ตามไปดู น้องๆ ชาวเขา รร.บ้านแม่ระเมิง จ.ตาก ร่วมฝ่าวิกฤตโควิด-19 บริหารจัดการผลผลิต ในโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน

สถานการณ์ระบาดของไวรัสโควิด-19 รอบใหม่ ส่งผลกระทบให้โรงเรียนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศสอนผ่านระบบออนไลน์ เพื่อหลีกเลี่ยงและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
“โรงเรียนบ้านแม่ระเมิง” ต.แม่สอง อ.ท่าสองยาง จ.ตาก นักเรียนเกือบ 100 % จากจำนวนนักเรียนทั้งหมด 957 คน เป็นชาวไทยภูเขาเผ่าปะกาเกอะญอ ต้องหยุดเรียนอยู่ที่บ้านเช่นกัน แต่น้องๆ ไม่มีโอกาสเรียนผ่านระบบออนไลน์ เนื่องจากอยู่ในถิ่นทุรกันดาร ยังไม่มีไฟฟ้าใช้ ต้องอาศัยพลังงานแสงอาทิตย์จากแผงโซลาร์เซลล์และเครื่องปั่นไฟ รวมทั้งใช้ระบบน้ำประปาภูเขาต่อจากแหล่งต้นน้ำ
ดังนั้น ในสถานการณ์เช่นนี้ คุณครูต้องเดินทางขึ้นไปบนดอย เพื่อติดตามดูแลนักเรียนและนำใบงานออกไปแจกให้นักเรียนเพื่อทบทวนบทเรียน บางบ้านคุณครูต้องเดินทางขึ้นดอยผ่านทางลูกรัง ระยะทางไกลมากกว่า 30 กิโลเมตร
ด้วยสภาพความเป็นอยู่ของนักเรียนที่มีทั้งอยู่ประจำและไป-กลับ ในช่วงที่เพื่อนๆ หลายคนต้องอยู่บ้านบนดอย มีน้องๆ อีกกลุ่มหนึ่งรับอาสาอยู่ที่โรงเรียน เพื่อช่วยกันดูแลไก่ไข่ในโรงเรือน 400 ตัว ซึ่งปีนี้โรงเรียนเลี้ยงไก่ไข่เป็นรุ่นที่ 4 แล้ว นับจากที่โรงเรียนรับมอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่เพื่ออาหารกลางวันนักเรียน จาก CPF และมูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท ตั้งแต่ปี 2559 ในช่วงโควิด โรงเรียนไม่ต้องส่งผลผลิตไข่ไก่เข้าโครงการฯ จึงต้องบริหารจัดการผลผลิต ผ่านช่องทางต่างๆ เช่น จำหน่ายให้ชุมชน แจกจ่ายให้ผู้สูงอายุ เพื่อเป็นแหล่งอาหารของชุมชน
คุณขุนเพชร พนาลีสงบ ผู้ใหญ่บ้านบ้านแม่ระเมิง เป็นลูกค้าประจำที่สั่งซื้อไข่ไก่จาก รร.บ้านแม่ระเมิง กล่าวว่า สั่งซื้อไข่ไก่จากโรงเรียนเป็นประจำ ทีละ 5 แผง เพราะผลผลิตไข่ไก่ของโรงเรียนสด เก็บได้นาน และราคาก็ใกล้เคียงกับราคาตลาด คือ แผง 30 ฟอง ราคา 90 บาท โดยนักเรียนส่งให้ถึงบ้าน บางทีคุณครูก็มาส่งเอง ผมว่าโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ เป็นโครงการที่ดีมาก ช่วยลดค่าใช้จ่ายของโรงเรียนและส่งเสริมประสบการณ์ของเด็กๆ เรียนรู้การเลี้ยงไก่ไข่ สามารถนำไปประกอบอาชีพได้ ยิ่งช่วงนี้โรงเรียนไม่ต้องส่งผลผลิตไข่ไก่เข้าโครงการฯ ก็นำผลผลิตมาจำหน่ายให้กับชาวบ้านได้บริโภคไข่ไก่ที่สด สะอาด ส่งถึงบ้าน
