ญี่ปุ่นสั่งห้ามส่งออกอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง 23 รายการไปยังจีน ตามรอยสหรัฐฯ / ‘อีลอน มัสก์’ เตรียมเปลี่ยนโลโก้ Twitter เป็นรูปตัว X / บิ๊กเนมฮ่องกง บุกตลาดอาหารเสริม 8.7 หมื่นล้าน ยึดไทยฮับอาเซียน

ทันทุกข้อมูลข่าวสารเศรษฐกิจการลงทุน กับ CP Business Watch
สำนักเศรษฐกิจและการลงทุนของเครือฯ (Economic and Investment Center) ขอนำเสนอ ข่าว บทความ และบทวิเคราะห์เชิงลึกที่เป็นประโยชน์แก่ผู้บริหารและพนักงานในเครือฯ เพื่อเสริมการตัดสินใจด้านธุรกิจและการลงทุนของเครือเจริญโภคภัณฑ์ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจแนวโน้มเศรษฐกิจมหภาค และการลงทุน เพื่อใช้ประกอบการวางแผนกลยุทธ

สงครามเทคโนโลยี

ญี่ปุ่นสั่งห้ามส่งออกอุปกรณ์ผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง 23 รายการไปยังจีน ตามรอยสหรัฐฯ

  • ญี่ปุ่นออกกฎห้ามส่งออกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์จำนวน 23 รายการไปยังจีน ซึ่งถือเป็นการเดินตามรอยสหรัฐอเมริกาและเนเธอร์แลนด์ที่ดำเนินนโยบายในรูปแบบเดียวกันไปก่อนแล้ว
  • Nikkei รายงานว่า หนึ่งในลิสต์อุปกรณ์ที่ญี่ปุ่นสั่งห้ามส่งออกคืออุปกรณ์ที่มีความเกี่ยวข้องกับกระบวนการ EUV Lithography ซึ่งเป็นเทคโนโลยีขั้นสูงที่ใช้สร้างรูปแบบวงจรที่ซับซ้อนในชิปคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก
  • ระเบียบของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่นยังคงเปิดช่องให้บริษัทผู้ผลิตอุปกรณ์เซมิคอนดักเตอร์ ของญี่ปุ่นสามารถส่งสินค้าไปยังจีนได้ ในกรณีที่ไม่เกี่ยวข้องกับการผลิตเซมิคอนดักเตอร์ขั้นสูง
  • ปัจจุบันอุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์ในญี่ปุ่นมีการนำเข้าแกลเลียมจากจีนซึ่งถือเป็นผู้ผลิตรายใหญ่ของโลก หากจีนสั่งห้ามส่งออกโลหะสำคัญดังกล่าวให้กับญี่ปุ่นเพื่อตอบโต้ อุตสาหกรรมชิปของญี่ปุ่นก็จะได้รับผลกระทบเช่นกัน (เดอะสแตนดาร์ด)

โซเชียลมีเดีย 

‘อีลอน มัสก์’ เตรียมเปลี่ยนโลโก้ Twitter เป็นรูปตัว X

  • Elon Musk เจ้าของ Twitter Inc เตรียมรีแบรนด์ บริษัท โซเชียลมีเดียไปในทิศทางใหม่ด้วยการที่จะแทนที่โลโก้นกสีน้ำเงินที่เป็นที่รู้จักกันดีด้วย X
  • ภายใต้การดำรงตำแหน่งอันวุ่นวายของ Musk นับตั้งแต่เขาซื้อ Twitter ในเดือนตุลาคม บริษัทได้เปลี่ยนชื่อธุรกิจเป็น X Corp ซึ่งสะท้อนถึงวิสัยทัศน์ของมหาเศรษฐีในการสร้าง Super App อย่าง WeChat ของจีน
  • ลินดา ยัคคาริโน ซีอีโอคนใหม่ของ Twitter ทวีตว่า “มันเป็นสิ่งที่หาได้ยากอย่างยิ่ง ไม่ว่าจะในชีวิตหรือในธุรกิจ ที่คุณได้รับโอกาสครั้งที่สองในการสร้างความประทับใจที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง Twitter สร้างความประทับใจครั้งยิ่งใหญ่และเปลี่ยนวิธีการสื่อสารของเรา ตอนนี้ X จะสร้างความประทับใจครั้งใหม่“ (รอยเตอร์)

ธุรกินอาหารเสริมไทย

บิ๊กเนมฮ่องกง บุกตลาดอาหารเสริม 8.7 หมื่นล้าน ยึดไทยฮับอาเซียน

  • Nielsen ระบุว่า ปี 2565 คนไทยมีการซื้อผลิตภัณฑ์กลุ่มสุขภาพ เช่น วิตามิน อาหารเสริม เติบโตขึ้น 229% จากปี 2562 แต่ในปี 2566 มีการคาดการณ์ว่าเทรนด์ผู้บริโภคจะเปลี่ยนแปลงในทิศทางการรับประทานอาหารอาหารเป็นยา วิตามินเพื่อสุขภาพและยาสมุนไพร
  • “ไวต้า กรีน” ซึ่งเป็นแบรนด์อาหารเสริมจากฮ่องกงที่ มีแผนขยายตลาดในประเทศไทยโดยตั้งบริษัทลูก “ไวต้า กรีน เอเชีย (ประเทศไทย)” เพราะเล็งเห็นศักยภาพในการเติบโตและให้ไทยเป็นศูนย์กลางของอาเซียน
  • ความท้าทายสำหรับการทำตลาดในประเทศไทยคือ “ราคา” ซึ่งบริษัทพยายามที่จะรักษาราคาให้อยู่ในระดับเดียวกันกับที่ขายในฮ่องกงคือ 1,500 – 2,500 บาท และคาดว่าจะเริ่มวางจำหน่ายได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567
  • สำหรับแผนการขยายธุรกิจในประเทศไทย เบื้องต้นได้นำเข้าผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะกลุ่มเห็ดหลินจือและถั่งเช่าเข้ามานำร่องเปิดตลาดตั้งแต่ 2 ปีที่แล้วเพื่อขึ้นทะเบียนกับอย. แต่ล่าช้ามาจนถึงปัจจุบัน (ฐานเศรษฐกิจ)