เภสัชอาสาเอ็กซ์ต้า ซีพี ออลล์ จับมือเพจ “อีจัน” ชวนแบ่งปันยาเหลือใช้ให้ ผู้ป่วย รพ.อุ้มผาง และสถานพยาบาลชายขอบ

การเข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดียังเป็นปัญหาในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณชายขอบของประเทศไทยที่มีสถานพยาบาลเพียงไม่กี่แห่งแต่ต้องดูแลคนเป็นจำนวนมาก เภสัชอาสาเอ็กซ์ต้า โดยร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัส ในกลุ่มธุรกิจซีพี ออลล์ จึงได้ร่วมกับเพจ “อีจัน” เชิญชวนคนไทยร่วมบริจาคยาที่ไม่ได้ใช้งานแล้วและยังไม่หมดอายุ เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลอุ้มผาง นำไปแจกจ่ายให้ผู้ป่วยที่อยู่ในกลุ่มผู้ไม่มีสิทธิ์หลักประกันสุขภาพ โดยเปิดรับบริจาคตั้งแต่วันนี้ จนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2564

ดร.อนุรักษ์ วัฒนะถาวรวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บมจ.ซีพี ออลล์ และผู้บริหารร้านขายยาเอ็กซ์ต้า พลัส กล่าวว่า สภาพเศรษฐกิจที่เกิดจากสถานการณ์โควิด ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ห่างไกลยิ่งห่างไกลจากการรักษาพยาบาลที่ดี ร้านยาเอ็กซ์ต้า พลัส เล็งเห็นความสำคัญปัญหาที่เกิดขึ้น จึงจัดตั้งเภสัชอาสาเอ็กซ์ต้า เพื่อขับเคลื่อนโครงการรับบริจาคยาส่งมอบให้ รพ.อุ้มผางต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 โดยร่วมมือกับเพจ “อีจัน”ซึ่งมีแนวคิดและนโยบายเดียวกันในการช่วยเหลือสังคม เพื่อเป็นสะพานบุญให้ประชาชนได้ส่งมอบน้ำใจให้ผู้ที่ขาดโอกาสในการรักษาพยาบาลในพื้นที่ห่างไกล

“ตลอดระยะเวลา 3 ปีที่ดำเนินโครงการ ประสบความสำเร็จเกินคาด มีประชาชนสนใจเข้าร่วมโครงการบริจาคยากว่า 300 ลัง รวมมูลค่ากว่า 400,000 บาท ช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในการเบิกจ่ายยาให้แก่โรงพยาบาลอุ้มผางปีละไม่น้อย เพราะที่ผ่านมารพ.อุ้มผางมีค่าใช้จ่ายในเรื่องของการรักษาพยาบาลของกลุ่มผู้ไม่มีสิทธิในหลักประกันสุขภาพค่อนข้างสูง”

การเปิดรับบริจาคยาในครั้งนี้ในเบื้องต้นเภสัชกรของเอ็กซ์ต้า จะตรวจสอบคัดกรองยาที่ได้รับบริจาคมา เพื่อให้แน่ใจว่ายาทุกเม็ดสามารถนำมาใช้ได้และยังไม่หมดอายุ ส่วนยาที่หมดอายุแล้วจะถูกนำไปทำลายอย่างถูกวิธี เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม

บรรณาธิการ เพจ “อีจัน” กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า เพจ”อีจัน” มีนโยบายช่วยเหลือสังคมในหลากหลายรูปแบบ รวมถึงการรับบริจาคยาที่ยังไม่หมดอายุด้วย และเมื่อร้านยาเอ็กซ์ต้าพลัส มีโครงการดีๆ จึงสนใจเข้าร่วมเพื่อเป็นพลังส่วนหนึ่งในการส่งต่อสิ่งดี ๆ ให้แก่สังคม โดยจะมีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนลูกเพจ และประชาชนทั่วไปเพื่อรับบริจาคยาทุกประเภทที่มีอายุอย่างน้อย 6 เดือน กลุ่มยาโรคเรื้อรัง ที่มีวันหมดอายุอย่างน้อย 1 ปีขึ้นไป ยกเว้นยาน้ำที่เปิดใช้แล้วและยาที่ใช้ทา เช่น ยาแดง ทิงเจอร์ ยาหยอดตา ยาทาแก้ร้อนในในปาก ที่เปิดใช้แล้ว โดยลูกเพจและประชาชนทั่วไปสามารถมาบริจาคยาได้ที่ร้านเอ็กซ์ต้า พลัสโดยตรง ซึ่งจะมีกล่องสำหรับรับบริจาคยาตั้งอยู่ภายในร้าน หรือบริจาคผ่านเพจอีจัน ก็ได้เช่นกัน

