เศรษฐกิจซบ-ดอกเบี้ยพุ่ง บริษัทมะกันผิดนัดชำระหนี้เพิ่ม 80% สูงสุดในรอบ 7 ปี / อัตราเกิดจีนฮวบ สวนทางยอดคนตาย หลัง ‘Zero Covid’ ทำพิษ / เอกชนห่วง ปัญหา Geopolitics และการเมืองโลก ฉุดภาคอุตสาหกรรมไทย

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจสหรัฐฯ

เศรษฐกิจซบ-ดอกเบี้ยพุ่ง บริษัทมะกันผิดนัดชำระหนี้เพิ่ม 80% สูงสุดในรอบ 7 ปี

  • S&P Global Rating เผยว่า การผิดนัดชำระหนี้ของบริษัทอเมริกันเพิ่มสูงขึ้นในปี 2566 และอาจเป็นปัญหาอีกครั้งในปี 2567 เนื่องจากหลายบริษัทเกิดปัญหาสภาพคล่องเพราะมีภาระอัตราดอกเบี้ยที่ปรับตัวสูงขึ้น
  • จำนวนบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้มีทั้งสิ้น 153 แห่งในปี 2566 เพิ่มขึ้น 85 บริษัทจากปี 2565 หรือเพิ่มขึ้นราว 80% ซึ่งถือเป็นระดับการผิดนัดชำระหนี้สูงสุดในรอบ 7 ปี นอกเหนือจากช่วงโควิด-19 ระบาดในปี 2563
  • เอสแอนด์พีระบุว่า บริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้เป็นบริษัทที่จัดอยู่ในเรตติงต่ำที่มีกระแสเงินสดติดลบ มีภาระหนี้สินสูง และสภาพคล่องน้อย เมื่อแยกเป็นประเภทธุรกิจ พบว่า ธุรกิจที่ต้องพบลูกค้า รวมถึงสื่อและธุรกิจด้านความบันเทิงมักเป็นบริษัทที่ผิดนัดชำระหนี้
  • ตามข้อมูลจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เผยว่า บริษัทอเมริกันอาจเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบาก เพราะภาระหนี้สินรวม 13.7 ล้านล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ หนี้สินบริษัทพุ่งสูงขึ้น 18.3% ตั้งแต่ปี 2563 เนื่องจากหลายบริษัทใช้ประโยชน์จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของเฟดในช่วงเกิดการแพร่ระบาดโควิดแรก ๆ
  • เอสแอนด์พีเตือน ภาระหนี้สินทั้งในสหรัฐและประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก อาจรุนแรงมากขึ้นจากพิษเศรษฐกิจชะลอตัวและต้นทุนทางการเงินสูง จนส่งผลให้เกิดการผิดนัดชำระหนี้ต่อไป (กรุงเทพธุรกิจ)

เศรษฐกิจจีน

อัตราเกิดจีนฮวบ สวนทางยอดคนตาย หลัง ‘Zero Covid’ ทำพิษ

  • Bloomberg รายงานวันที่ 17 ม.ค. ว่า ประชากรจีนลดลงเป็นประวัติการณ์ในปี 2566 เนื่องจากจํานวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นหลังจากรัฐบาลจีนยุติการควบคุมการระบาดอย่างเข้มงวดสำทัพด้วยอัตราการเกิดที่ยังคงลดลง
  • ทั้งนี้ สํานักงานสถิติแห่งชาติจีน เผยแพร่ข้อมูลวันนี้ว่า จีนมีผู้เสียชีวิต 11.1 ล้านคน สูงกว่าปีที่แล้วประมาณ 690,000 ราย โดยการเพิ่มขึ้นนี้ส่วนหนึ่งเกิดจากการเสียชีวิตที่เกี่ยวข้องกับโควิดที่เพิ่มขึ้นในช่วงหลายเดือนหลังจากที่เจ้าหน้าที่ยกเลิกนโยบายโควิดเป็นศูนย์ (Zero Covid) เมื่อเดือนธ.ค. 2565 และนําไปสู่การติดเชื้อจํานวนมาก
  • ขณะที่ จำนวนทารกทั้งหมด 9.02 ล้านคนเกิดในปี 2565 ซึ่งเป็นสถิติต่ำสุดใหม่ ที่สำคัญจํานวนทารกแรกเกิดลดลงอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ทศวรรษ 1960 โดยเพิ่มขึ้นในช่วงสั้น ๆ ปี 2559 เมื่อรัฐบาลผ่อนคลายนโยบายลูกคนเดียวเพื่อให้ครอบครัวทั่วประเทศมีมากขึ้น
  • ทั้งนี้ UN เปิดเผยว่า ณ กลางปี 2566 ประชากรอินเดียแซงหน้าประชากรจีนเรียบร้อย โดยประชากรอินเดียมีจำนวนเกิน 1.4286 พันล้านคน ซึ่งสูงกว่าของจีน 1.4257 พันล้านคนเล็กน้อย (กรุงเทพธุรกิจ)

เศรษฐกิจไทย

เอกชนห่วง ปัญหา Geopolitics และการเมืองโลก ฉุดภาคอุตสาหกรรมไทย

  • ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ความไม่ชัดเจนและยังไม่มีข้อสรุปของโครงการดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาลที่คาดการณ์ว่าอาจจะสะดุดหรือล่าช้าออกไปนั้น เอกชนมองว่า ภาครัฐจำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านอื่นควบคู่เพื่อกระตุ้นให้เร็วขึ้น เนื่องจากงบประมาณปี 2567 ก็ล่าช้าออกไปกว่า 8 เดือนแล้ว
  • ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมปรับตัวลดลง เนื่องจากภาคการผลิตชะลอลงและกำลังซื้อของผู้บริโภคยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ดังนั้นดัชนีคาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้ายังคงอยู่ที่ระดับ 96.2 ปรับตัวลดลงจาก 97.3 ในเดือนพฤศจิกายน
  • นอกจากนี้ภาคเอกชนยังคงจับตาการส่งออกจากกรณีกลุ่มฮูตีในเยเมนโจมตีเรือขนส่งสินค้าพาณิชย์ที่แล่นผ่านทะเลแดง ส่งผลกระทบต่อการขนส่งสินค้าของไทย โดยเฉพาะสินค้าระหว่างทวีปเอเชียและยุโรป เนื่องจากอัตราค่าระวางเรือและค่าเบี้ยประกันความเสี่ยงปรับตัวเพิ่มขึ้น 3,000-5,000 ดอลลาร์ รวมถึงระยะเวลาในการเดินทางที่ล่าช้าออกไปอย่างน้อย 14 วัน (เดอะสแตนดาร์ด)