CPF ยกระดับคุมเข้มทุกขั้นตอนการผลิตสูงสุด การันตีบรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัย

CPF คงมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยของอาหารในทุกขั้นตอนการผลิตตามมาตรฐานสากล ใช้พลาสติก Food Grade ร่วมรักษาและป้องกันการปนเปื้อนในอาหารตลอดการจัดเก็บและจัดส่ง สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มอล
คุณกิตติ หวังวิวัฒน์ศิลป์ ในฐานะประธานคณะทำงานบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน CPF กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปหันมาใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของอาหาร ซึ่งมีความมั่นใจในอาหารพร้อมทานมากขึ้น บริษัทฯ คุมเข้มมาตรการความปลอดภัยในการผลิตอาหารทุกขั้นตอนตามมาตรฐานการผลิตระดับโลก ทั้ง GMP (Good Manufacturing Practice) และ HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) มาโดยตลอด พร้อมยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอดกระบวนการผลิต และให้ความสำคัญกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นพลาสติก Food Grade ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคจากภายนอก และยังคุณค่าทางโภชนาการในอาหารตลอดการจัดเก็บ ไม่ทิ้งสารตกค้างเมื่อสัมผัสกับอาหาร
“CPF เลือกใช้พลาสติกประเภทบรรจุภัณฑ์อาหารที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยบริษัทฯ ได้ทดสอบบรรจุภัณฑ์ทุกๆ ขั้นตอนของทุกเมนูก่อนจะวางจำหน่ายจริงในตลาด ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ นอกจากนี้ CPF ยังใช้เครื่องจักรในการบรรจุอาหารเพื่อให้ปลอดเชื้อ และเพิ่มดีกรีความเข้มข้นในการป้องกันการปนเปื้อนบนบรรจุภัณฑ์ตลอดกระบวนการจัดเก็บและขนส่งจนถึงช่องทางจำหน่าย เพื่อความปลอดภัยสูงสุด” คุณกิตติ กล่าว
คุณกิตติ เสริมว่า การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ CPF คำนึงกับมิติของความปลอดภัยอาหารและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม จึงเลือกใช้พลาสติก Food Grade ที่ปลอดภัยต่อการบริโภค เช่น ใช้พลาสติก PP (Polypropylene) ที่ทนต่อความร้อน สามารถใช้อุ่นร้อนในไมโครเวฟได้ โดยใช้ในอาหารแช่แข็ง เกี๊ยวกุ้ง ไส้กรอก และอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานต่างๆ CPF ยกระดับคุมเข้มทุกขั้นตอนการผลิตสูงสุด การันตีบรรจุภัณฑ์อาหารปลอดภัย
CPF คงมาตรการคุมเข้มความปลอดภัยของอาหารในทุกขั้นตอนการผลิตตามมาตรฐานสากล ใช้พลาสติก Food Grade ร่วมรักษาและป้องกันการปนเปื้อนในอาหารตลอดการจัดเก็บและจัดส่ง สร้างความเชื่อมั่นผู้บริโภคในยุคนิวนอร์มอล
คุณกิตติ หวังวิวัฒน์ศิลป์ ในฐานะประธานคณะทำงานบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน CPF กล่าวว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนไปหันมาใส่ใจเรื่องความปลอดภัยและคุณภาพของอาหาร ซึ่งมีความมั่นใจในอาหารพร้อมทานมากขึ้น บริษัทฯ คุมเข้มมาตรการความปลอดภัยในการผลิตอาหารทุกขั้นตอนตามมาตรฐานการผลิตระดับโลก ทั้ง GMP (Good Manufacturing Practice) และ HACCP (Hazard Analysis Critical Control Point) มาโดยตลอด พร้อมยกระดับมาตรการด้านความปลอดภัยขั้นสูงสุดตลอดกระบวนการผลิต และให้ความสำคัญกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นพลาสติก Food Grade ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันการปนเปื้อนของเชื้อโรคจากภายนอก และยังคุณค่าทางโภชนาการในอาหารตลอดการจัดเก็บ ไม่ทิ้งสารตกค้างเมื่อสัมผัสกับอาหาร
