รมว.คลัง ชี้โครงการ”คนละครึ่ง”อาจไม่จำเป็น หลังบริโภค-ท่องเที่ยวฟื้น หนุนศก.โตต่อเนื่อง / เผยผลสำรวจการเข้าถึงการเงินในยุคดิจิทัล พบคนไทยใช้แอปการเงินมากสุดในอาเซียน / อเมซอนเลิก-ถอนธุรกิจส่งอาหารในอินเดียสิ้นปีนี้

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

เศรษฐกิจไทย

รมว.คลัง ชี้โครงการ”คนละครึ่ง”อาจไม่จำเป็น หลังบริโภค-ท่องเที่ยวฟื้น หนุนศก.โตต่อเนื่อง

  • นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ ระบุในงานสัมมนาหอการค้าทั่วประเทศ ครั้งที่ 40 ที่ จ.อุบลราชธานี ว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยปีนี้แนวโน้มดีขึ้นในปี 2566 ภาคเอกชนมองว่าเศรษฐกิจไทยจะขยายตัวได้ 3.5-4% และภาคการส่งออกจะขยายตัวได้ 3-5% เพราะเศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 3 ปีนี้ หลังผ่อนคลายการเปิดประเทศ การบริโภคและการท่องเที่ยวฟื้นตัวได้ดี
  • รมว.คลัง มองว่า ขณะนี้อาจไม่จำเป็นต้องพึ่งพาโครงการ”คนละครึ่ง”แล้ว เพราะหลังจากเปิดประเทศ การใช้จ่ายประชาชนเริ่มคึกคัก ต่างชาติเข้ามาเที่ยวในไทย ดังนั้นความจำเป็นที่รัฐบาลจะต้องเข้าไปสนับสนุนในโครงการที่รัฐต้องออกเงินช่วย ก็อาจจะลดน้อยลงไป (การเงินธนาคาร)

ธุรกิจการเงินดิจิทัล

เผยผลสำรวจการเข้าถึงการเงินในยุคดิจิทัล พบคนไทยใช้แอปการเงินมากสุดในอาเซียน

  • ผลสำรวจจากรายงาน Thai Digital Generation 2022 ซึ่งจัดทำโดย Sea (Group) และ World Economic Forum (WEF) พบว่าคนไทยมีการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่โลกดิจิทัลอย่างรวดเร็วใน 2 ปีที่ผ่านมา สัดส่วนผู้ใช้บริการอีแบงก์กิ้งและอีวอลเล็ตอยู่ที่ 83% ซึ่งมากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน และราว 94% ของผู้ตอบแบบสอบถามต้องการบริการทางการเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นอีกในอนาคต ทั้งด้านการจับจ่ายใช้สอย การเข้าถึงแหล่งเงินทุน การออมและการลงทุน โดย 28% เท่านั้นที่สามารถเข้าถึงทั้งสินเชื่อ การลงทุน และประกัน นับเป็นโอกาสของธุรกิจ Fintech หรือ Digital Bank รวมทั้งสถาบันการเงินดั้งเดิมที่มีการทรานส์ฟอร์มสู่โลกดิจิทัล (Finnomena)

อีคอมเมอร์ซ

เมซอนเลิก-ถอนธุรกิจส่งอาหารในอินเดียสิ้นปีนี้

  • อเมซอน อินคอร์ปอเรชั่น ธุรกิจผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซ เผยว่าเตรียมถอนตัวจากธุรกิจจัดส่งอาหารในประเทศอินเดีย หลังดำเนินธุรกิจมาได้เพียงปีเศษ แม้ว่าอินเดียจะเป็นตลาดหลักที่อเมซอนให้ความสำคัญ คาดว่าอุตสาหกรรมจัดส่งอาหารของอินเดียจะมีมูลค่าราว 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ในอีก 3 ปีข้างหน้า
  • นักวิเคราะห์คาดว่าการแข่งขันกับเจ้าตลาดอย่าง “Flipkart” ซึ่งถือหุ้นโดยวอลมาร์ท และอุปสรรคในการขยายตลาดไปในเมืองเล็กๆทั่วประเทศอินเดีย. เป็นสาเหตุของการยุติธุรกิจส่งอาหารในอินเดียครั้งนี้ ซึ่งเป็นไปตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของอเมซอน (Techcrunch)