลกเข้มงวดขึ้นอาจทำให้เงินทุนไหลออกจากเอเชีย และทำให้ค่าเงินในเอเชียอ่อนค่าลงด้วย
  • ในรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก IMF คงคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกปี 2566 ที่ระดับ 3% ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิม แต่ปรับลดการคาดการณ์ปี 2567 ลงจากเดิม 3.0% เหลือ 2.9%
  • IMF ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในโลกขึ้นอีก 0.3 จุดเปอร์เซ็นต์ เป็น 2.1% ในปี 2566 และเพิ่มขึ้น 0.5 จุดเปอร์เซ็นต์  เป็น 1.5% ในปีหน้า
  • ในทางตรงกันข้าม GDP ของจีนคาดว่าจะขยายตัว 5.0% ในปี 2566 และ 4.2% ในปี 2567 ซึ่งปรับลดจากตัวเลขคาดการณ์เดิมลง 0.2 จุดเปอร์เซ็นต์ และ 0.3 จุดเปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ โดยสาเหตุหลักมาจากวิกฤตอสังหาริมทรัพย์ของประเทศและอุปสงค์จากภายนอกที่อ่อนแอ (ฐานเศรษฐกิจ)

เศรษฐกิจไทย

‘เจ้าสัวธนินท์’ ร่วมคณะ ‘เศรษฐา’ บุกจีน นัดหารือ ‘สีจิ้นผิง’ เชื่อมสัมพันธ์

  • นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐนตรี มีกำหนดเข้าร่วมประชุมเวทีข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (BRF) ครั้งที่ 3 ตามคำเชิญของนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และเยือนจีนอย่างเป็นทางการตามคำเชิญของ นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ในวันที่ 16-21 ต.ค.2566
  • การเดินทางครั้งนี้รัฐบาลได้เชิญภาคเอกชนเข้าร่วมตามนโยบายของนายกรัฐมนตรีที่ต้องการให้ภาคเอกชนร่วมคณะเพื่อไปเจรจาการค้าและการลงทุน โดยรัฐบาลได้เชิญผู้แทนภาคเอกชนร่วม 50 คน ร่วมคณะไปด้วย
  • รวมทั้งมีบริษัทที่ทำธุรกิจร่วมกับจีนร่วมคณะ เช่น ‘เจ้าสัวธนินท์’ นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (CP), นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP (กระทิงแดง), นายชูศักดิ์ ว่องกุศลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจต่างประเทศ บริษัทน้ำตาลมิตรผล จำกัด
  • นายเศรษฐา มีกำหนดการพบนายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน รวมถึงนายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน และนายจ้าว เล่อจี้ ประธานสภาประชาชนแห่งชาติจีน เพื่อกระชับความสัมพันธ์หุ้นส่วนความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์รอบด้านระหว่างไทย-จีน และสร้างความร่วมมือที่ใกล้ชิดด้านการค้าและการลงทุน (กรุงเทพธุรกิจ)