โควิด-19 ชะลอกำลังซื้อผู้บริโภค-วัตถุดิบแพงขึ้น CPF คาดสถานการณ์ดีขึ้นหลังเปิดประเทศ

ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 หลายประเทศมีมาตรการล็อคดาวน์ รวมถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดที่เข้มงวด ส่งผลต่อกำลังซื้อและการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภค จึงทำให้บริษัทรายงานผลขาดทุนสุทธิในส่วนของบริษัท 5,375 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 172 เมื่อเทียบจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม กำไรสุทธิในส่วนของบริษัทสำหรับ 9 เดือนแรกของปี 2564 อยู่ที่ 6,308 ล้านบาท
ผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 นี้ มีปัจจัยหลักมาจากระดับราคาสุกรเฉลี่ยที่ปรับตัวลดลงร้อยละ 20 ราคาวัตถุดิบอาหารสัตว์ที่แพงขึ้น โดยราคาสุกรที่ปรับลดลงทำให้มูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ชีวภาพลดลง 3,583 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนลดลง 3,294 ล้านบาท จากระยะเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งโดยหลักมาจากผลการดำเนินงานของบริษัทร่วมในประเทศจีน และผลการดำเนินงานของ CPALL
CEO คุณประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ กล่าวว่า ปีนี้นับได้ว่าเป็นปีที่มีความท้าทายในการดำเนินธุรกิจค่อนข้างมากจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รัฐบาลหลายประเทศมีมาตรการปิดประเทศที่มีผลกระทบต่อกำลังซื้อและทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป ขณะที่มาตรการป้องกันโรคเข้มข้นขึ้น ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการธุรกิจเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน ซึ่งมาตรการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบต่อกำลังการผลิตในบางโรงงาน ซึ่งปัจจัยต่างๆ เหล่านี้ทำให้ผลประกอบการไม่เป็นไปตามคาด อย่างไรก็ตาม จากการที่ไทยและหลายประเทศ เริ่มผ่อนคลายการเดินทางของประชาชน ส่งผลให้การบริโภคดีขึ้น ราคาเนื้อสัตว์ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาส 3 ที่ผ่านมา และทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ดีขึ้นเป็นลำดับ
Cr.PR CPF