CPF ร่วมคิกออฟโครงการ “คนไทยรักช้าง” มอบอาหารช้าง 6 หมื่น กก. บรรเทาภาวะขาดแคลนอาหารจากวิกฤตโควิด-19

เครือ CP-CPF ผนึกกำลัง บริษัทในเครือ ซีพี ออลล์ และ ทรู ร่วมมือกับ “สมาคมสหพันธ์ช้างไทย” เปิดโครงการ “คนไทยรักช้าง” เพื่อช่วยเหลือและบรรเทาความเดือดร้อนด้านอาหารและสุขภาพของช้างเลี้ยงและควาญช้างในเครือข่ายของสมาคมสหพันธ์ช้างไทย ด้วยการรณรงค์ให้คนไทยจากทุกภาคส่วนร่วมกันแบ่งปันน้ำใจให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 อย่างสมศักดิ์ศรีของการเป็นสัตว์คู่บ้านคู่เมืองของประเทศไทย นำร่องโดย CPF สนับสนุนอาหารช้าง 60 ตัน หรือ 60,000 กิโลกรัม มอบให้แก่สมาคมสหพันธ์ช้างไทย เพื่อนำไปเป็นอาหารเสริมให้ช้างมีสุขภาพดี นอกจากนี้ กลุ่มทรู ยังสนับสนุนเทคโนโลยีอัจฉริยะทรู 5G ในระบบสื่อสารของรถพยาบาลช้าง พร้อมเปิดช่องทางรับบริจาคจากประชาชน ร่วมแบ่งปันน้ำใจให้ช้าง ผ่านระบบทรูมูฟ เอช แอปทรูยู แอปทรูไอดี และแอปทรูมันนี่ วอลเล็ท รวมทั้ง ซีพี ออลล์ ได้แก่ เคาน์เตอร์เซอร์วิส ในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ
คุณสิริพงศ์ อรุณรัตนา ประธานผู้บริหารฝ่ายปฎิบัติการธุรกิจสัตว์บก CPF กล่าวว่า สถานการณ์ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบในวงกว้าง CPF จึงขอเป็นส่วนหนึ่งของ “โครงการคนไทยรักช้าง” ส่งมอบความช่วยเหลือ เพื่อร่วมบรรเทาปัญหาของปางช้าง ควาญช้าง ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการขาดรายได้ ทำให้ช้างขาดแคลนอาหาร โดยใช้ศักยภาพและประสบการณ์ความเชี่ยวชาญในการเป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์ สนับสนุนอาหารช้าง 60 ตัน หรือ 60,000 กิโลกรัม ผ่านสมาคมสหพันธ์ช้างไทย เพื่อนำไปเป็นอาหารเสริมให้ช้างมีสุขภาพดี ซึ่งอาหารช้างที่ส่งมอบในครั้งนี้ ผลิตโดยโรงงานผลิตอาหารสัตว์บกหนองแค จ.สระบุรี ของ CPF ได้ปรับสายการผลิตเพื่อมาผลิตอาหารช้างเอราวัณ กระจายให้ปางช้าง กำหนดส่งมอบรวม 3 งวด งวดละ 20 ตัน เป็นอาหารที่มีคุณค่าโภชนาการอาหารสัตว์ ทั้งโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ ช่วยส่งเสริมให้ช้างมีสุขภาพดี แข็งแรง เติบโตตามธรรมชาติ สามารถกินควบคู่กับอาหารหยาบ เช่น กล้วย อ้อย หญ้า ซึ่งเป็นอาหารหลักของช้างได้ดี ช่วยบรรเทาปัญหาในภาวะขาดแคลนอาหารที่ใช้เลี้ยงช้างจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโควิด-19
“CPF มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เป็นส่วนหนึ่งของโครงการคนไทยรักช้าง และมีส่วนช่วยแบ่งเบาภาระ บรรเทาปัญหาของปางช้าง ควาญช้าง และช่วยเหลือช้างที่ขาดแคลนอาหารในช่วงโควิด-19” คุณสิริพงศ์ กล่าว
ดร.เนตรชนก วิภาตะศิลปิน หัวหน้าคณะผู้บริหาร ด้านการศึกษา ทรู กล่าวว่า กลุ่มทรู ในฐานะภาคเอกชนไทยที่ดำเนินธุรกิจควบคู่กับการพัฒนานวัตกรรมที่สร้างคุณค่าแก่สังคม และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน ได้นำศักยภาพนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล ร่วมสนับสนุนโครงการ “คนไทยรักช้าง” โดยนำเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G สนับสนุนระบบสื่อสารในรถพยาบาลช้าง ที่จะส่งสัญญาณภาพความละเอียดสูงเพื่อช่วยให้สัตวแพทย์ สามารถติดตามอาการของช้างและแนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นแบบเรียลไทม์ผ่านกล้องมอนิเตอร์ที่ติดในรถ ในกรณีที่ต้องมีการส่งตัวช้างที่มีอาการป่วยหรือจำเป็นต้องขนย้ายไปจุดต่างๆ ให้กับคนที่ดูแลช้างหรือควาญช้างระหว่างการเดินทางไปโรงพยาบาล ช่วยให้การรักษาช้างทันท่วงทีมากขึ้น รวมทั้งการติดตั้งอุปกรณ์ Tracking เพื่อตรวจสอบเส้นทางรถพยาบาลซึ่งจะแสดงผลผ่านสมาร์ทโฟน 5G และคอมพิวเตอร์ นอกจากนี้ยังนำศักยภาพความเป็นสื่อมาช่วยผลิตสปอต พร้อมประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ในเครือ อาทิ TNN16 ทรูโฟร์ยู ทรูปลูกปัญญา ทรูวิชั่นส์ และสื่อสังคมออนไลน์ อีกทั้งยังเปิดช่องทางรับบริจาคผ่านระบบทรูมูฟ เอช แอปทรูยู แอปทรูไอดี และ แอปทรูมันนี่ วอลเล็ท