“อุเทน วนาประเสริฐยิ่ง” นร.ชั้น ม.4 อาศัยอยู่ที่โรงเรียน เนื่องจากบ้านอยู่ห่างจากโรงเรียนเกือบ 10 กิโลเมตร อุเทนสมัครใจช่วยคุณครูดูแลรับผิดชอบโครงการฯ เล่าให้ฟังว่า ได้เรียนรู้วิธีการเลี้ยงไก่ไข่ การดูแลไก่อย่างถูกวิธี สามารถนำความรู้จากการเลี้ยงไก่ไปประกอบอาชีพได้ รวมไปการวางแผนบริหารจัดการผลผลิตไข่ไก่ โดยเฉพาะในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ผลผลิตไข่ไก่ของโรงเรียนเหลือจำนวนมาก จากที่เก็บผลผลิตไข่ไก่ได้ 300 ฟองต่อวัน เพราะในช่วงนี้ไม่ต้องส่งผลผลิตเข้าโครงการฯ โรงเรียนบริหารจัดการผลผลิต โดยนำไข่ไก่จำหน่ายให้ผู้ปกครองนักเรียนที่สั่งซื้อได้ทางไลน์ หรือคนในชุมชนที่โทรมาสั่งซื้อ ไม่ต้องเดินทางมาที่โรงเรียน เพราะผมและเพื่อนๆ จะบริการออกไปส่งไข่ไก่ให้กับผู้ที่ต้องการซื้อถึงที่บ้าน เพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19
“นาคา อาสารักษาไพร” นร.ชั้น ม.6 กล่าวว่า ภูมิใจที่ได้เข้าร่วมโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ เพราะทำให้ได้รับความรู้ใหม่ๆ และวิธีที่ถูกต้องในการเลี้ยงไก่ไข่แบบยืนกรง ที่บ้านผมและบนดอยยังไม่มีใครเคยเลี้ยงแบบนี้ และผลผลิตไข่ไก่จากโครงการมีคุณภาพ สด สะอาด แตกต่างจากไข่ไก่ที่เคยเจอ ผมคิดว่าถ้าบนดอยมีการเลี้ยงไก่ไข่กันในครัวเรือน ทำให้ได้บริโภคผลผลิตไข่ไก่ที่มีคุณภาพ และยังช่วยให้ครัวเรือนมีรายได้จากการขายผลผลิตไข่ไก่
คุณเรืองทรัพย์ ธนมงคลวารี ครูชำนาญการ รร.บ้านแม่ระเมิง ซึ่งรับผิดชอบโครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ กล่าวว่า โครงการนี้ เป็นแหล่งเรียนรู้นอกห้องเรียนที่ส่งเสริมอาชีพให้แก่นักเรียนสามารถนำไปใช้ได้ในอนาคตแล้ว ผลผลิตไข่ไก่สามารถนำมาจำหน่ายให้ชุมชน โดยในช่วงที่โรงเรียนต้องหยุดเรียนจากสถานการณ์ระบาดของโควิด นักเรียนบางส่วนที่พักประจำอยู่ที่โรงเรียน จะนำไข่ไก่ไปส่งให้ชุมชนถึงบ้าน รวมไปถึงนำไข่ไก่ไปแจกจ่ายให้กับผู้สูงอายุในชุมชนด้วย
โครงการเลี้ยงไก่ไข่ฯ เป็นความร่วมมือของ CPF มูลนิธิเจริญโภคภัณฑ์พัฒนาชีวิตชนบท และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ร่วมกับพันธมิตร อาทิ หอการค้าญี่ปุ่น-กรุงเทพ (เจซีซี), แม็คโคร ดำเนินโครงการมาอย่างต่อเนื่องมากกว่า 30 ปี เพื่อส่งเสริมให้เด็กและเยาวชนทั่วประเทศ เข้าถึงการบริโภคไข่ไก่อย่างเพียงพอ สนับสนุนการเจริญเติบโตทั้งทางร่างกายและสติปัญญาอย่างสมวัย และโครงการฯ ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ของเด็กและเยาวชนไทยที่สามารถนำประสบการณ์การเรียนรู้เลี้ยงไก่ไข่ไปประกอบอาชีพได้ในอนาคต โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด ช่วยสร้างความมั่นคงทางอาหารได้เป็นอย่างดี