“CPF เลือกใช้พลาสติกประเภทบรรจุภัณฑ์อาหารที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยตามมาตรฐานสากล โดยบริษัทฯ ได้ทดสอบบรรจุภัณฑ์ทุกๆ ขั้นตอนของทุกเมนูก่อนจะวางจำหน่ายจริงในตลาด ซึ่งสามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ นอกจากนี้ CPF ยังใช้เครื่องจักรในการบรรจุอาหารเพื่อให้ปลอดเชื้อ และเพิ่มดีกรีความเข้มข้นในการป้องกันการปนเปื้อนบนบรรจุภัณฑ์ตลอดกระบวนการจัดเก็บและขนส่งจนถึงช่องทางจำหน่าย เพื่อความปลอดภัยสูงสุด” คุณกิตติ กล่าว
คุณกิตติ เสริมว่า การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ CPF คำนึงกับมิติของความปลอดภัยอาหารและความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อม จึงเลือกใช้พลาสติก Food Grade ที่ปลอดภัยต่อการบริโภค เช่น ใช้พลาสติก PP (Polypropylene) ที่ทนต่อความร้อน สามารถใช้อุ่นร้อนในไมโครเวฟได้ และสำหรับอาหารพร้อมทานแช่แข็ง เกี๊ยวกุ้ง ไส้กรอก และอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานต่างๆ
ในมิติของความยั่งยืน นอกจากคำนึงถึงเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) หรือย่อยสลายได้ (Compostable) ซึ่งปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์อาหารของ CPF 99.99% เป็นพลาสติกประเภทที่นำกลับมาใช้ใหม่หรือย่อยสลายได้ นับเป็นบริษัทแรกของไทยที่ใช้ถาดพลาสติกใสชีวภาพ (Polylactic acid หรือ PLA) ซึ่งเป็นพลาสติกที่ทำจากพืชและย่อยสลายได้ทั้งหมด โดยใช้ในสินค้ากลุ่มเนื้อหมูสดและไก่สดแช่เย็น ตั้งแต่ปี 2558 และยังเดินหน้าพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เอื้อต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่มาจากพลาสติกที่ใช้วัสดุชนิดเดียว (Mono Material) ซึ่งจะทำให้บรรจุภัณฑ์หลังใช้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ทั้งหมด ทั้งนี้ CPF ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกชนิดเดียวกันกับผลิตภัณฑ์เนื้อหมูสดและไก่สดแช่เย็น CP Selection และ CP ไข่ม้วน ออมเล็ต ที่วางจำหน่ายแล้วที่ร้าน 7-11
ขณะเดียวกัน CPF ได้เริ่มปรับมาใช้ฟิล์มยืดหุ้มถาดอาหาร ที่เป็นวัสดุ Non-PVC ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในกระบวนการรีไซเคิล เพื่อให้เป็นบรรจุภัณฑ์ที่มีความปลอดภัยด้านอาหารและความยั่งยืนอย่างสมบูรณ์
ทั้งนี้ ในช่วงของการแพร่ระบาดโควิด-19 CPF ยังได้ส่งอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานในบรรจุภัณฑ์ปลอดภัยนี้ ให้กับทีมแพทย์ พยาบาล กลุ่มเปราะบาง และแรงงานข้ามชาติ ใน จ.สมุทรสาคร และพื้นที่ควบคุมสูงสุด ภายใต้ โครงการ “CPF ส่งอาหารจากใจ ร่วมต้านภัยโควิด-19” ขานรับนโยบายของเครือซีพี ซึ่งสร้างความมั่นใจให้บุคลากรทางการแพทย์ และประชาชนในกลุ่มเปราะบางได้บริโภคอาหารคุณภาพปลอดภัย ในช่วงการแพร่ระบาดโควิด-19 อีกด้วย
ในมิติของความยั่งยืน นอกจากคำนึงถึงเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของอาหาร บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับการออกแบบและพัฒนาบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ (Recycle) หรือย่อยสลายได้ (Compostable) ซึ่งปัจจุบัน บรรจุภัณฑ์อาหารของ CPF 99.99% เป็นพลาสติกประเภทที่นำกลับมาใช้ใหม่หรือย่อยสลายได้ นับเป็นบริษัทแรกของไทยที่ใช้ถาดพลาสติกใสชีวภาพ (Polylactic acid หรือ PLA) ซึ่งเป็นพลาสติกที่ทำจากพืชและย่อยสลายได้ทั้งหมด โดยใช้ในสินค้ากลุ่มเนื้อหมูสดและไก่สดแช่เย็น ตั้งแต่ปี 2558 และยังเดินหน้าพัฒนาบรรจุภัณฑ์ที่เอื้อต่อการนำกลับมาใช้ใหม่ได้ โดยใช้บรรจุภัณฑ์อาหารที่มาจากพลาสติกที่ใช้วัสดุชนิดเดียว (Mono Material) ซึ่งจะทำให้บรรจุภัณฑ์หลังใช้เข้าสู่กระบวนการรีไซเคิลได้ทั้งหมด ทั้งนี้ CPF ใช้บรรจุภัณฑ์ที่เป็นพลาสติกชนิดเดียวกันกับผลิตภัณฑ์เนื้อหมูสดและไก่สดแช่เย็น CP Selection และ CP ไข่ม้วน ออมเล็ต ที่วางจำหน่ายแล้วที่ร้าน 7-11
Cr.PR CPF