คุณยุทธศักดิ์ ภูมิสุรกุล กรรมการผู้จัดการ (ร่วม) ซีพี ออลล์ กล่าวว่า ผู้บริหารร้านเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่ ขอเป็นส่วนหนึ่งในการบริการความสะดวกเป็นช่องทางในการรับบริจาคภายใต้แคมเปญ “ร่วมแบ่งมื้อให้ช้างพ้นโควิด” ในโครงการฯ ผ่านช่องทางเคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านเซเว่น อีเลฟเว่น ทุกสาขาทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน-31 ธันวาคม 2564 เพื่อนำไปช่วยเหลือช้างไทยและทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในด้านต่างๆ ตามความเหมาะสมเร่งด่วน เพื่อให้ช้างไทยก้าวผ่านวิกฤตโควิดไปพร้อมกัน
คุณธีรภัทร ตรังปราการ นายกสมาคมสหพันธ์ช้างไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยมีช้างเลี้ยง 3,800 เชือก และเคยมีปางช้างก่อนวิกฤตโควิด 250 ปาง ซึ่งก่อนหน้านี้ธุรกิจปางช้างถือเป็นหนึ่งในธุรกิจการท่องเที่ยวที่ช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศฝนับหมื่นล้านบาทต่อปี แต่สถานการณ์โควิด-19 ที่ยังคงแพร่ระบาดต่อเนื่อง ส่งผลให้ช้างและควาญช้างตามปางช้างทั่วประเทศประสบปัญหาขาดรายได้ที่เคยได้รับจากนักท่องเที่ยว ทำให้ช้างเลี้ยงกว่า 3,000 เชือกขาดแคลนอาหาร ปางช้างส่วนใหญ่ปิดตัวลงชั่วคราว ช้างเป็นจำนวนมากตกงานและเคลื่อนย้ายออกจากปางเพื่อกลับถิ่นฐาน ที่ผ่านมา หลายหน่วยงานระดมทุนบริจาคแต่ไม่เพียงพอ โดยแต่ละวันช้างเลี้ยงต้องการหญ้าและอาหารที่เหมาะสมอย่างน้อยวันละ 10% ของน้ำหนักตัวหรือประมาณ 200-300 กิโลกรัมต่อตัวต่อวัน มีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยเดือนละ 10,000-15,000 บาทต่อตัว อย่างไรก็ตาม สมาคมสหพันธ์ช้างไทยและเครือข่ายได้ดำเนินการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ควาญช้างและช้างด้วยการจัดส่งอาหารไปให้ช้างแล้ว 1,699 เชือก แต่ยังคงเหลือช้างเลี้ยงอีกจำนวนมากที่ยังต้องการความช่วยเหลือและการสนับสนุนจากภาคส่วนต่างๆ ซึ่งในเบื้องต้นทางเครือ CP-CPF เข้ามาสนับสนุนอาหารเสริมสำหรับช้างและเปิดช่องทางรับบริจาคช่วยเหลือช้างในครั้งนี้ ช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในภาวะวิกฤตที่ยังคงต่อเนื่องนี้ได้เป็นอย่างดี สมาคมฯ จึงขอเชิญชวนคนไทยร่วมด้วยช่วยกันในการช่วยเหลือช้างและปางช้างให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน
สมาคมสหพันธ์ช้างไทยและเครือ CP-CPF ขอเชิญชวนให้คนไทยช่วยกันแบ่งปันคนละเล็กคนละน้อยเพื่อให้ช้างไทยก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 โดยสามารถบริจาคเงินโดยตรงเข้าบัญชี สมาคมสหพันธ์ช้างไทยเพื่อคนไทยรักช้าง ธนาคารกสิกรไทย สาขาสี่แยกสนามบิน เชียงใหม่ บัญชีออมทรัพย์ เลขที่ 092-1-98873-7 หรือ บริจาคผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิสที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทุกสาขาทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถบริจาคผ่านระบบทรูมูฟ เอช โดยกด *948*1303*10# โทรออกเพื่อบริจาค10 บาท *948*1303*100# โทรออกเพื่อบริจาค 100 บาท ผ่านแอปทรูยู โดยใช้ 100 ทรูพอยท์ แทนเงินบริจาค 10 บาท 500 ทรูพอยท์ แทนเงินบริจาค 50 บาท และ 1,000 ทรูพอยท์ แทนเงินบริจาค 100 บาท ผ่านแอปทรูไอดี โดย สแกน QR Code https://tmn.app.link/TEAA01 และผ่านแอปทรูมันนี่ วอลเล็ท โดยบริจาคได้ทุกเครือข่าย