นายแพทย์วรวิทย์ ตันติวัฒนวิทย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก กล่าวขอบคุณเอ็กซ์ต้า พลัส เพจอีจัน และภาคประชาสังคม ที่เล็งเห็นปัญหาและอุปสรรคของการให้บริการด้านสาธารณสุขของอุ้มผาง เพราะปัจจุบันมีสถานบริการสาธารณสุขในเครือข่ายอำเภออุ้มผาง ประกอบด้วย โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล 6 แห่ง สถานบริการสาธารณสุขชุมชน 3 แห่ง สุขศาลาพระราชทาน 2 แห่ง สุขศาลาหมู่บ้าน 13 แห่ง สุขศาลาข้ามแดน 3 แห่ง และคลินิกข้ามแดน 4 แห่ง ที่ต้องดูแลรักษาประชากรในพื้นที่อำเภออุ้มผางจำนวน 73,142 คน ซึ่งมีกลุ่มผู้ไม่มีสิทธิ์ในหลักประกันสุขภาพจำนวน 30,397 คน

ทั้งนี้ การดูแลรักษากลุ่มผู้ไม่มีสิทธิ์ในหลักประกันสุขภาพนั้น โรงพยาบาลไม่สามารถเรียกเก็บจากงบประมาณกองทุนใดได้ ซึ่งยาที่ได้รับบริจาคจะมีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนไข้ที่มารับบริการ เพราะได้มีการส่งมอบยาให้กับสถานบริการสาธารณะสุขที่เป็นลูกข่าย ทั้งยังมีกองทุนยาหมู่บ้านและกองทุนยาสำหรับห้องพยาบาลโรงเรียนอีกด้วย

คุณเทวฤทธิ์ ประเพชร หัวหน้าฝ่ายเภสัชกรรมโรงพยาบาลอุ้มผาง จ.ตาก บอกว่า มีความต้องการยาเพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยในพื้นที่ห่างไกล ตามแนวตะเข็บชายแดน ไทย-เมียนมาร์ อย่างต่อเนื่อง ซึ่งจำเป็นต้องรักษาคนไข้เพื่อป้องกันการระบาดของโรค ไม่ว่าจะเป็นคนไทย กะเหรี่ยง ลาว มอญ ที่ผ่านมาได้รับบริจาคยาที่ยังไม่หมดอายุ สามารถบริจาคยาได้ทุกประเภท โดยจะเน้นไปที่ กลุ่มยาแก้แพ้ ยารักษาไข้หวัด ยารักษาโรคตามอาการ กลุ่มยารักษาโรคเรื้อรัง เช่น ความดัน , เบาหวาน , ลดคอเลสเตอรอล ทั้งนี้ในช่วงฤดูร้อนก็ต้องเฝ้าระวังอหิวาตกโรคซึ่งจำเป็นจะต้องใช้ผงเกลือแร่แก้ปัญหาท้องเสียอย่างรุนแรง เป็นต้น

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถ ร่วมส่งต่อบริจาคยาเหลือใช้ แบ่งปันให้เพื่อนมนุษย์ร่วมกันได้ ผ่านช่องทางที่ร้านยา เอ็กซ์ต้า พลัสกว่า 300 สาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2564 สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.exta.co.th หรือโทร 02-071-2091-2

Cr. เอ็กซ์ต้า พลัส