CPF ชวนร่วมอนุรักษ์โลกและดูแลสิ่งแวดล้อม เนื่องในวัน ‘Earth Day’

CPF เดินหน้าร่วมแก้ปัญหาวิกฤตโลกร้อน สร้างสมดุลระบบนิเวศ ชูกระบวนการผลิตและผลิตภัณฑ์เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและประโยชน์สูงสุดตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) มุ่งสร้างหลักประกันความมั่นคงทางอาหารให้ทุกชีวิตบนโลกอย่างยั่งยืน
คุณวุฒิชัย สิทธิปรีดานันท์ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส ด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน CPF กล่าวว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจสู่เป้าหมายองค์กรที่ยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ 3 เสาหลัก ประกอบด้วย อาหารมั่นคง สังคมพึ่งตน และดินน้ำป่าคงอยู่ มุ่งมั่นขับเคลื่อนภารกิจสร้างความมั่นคงทางอาหาร โดยเฉพาะในภาวการณ์ที่ทั่วโลกเผชิญวิกฤตการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Change) และการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดย CPF ยกระดับความสำคัญตลอดห่วงโซ่การผลิต ตั้งแต่ อาหารสัตว์ ฟาร์มปศุสัตว์ และอาหารสำเร็จรูป เพื่อผลิตและส่งมอบอาหารที่มีคุณภาพ ปลอดภัยอย่างเพียงพอ ร่วมดูแลสุขภาพที่ดีของโลก เพื่อเป็นหลักประกันในการสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับทุกชีวิตบนโลกอย่างยั่งยืน
“วันที่ 22 เมษายน ของทุกปี เป็นวันคุ้มครองโลก หรือ Earth Day ซึ่งประกาศโดยโครงการสิ่งแวดล้อมสหประชาชาติ (United Nations Environment Program :UNEP) เป็นอีกวันหนึ่งที่พวกเราทุกคน ต้องตระหนักถึงปัญหาและผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และภัยธรรมชาติจากฝีมือมนุษย์ หันมาใส่ใจ ร่วมกันฟื้นฟูและดูแลโลก เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น” คุณวุฒิชัย กล่าว
CPF มีส่วนร่วมอนุรักษ์โลกและสิ่งแวดล้อม ด้วยการนำแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานและส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียนตลอดกระบวนการผลิต โดยในปี 2563 สัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนอยู่ที่ 26% ของพลังงานทั้งหมด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 575,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ดึงน้ำมาใช้ต่อหน่วยการผลิตลดลง 36% เมื่อเทียบกับปีฐาน 2558 นำน้ำกลับมาใช้ใหม่หรือใช้ซ้ำ 42% ด้านบรรจุภัณฑ์ยั่งยืน 99.9% ของบรรจุภัณฑ์พลาสติกที่นำมาใช้บรรจุอาหาร สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำหรือนำมาใช้ใหม่หรือย่อยสลายได้ ฯลฯ ซึ่งผลการดำเนินการเหล่านี้ สนับสนุนเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาติ (Sustainable Development Goals : SDGs) นอกจากนี้ CPF มีเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจกทั้งทางตรงและทางอ้อมต่อหน่วยการผลิตลง 25% ภายในปี 2568
CPF ยังได้กำหนดนโยบายการจัดการอาหารสูญเสียและขยะอาหาร ตั้งแต่ต้นทางการผลิต ครอบคลุมตลอดห่วงโซ่คุณค่าของการผลิตอาหาร การสนับสนุนการนำอาหารส่วนเกินและขยะอาหารมาหมุนเวียนใช้บนพื้นฐานมาตรฐานความปลอดภัยให้เกิดประโยชน์ต่อสังคม ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึงการสร้างความตระหนักส่งเสริมด้านการบริโภคและการผลิตอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้มีส่วนได้เสีย เช่น ลูกค้า คู่ค้า พนักงาน และเกษตรกร เพื่อลดการสูญเสีย อาหารส่วนเกิน และขยะอาหาร ตามเป้าหมาย Zero Waste & Zero Food to Landfill ภายในปี 2030 (พ.ศ. 2573)
นอกจากนี้ การแก้ปัญหาและรับมือกับการปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยอาศัยธรรมชาติเป็นพื้นฐาน (Nature-based Solution) จากการดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และปกป้องความหลากหลายทางชีวภาพ CPF ได้สานต่อการดำเนินโครงการด้านสิ่งแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วย โครงการซีพีเอฟ รักษ์นิเวศ ลุ่มน้ำป่าสัก เขาพระยาเดินธง อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าต้นน้ำในพื้นที่เขาพระยาเดินธง จ.ลพบุรี 5,971 ไร่, โครงการซีพีเอฟ ปลูกปันป้องป่าชายเลน อนุรักษ์และฟื้นฟูป่าชายเลน พื้นที่ยุทธศาสตร์ 5 จังหวัด 2,388 ไร่ และโครงการรักษ์นิเวศ ส่งเสริมการปลูกต้นไม้ในสถานประกอบการของซีพีเอฟทั่วประเทศ 1,720 ไร่ ซึ่งปัจจุบันทั้ง 3 โครงการ เข้าสู่การดำเนินการในระยะที่สองแล้ว
Cr.PR CPF